จนท.บุกจับร้านคาราโอเกะ หลังมีเบาะแส นร.หญิงขายบริการ พบเจ้าของร้านเป็นเมียตำรวจ ลั่น เด็กมาเอง
เจ้าของร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในเขต ต.ใหญ่ อ.เมืองอุดรธานี โวยวายใส่ ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมปกครอง ชุดสืบสวนคดีค้ามนุษย์ DSI และ มูลนิธิรณสิทธิ์ หลังบุกจู่โจมร้านอาหารกึ่งคาราโอเกะ ต.ใหญ่ ซ.ประชาราษฎร์ ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งถูกแจ้งดบาะแสว่ามีการกระทำเช่นนี้มาหลายปีแล้ว
เจ้าหน้าที่พบหญิงสาวรวม 10 คน และยังพบว่ามี 4 คน ในจำนวนนี้ อายุแค่เพียงแค่ 16-17 ปี ที่สำคัญ สถานภาพยังเป็นนักเรียนชั้นมัธยมสถานศึกษาชื่อดังในจังหวัดอุดรธานี
อาจารย์ท่านหนึ่ง ส่งข้อมูลให้ชุดจับกุม ระบุว่า "นักเรียนของผม ถูกเพื่อนชวนไปทำงานที่ร้านนี้ เพื่อหารายได้ช่วงปิดเทอม แต่มาทราบข้อมูลว่า ร้านดังกล่าวแฝงค้าบริการพนักงาน โดยเฉะพาะลูกจ้างที่เป็นนักเรียน จะถูกส่งรูปแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า มีนักเรียนสาวมาขายบริการ เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ชื่นชอบแนวนี้"
ส่วนการแยกสอบสวนเด็กสาว ให้การสอดคล้องกันว่า ถูกเพื่อนชวนมาทำงาน ยิ่งถ้าเป็นเด็กนักเรียน ด้วยแล้วลูกค้ายิ่งชอบ แม้ส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคนที่อาจมีลูกสาวรุ่นเดียวกับพวกเธอ
ส่วนสาเหตุที่มาทำงานที่นี่ยอมรับว่า ต้องการเก็บเงินก้อน ไปใช้จ่ายค่าเล่าเรียนช่วงเปิดเทอม ขณะที่เจ๊เจ้าของร้าน แม้ตอนแรกจะโวยวายปฏิเสธ แต่จากการจรวจค้นพบ ถุงยางอนามัยหลายชิ้น และ ตารางขึ้นงานของเด็ก พร้อมบัญชีรายได้ ซึ่งเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้เจ๊คงไม่ได้นำไปใช้กับสามี
สำหรับเจ๊เจ้าของร้านพบว่า เธอเป็นภรรยาตำรวจ สังกัดโรงพักท้องที่ของร้าน ซึ่งน่าแปลกใจว่า เปิดมาหลายปี ไม่มีใครรู้ว่าที่นี่ ค้ากามเด็กนักเรียน ผู้ต้องหาจะชักชวนเด็กสาววัยรุ่นมาทำงาน ยิ่งถ้าเป็นเด็กนักเรียน จะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ โดยบางรายจะถูกส่งรูปภาพชุดนักเรียนให้แก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าติดใจมาซื้อบริการถึงที่ร้าน
สำหรับคดีนี้เจ้าหน้าที่ฟัน 3 คดีหนัก คือ ค้ามนุษย์ พากผู้เยาว์ และ เปิดสถานบริการผิดกฎหมาย แก่เจ๊เจ้าของร้าน ส่วน สามี เตรียมถูกออกหมายเรียกเข้าสอบสวน นอกจากนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังรับผิดชอบสอบสวนเอง เนื่องจาก สามีผู้ต้องหาเป็นตำรวจท้องที่ ซึ่งอาจทำให้ สภ.เมืองอุดรธานี ไม่อาจรับสอบสวนคดีได้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
ขอบคุณ รถตระเวนข่าว V.2