Google ตัดสัมพันธ์กับ Huawei ไม่ให้ใช้แอนดรอยด์ มีผลทันที
เป็นประเด็นร้อนซะแล้ว จากกรณีที่ประธานธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเพิ่มชื่อหัวเว่ยเข้าใน Blacklist ด้านการค้า ที่ทาง Huawei เองก็ได้ออกแถลงโต้ตอบไปก่อนหน้านี้แล้ว ล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้เผยแพร่ข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ทาง Google จะระงับการทำธุรกิจกับ Huawei ลง ซึ่งจะส่งผลกระทบหลายอย่าง รวมถึงการใช้งานบริการต่างๆ ของ Google บนระบบปฏิบัตการ Android กับผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ย ก็จะไม่สามารถใช้งานได้หรือไม่ได้รับการอัพเดทจาก Google ได้อีกต่อไป
เป็นกระแสร้อนแรงมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว เกี่ยวกับการตั้งกำแพงการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน แต่ที่ได้ผลกระทบหนักสุดตลอดมาก็คือ Huawei เพราะมีทั้งเรื่องสั่งห้ามไม่ให้จำหน่ายในอเมริกา เพราะรัฐบาลสหรัฐระบุว่าอาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคง
จนถึงขั้นมีการจับกุมผู้บริหารระดับสูงของหัวเว่ยที่แคนาดา และส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐอเมริกา ด้วยข้อหาด้านภัยทางด้านความมั่นคง จนทั่วโลกมองว่าสหรัฐจะมีปัญหากับหัวเว่ยมากๆ เพราะมีการกดดันกับนานาประเทศ ที่เตรียมจะใช้ระบบเครือข่าย 5G ว่าถ้าหากใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย ก็อาจจะผลด้านความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาด้วย
และนี่อาจจะเป็นปัญหาใหม่ ที่ใหญ่มากของหัวเว่ย โดยแหล่งข่าวได้ระบุว่า เรื่องนี้กำลังถูกเจรจากันภายในบริษัทระหว่าง Google และ Huawei เพราะนี่เป็นเรื่องร้ายแรงระดับที่ว่า เมื่อไม่สามารถทำการค้าร่วมกันได้แล้ว บริการต่างๆ ของ Google จะไม่สามารถใช้งานหรือได้รับการซัพพอร์ต กับทางอุปกรณ์ของหัวเว่ยในอนาคต
บริการต่างๆ นั้น ตั้งแต่ในส่วนของ Play Store และ Service ต่างๆ ของ Google ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Chrome, Google Maps ฯลฯ ไปจนถึงการอัพเดทตัวความปลอดภัย Security Patch จากทาง Google
อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยจะถูกจำกัดให้ใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้ เฉพาะขั้นพื้นที่ฐานที่เป็น Android Open Source Project (AOSP) ที่เป็นโอเพ่นซอร์สเท่านั้น อะไรที่มีการซัพพอร์ตจาก Google (รวมไปถึง Alphabet) จะไม่สามารถใช้งานได้
เบื้องต้นตอนนี้ ยังไม่มีประกาศหรือแถลงอย่างเป็นทางการจากทาง Alphabet (Google) และ Huawei เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเราต้องติดตามกันต่อไปว่าจะเกิดผลกระทบอะไรหรือไม่ ก่อนหน้านี้ ทางหัวเว่ยเริ่มมีความเคลื่อนไหว ในเรื่องแผนการพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองขึ้นมาเพื่อทดแทนการใช้ Android
หัวเว่ย จะสามารถทำธุรกิจโดยไม่พึ่งพาสหรัฐฯ ได้หรือไม่?
ปัจจุบัน มีผู้ใช้งานโทรศัพท์แอนดรอยด์ทั่วโลกกว่า 2,500 ล้านเครื่อง และหัวเว่ยเพิ่งแซงหน้า Apple ขึ้นมาเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับที่ 2 ของโลกเมื่อไตรมาสที่ผ่านมา
มีข่าวความเคลื่อนไหวภายในหัวเว่ยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ว่าหัวเว่ยกำลังพิจารณาที่จะพัฒนาระบบปฏิบัติการของตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพากูเกิล ซึ่งเป็นแผนสำรองในกรณีที่หัวเว่ยถูกกูเกิลจำกัดการเข้าถึง แต่ดูเหมือนว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วเกินไป
ใช้สมาร์ทโฟนหัวเว่ยปัจจุบัน มีผลอะไรบ้าง?
ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนหัวเว่ยรุ่นปัจจุบัน จะยังสามารถอัปเดตแพพลิเคชั่นต่างๆ ผ่าน Google Play Store ได้ แต่อาจมีผลต่อการได้รับอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ ที่หัวเว่ยอาจไม่ได้รับการซัพพอร์ตจากกูเกิลในการส่งมอบอัปเดต จากผลการขึ้นบัญชีดำทางการค้า
แอปพลิเคชันยอดฮิตจาก Google เช่น Gmail YouTube และเว็บเราเซอร์ Chrome ซึ่งสามารถดาน์โหลดได้ผ่านทาง Play Store อาจจะหายไปจากโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่ Huawei จะออกมาในอนาคต เนื่องจากบริการต่างๆ เหล่านี้ไม่รวมอยู่ในโอเพ่นซอร์ส จะต้องใช้สัญญาตกลงทางการค้ากับ Google เท่านั้น
อนาคตของสมาร์ทโฟนหัวเว่ย
หัวเว่ย มีแผนในการเปิดตัวสมาร์ทโฟนหลายรุ่นต่อปี โดยในปีนี้ ได้ทำการเปิดตัว Huawei P30 Series ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และปลายปีนี้ก็เตรียมจะเปิดตัว Huawei Mate 30 Series ที่ตั้งเป้าจะเป็นรุ่นสำคัญของบริษัทฯ การระงับบริการจากฝั่งสหรัฐฯ ในครั้งนี้เกิดคำถามว่า Huawei จะยังดำเนินการตามแผนเดิมได้อยู่หรือไม่?
การระงับครั้งนี้ มีผลต่อธุรกิจสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยที่อยู่นอกประเทศจีน และมีผลกับจีนน้อยมาก เนื่องจากปัจจุบันชาวจีนถูกจำกัดการเข้าถึงบริการของกูเกิลทั้งหมดอยู่แล้ว และมีแอพจีนที่ให้บริการในลักษณะเดียวกันทดแทนอยู่ แต่ในหลายประเทศทั่วโลก หัวเว่ยมีตลาดใหญ่เป็นอันดับ 1 หรือ 2 ซึ่งจะเกิดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจอย่างกว้าง