เผยนาทีโหด สาวเซเว่นถูกยิงกรอกปาก ต้องแกล้งตายถึงรอดมาได้
หากนับดูดีๆ กว่าครึ่งของเหตุทำร้ายร่างกายกัน มักเกิดจากสาเหตุหึงหวงกันซะส่วนใหญ่ ครั้งนี้ก็เช่นกันกับเหตุการณ์ทหารพรานยิงกรอกปากสาวเซเว่น เป็นเพราะหึงหวงหลังเลิกรากันไปแล้ว
(ทหารพรานหึงโหด ยิงกรอกปากสาวเซเว่น)
หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจ ปู่อินทร์ จุดห้วยปริก ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืน ในพื้นที่บ้านโคกไม้แดง ม.2 ต.ห้วยปริก อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบมีผู้บาดเจ็บเป็นหญิงสาว ทราบชื่อว่า น.ส อรอนงค์ พรมศรีแก้ว อายุ 24 ปี มีบาดแผลจากกระสุนปืนที่ต้นขาซ้าย แก้มขวาทะลุเหนือริมฝีปาก และนิ้วมือขวาบาดเจ็บสาหัส จึงนำส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ส่วนคนร้ายได้หลบหนีไป
(ด้านเหยื่อบาดเจ็บสาหัส แต่รอดมาได้เพราะแกล้งตาย)
(นอนจมกองเลือดหลับตาสนิท คนร้ายจึงเข้าใจว่าตายแล้ว จึงหลบหนีไป)
จนเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2562 สำนักข่าวอมรินทร์ทีวี ได้สอบถามนายอ๊อด (นามสมมติ) พี่ชายผู้บาดเจ็บที่เปิดเผยว่า น้องสาวตนรู้จักกับชายคนนี้ผ่านทางเฟสบุ๊ก แต่ตลอดเวลาที่น้องคบกับชายคนนี้ ก็มักถูกทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำ สาเหตุเพราะหึงหวง กลัวน้องตนจะไปมีคนอื่น อารมณ์รุนแรง ถึงขั้นเคยพูดกับน้องตนว่าเคยก่อเหตุฆ่าคนตาย แต่ไม่ต้องรับโทษเพียงแค่กลับเข้ากรมทหาร ซ้ำยังขู่น้องตนว่า หากเลิกกัน จะตามฆ่าทั้งครอบครัว
(พี่ชายผู้บาดเจ็บเล่าว่า ที่ผ่านมาน้องสาวตนถูกทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำ สาเหตุเพราะหึงหวง)
(น.ส.อรอนงค์ เล่าว่าตอนนั้นถูกจ่อยิงที่หัว แต่ตนมีสติหลบได้ กระสุนเลยเข้าแก้มทะลุปาก ไม่โดนกราม)
มาวันที่ 10 พ.ค. 2562 วันเกิดเหตุ น้องสาวตนได้แยกทางกับผู้ก่อเหตุมา 2 เดือนแล้ว โดยก่อนหน้านี้ผู่ก้อเหตุได้โพสต์เฟสบุ๊กระบุข้อความว่า “จะกลับบ้านไปฆ่าคน” ตนรู้ทันทีว่าหมายถึงน้องสาวตน และมีการวางแผนมาก่อน ตอนนี้น้องสาวตนอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพราะถูกกระสุนเข้าร่างกาย 4 นัด บริเวณแก้ม เฉี่ยวหางคิ้ว หัวไหล่ และมีกระสุนฝังที่ขา
(โฉมหน้านาธนาธร ผู้ก่อเหตุ)
(โพสต์เฟสบุ๊กที่นายธนาธรระบุข้อความเป็นนัย)
ด้าน น.ส อรอนงค์ พรมศรีแก้ว เล่านาทีเกิดเหตุว่า ก่อนที่ตนโดนยิง นายธนาธรผู้ก่อเหตุตบตนเองก่อน แล้วลากตัวไป ตนพยายามวิ่งหนี จนถูกนายธนาธรยิงเข้าที่ขาจนล้ม แล้วเดินมาจ่อยิงที่หัว แต่ตอนนั้นตนมีสติ สะบัดหัวหลบกระสุนจนโดนเข้าที่แก้มทะลุปาก ไม่โดนกรามและฟัน จากนั้นจึงแกล้งตายจมกองเลือด กระทั่งหน่วยกู้ภัยมาถึง ส่วนเรื่องโพสต์เฟสบุ๊ก ตนไม่ทราบมาก่อนเพราะช่วงนั้นไม่ได้เล่น หากเห็นโพสต์ก่อนคงจะหลบหนีเลี่ยงการเผชิญหน้าได้