วันที่ 23 พ.ค.62 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาศาลซึ่งนัดตรวจหลักฐานในคดีฟอกเงินทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยฯ กับกลุ่มกฤษดามหานคร เป็นเช็ค 1 ฉบับจำนวนเงิน 10 ล้านบาท โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย, นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย, นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ มาร่วมให้กำลังใจนายพานทองแท้
ทั้งนี้ นายพานทองแท้ ได้เดินทางมาพร้อมกับน้องสาวน.ส.พินทองทา คุณากรวงศ์หรือ เอม กับน.ส.แพทองธารชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ได้ยกมือไหว้สวัสดีทักทายกลุ่มแกนนำพรรคที่มาให้กำลังใจและเพื่อนสนิทก่อนเข้าห้องพิจารณาคดี
สำหรับคดีนี้ พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 4 เป็น โจทก์ยื่นฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร ฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน โดยในวันนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดตรวจหลักฐาน โดย นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้เดินทางมาพร้อมด้วย นางสาว พินทองทา ชินวัตร และ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ที่ร่วมเดินทางมาให้กำลังใจ
หลังจากเข้าตรวจหลักฐานเสร็จเรียบร้อยแล้ว นายพานทองแท้ เปิดเผยว่า มั่นใจกับหลักฐานที่มีในขณะนี้และทุกอย่างได้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนเองก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมาตามขั้นตอน ซึ่งพร้อมที่จะมารับฟังคำพิพากษาของศาล แต่ในส่วนของการเมืองไม่ขอพูดถึงเพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตนเอง ทั้งนี้ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์และจำเลยอีก 3 นัดในวันที่ 24-25-26 ก.ย. และกำหนดนัดคำฟังพิพากษาล่วงหน้าในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562
สำหรับคดีดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. 2546 เมื่อผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในขณะนั้น ได้ให้สินเชื่อกับ กลุ่ม บมจ.กฤษดามหานคร จำนวน 9.9 พันล้านบาท ทั้งที่มีความเสี่ยงสูง และไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ ที่มีสถานะในกลุ่มลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคาร
คดีนี้ อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทักษิณ, กรรมการบริหาร, กรรมการสินเชื่อ, เจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารกรุงไทย และกลุ่มบริษัทเอกชน รวม 27 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นมี นายพานทองแท้ ชินวัตร รวมอยู่ด้วย ที่ผ่านมานายพานทองแท้ถูกกล่าวหาว่ารับเงินจากการปล่อยกู้มิชอบ 2 ก้อนคือ 26 ล้านบาท และ 10 ล้านบาท อัยการสั่งฟ้องเฉพาะกรณีรับเช็ค 10 ล้านบาท ฐานสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งนายพานทองแท้ ให้การว่า รับเงินมาร่วมลงทุนนำเข้ารถยนต์หรู แต่ได้ยกเลิกโครงการและคืนเงินกลับแล้ว