สามีสาว 17 ถูก พ่อขืนใจ เผยเรื่องช็อก ตอนนี้ภรรยาตั้งท้อง 4 เดือน แต่ไม่รู้ เป็นลูกของใคร
กลายเป็นเรื่องราวชีวิตสุดเศร้า ที่ทำผู้คนสะเทือนใจ เมื่อล่าสุด เว็บไซต์ brighttv รายงานว่า จากกรณีที่ตำรวจภูธรพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้จับกุมตัวนายวินัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี บิดาของ น.ส. เอ นามสมมุติ อายุ 17 ปี หลังจากก่อเหตุข่มขืน น.ส.เอ มาเป็นเวลานานกว่า 4 ปี ซึ่งตำรวจนำตัว นายวินัย ผู้ต้องหาฝากขังยังศาลจังหวัดฉะเชิงเทราไปแล้วนั้น
ชีวิตรักช่างเศร้าเหลือเกิน
ล่าสุดวันนี้ ( 29 เม.ย.62 ) นายบุญธรรม ทองเลิศ ทนายความของ นายอภิชาติ อายุ 27 ปี สามีของ น.ส.เอ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการผูกข้อมือขอขมาแต่งงานกันเป็นที่เรียบร้อย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สุริยันต์ แก้วพิทูลย์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจหลังถูกออกหมายเรียกเพื่อเดินทางเข้าพบ
นายอภิชาติ สามีของ น.ส.เอ เปิดเผยว่า ตนเองได้ไปสู่ขอ น.ส.เอ กับ นายวินัย เนื่องจากมีความรักใคร่ชอบพอกับ น.ส. เอ จนมีการผูกข้อมือขอขมาแต่งงานกันเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เดือนกุมพาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งในวันงานนายวินัย ก็ไปร่วมงานในฐานะพ่อของเจ้าสาว
เสียค่าสินสอด 80,000 บาท โดยไม่รู้มาก่อนว่าแฟนสาวของตัวเองโดนพ่อขืนใจ
ซึ่งทางตนได้เสียค่าสินสอดให้กับทางนายวินัย เป็นจำนวนเงิน 80,000 บาท ที่ผ่านมาไม่เคยทราบเรื่องมาก่อนเลยว่า น.ส.เอ ถูกพ่อแท้ๆข่มขืน ทราบแต่เพียงว่าถูกเฆี่ยนตีอย่างรุนแรง ก็เข้าใจว่าเกิดจากความรักและห่วงลูก จนสุดท้ายตนเองเห็นพฤติกรรมของพ่อ ที่ทำกับภรรยาของตนรุนแรงมากขึ้น จึงตัดสินใจโทรศัพท์พูดคุยกับแม่ของ น.ส.เอ ที่อยู่ประเทศออสเตเลีย จนทราบความจริง ว่านายวินัย พ่อแท้ๆ ได้ข่มขู่ใช้มีดจี้ ข่มขืน น.ส.เอ ซึ่งเป็นลูกแท้ๆ ของตนเอง
ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมากและขณะนี้ น.ส.เอ ได้ตั้งท้องแล้วประมาณ 4 เดือน แต่ก็ไม่สามารถพาไปฝากครรภ์ได้ เนื่องจากถูกนายวินัย ผู้เป็นพ่อกีดกันและยึดเอกสารบัตรประชาชนของ น.ส.เอ เอาไว้ ทำให้ญาติของตนทุกข์ใจ เพราะไม่รู้ว่าลูกที่ น.ส.เอ ตั้งท้องนั้นเป็นลูกใคร ส่วนตนเองก็อาจจะต้องโดนคดี เนื่องจากภรรยาของตน อายุยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ จึงเดินทางเข้ามาให้ปากคำในวันนี้
แฟนสาวได้ตั้งท้องมาประมาณ 4 เดือน
ด้าน นายบุญธรรม ทนายความ เปิดเผยว่า ได้พาลูกความเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ในขณะที่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา แต่จะทำการสอบเพิ่มหากเข้าข่ายตามกฏหมายข้อไหน ก็จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งไม่ได้หนักใจ เพราะที่ผ่านมาก็มีกฏหมายรองรับในกรณี พรากผู้เยาว์ไปเป็นสามีภรรยา ที่เกิดจากความยินยอมรักใคร่และยินยอมของผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย โดยทำการที่ถูกต้องตามประเพณี ก็จะมีการยกเว้น ส่วนในเรื่องคดีของนายวินัย ทางฝ่ายลูกความตนไม่ขอยุ่ง ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฏหมาย