หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กินน้ำมันปลากับวิตามินซีได้หรือไม่?

โพสท์โดย dansangob

น้ำมันปลากับวิตามินซีได้หรือไม่? 

หากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบทานเนื้อสัตว์กับผลไม้รสเปรี้ยว การเพิ่มอาหารเสริม ทั้งสองตัวนี้ก็เป็นสิ่งที่ร่างกายควรได้รับ ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ และควรตรวจสอบอาหารเสริมทั้งสองตัวนี้ก่อน ว่าผลิตมาจากแหล่งที่ได้มาตรฐาน ไม่มีสารตกค้างใดๆ  ช่วยเสริมสร้างเซลล์ให้ร่างกายแข็งแรง ส่วนวิตามินซี ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้หายได้ไวขึ้น โดยเฉพาะแผลอักเสบ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราสามารถหาแหล่งอาหารมาได้จากธรรมชาติ ก็อาจจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้

 

น้ำมันปลากับน้ำมันตับปลาต่างกันยังไง?

เรารู้จัก “ น้ำมันตับปลา ” มานานแล้ว โดยใช้เป็นอาหารเสริมซึ่งมีวิตามินที่สำคัญคือ วิตามินเอ และ ดี น้ำมันตับปลาเป็นน้ำมันที่สกัดจากตับปลาทะเลบางชนิด เช่น ปลาคอด (COD) ส่วนน้ำมันปลาไม่ใช่น้ำมันตับปลา แต่เป็นน้ำมันที่สกัดมาจากส่วนหัวหรือเนื้อปลาทะเล ในน้ำมันปลานี้จะอุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็น ซึ่งร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้ กรดไขมันจำเป็นชนิดนี้เป็นกรดไขมันประเภทไม่อิ่มตัว มีชื่อเรียกว่า “โอเมก้า 3” ซึ่งมีอยู่มากในน้ำมันปลาเป็นปริมาณมาก

 

11 สรรพคุณของน้ำมันปลา:

1.บรรเทาอาการโรคข้อกระดูกอักเสบ ไม่เฉพาะแคลเซียม วิตามินดี และแมกนีเซียม เท่านั้น แต่น้ำมันปลาก็ยังช่วยให้สุขภาพกระดูกดีขึ้นได้

2.ช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้ กรดไขมันในน้ำมันปลา จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของพรอสตาแกลนดิน และลดการหลั่งสารซีโลโทนิน ทำให้การเกาะตัวของหลอดเลือดลดลงในระยะที่มีการบีบตัวของหลอดเลือดในสมอง

 

3.กรดไขมันโอเมก้า 3 มีคุณสมบัติในการช่วยลดอาการอักเสบ อาการตึงแน่น และอาการข้อยึดตอนเช้า ในผู้ที่มีภาวะข้อเสื่อมและข้ออักเสบรูมาตอยด์

 

4.น้ำมันปลาส่งผลดีต่อการลดน้ำหนัก มีบุตรยาก และหญิงตั้งครรภ์ กระทรวงสาธารณสุขของอเมริกาอนุญาตให้ใช้น้ำมันปลาเป็นยาที่ช่วยลดไขมันชนิดไม่ดีที่เรียกว่า “ไตรกลีเซอไรด์” ได้

5.โอเมก้า 3 จะมีส่วนช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น จึงมีผลให้ความดันลดลง โดยที่น้ำมันปลาจะไม่มีผลต่อความดันในผู้ที่มีความดันโลหิตปกติ

6.ช่วยชะลอความชรา

7.รักษากล้ามเนื้อที่ไร้ไขมัน (Lean muscle) ในผู้ป่วยมะเร็ง ช่วยป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อของผู้ป่วยมะเร็งที่ผ่านการทำเคมีบำบัดได้

8.ช่วยให้ผลลัพธ์ของการออกกำลังกายดีขึ้น เพราะช่วยให้ไขมันในร่างกายลดลง

9.มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน โดยนักวิจัยพบว่ากรดไขมัน EPA ในน้ำมันปลา จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีขึ้นได้

10.มีส่วนช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดได้ 20% – 50% ที่สำคัญ คือ ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย สามารถใช้ร่วมกับยาในการลดระดับไขมันในผู้ที่มีไขมันในเลือดสูงได้

11.เสริมสร้างพลังให้กับสมองและความจำ ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น

 

4 ข้อควรระวังของน้ำมันปลา:

1.ผู้ที่มีโรคประจำตัว ให้ปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ก่อนรับประทานทุกครั้ง

2.น้ำมันปลา มีคุณสมบัติต้านการจับตัวเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดที่ทำให้เลือดหยุดไหล ผู้บริโภคน้ำมันปลาปริมาณมากต่อเนื่อง จึงอาจเกิดภาวะเลือดออกได้ง่าย จึงควรระวังการรับประทานน้ำมันปลาในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกง่าย เช่น ผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร ผู้ที่รับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด(ยาต้านการแข็งตัวของเลือด) เช่นยา วาร์ฟาริน (Warfarin), แอสไพริน (Aspirin) และโคลพิโดเกรล (Clopidogrel) เพราะจะทำให้ความเสี่ยงในการเกิดเลือดออกเพิ่มมากขึ้น

3.หากต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดรับประทานน้ำมันปลาก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 14 วัน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดไหลไม่หยุดจากแผลผ่าตัดได้

4.การรับประทานน้ำมันปลาในขนาดสูง จะเพิ่มปริมาณแคลอรีที่ได้รับต่อวัน จึงอาจส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอล (Cholesterol) ในเลือดเพิ่มขึ้น และอาจทำให้ระดับวิตามินอีในร่างกายลดลงได้

 

โพสท์โดย: dansangob
แหล่งที่มา: https://www.siamzoneza.com/5183/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
dansangob's profile


โพสท์โดย: dansangob
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำจรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกันเขมรมีการเรียกร้อง ไทยต้องถอยกลับไปจุดเดิมเท่านั้น ให้คนเขมรกลับมาอยู่ที่ทำกินเดิม"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชนชาวเขมร" ให้อภัยชาวไทย กลับมารักกันเหมือนเดิม หลังเกิดการปะทะ กันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาเขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่ลือหึ่ง "ตระกูลฮุน" วงแตก "ฮุนมาเนต" จ่อปฏิวัติยึดอำนาจ "ฮุนเซน" ญาติทหารลุกฮือเลิกรบ แต่ผู้นำสั่งห้ามถอยองค์กรช่วยเหลือระหว่างประเทศ เรียกร้องให้ไทยหยุดยิงทันที!!ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจายเขมรเสี่ยงเอารถขนยุทโธปกรณ์มาเติมที่เขาพระวิหารสุดท้าย ถูกไทยยิงทำลายอย่างง่ายดาย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เพจดัง แชร์ข้อความเตือนกันจอมพลัง กรณีไม่ให้เกียรติ บุคคลที่เสียชีวิตในสงคราม สุดท้าย โดนกันจอมพลังบล็อกจะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?🦁🔥 ระอุจนถึงไพรม์! เสือโคร่ง vs สิงโต — ใครคือ “ราชาแห่งราชา” ในสังเวียนตัวต่อตัว?นางแบบดัง "คิมซูบิน" ตั้งท้องลูกคนแรก กับดาราดัง "ยุนพัค"มาดู “อดีตไอดอล” ที่พิสูจน์ว่า 40 ยังแจ๋ว — เซรินะ อดีต SDN48 กับการคัมแบ็กสายกราเวียร์
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ทึ่งทั่วโลก : "ทะเลสาบเพโท" ทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แสนสดใสที่มองจากมุมสูงแล้วมีรูปร่างเหมือน "หัวสุนัขจิ้งจอก" ด้วยน๊าจะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?ทึ่งทั่วไทย : "สะพานท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย" (Bali Hai Pier) ในยามค่ำคืนเตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
ตั้งกระทู้ใหม่