“บิ๊กตู่” จ่อส่งหนังสือเทียบเชิญ 194 ส.ว.แล้ว เมินคนแช่งให้ตกเครื่อง ลั่น “ผมห้อยพระอยู่แล้ว”
วันที่ 22 ก.พ.62 ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานพิธีมอบโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ เพื่อเป็นสมบัติของชาติ ถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ในส่วนของ คสช. ว่า ขณะนี้ได้มีการเตรียมการไว้แล้วและยังพอมีเวลาอยู่ ตอนนี้ในส่วนรายชื่อส.ว.มีการลิสต์รายชื่อต่างๆมาดูก่อน ซึ่งเอามาจากหลายที่ด้วยกัน ส่วนเจ้าตัวจะรับหรือไม่รับต้องว่ากันอีกที ซึ่งต้องส่งหนังสือไปให้เขาตอบรับมา เนื่องจากทุกอย่างมีกติกากำกับอย่างชัดเจนว่า คุณสมบัติเช่นนี้เป็นได้หรือไม่ได้ ที่สำคัญต้องดูว่าเขาจะรับหรือไม่ ถึงเราอยากจะเลือกและอยากได้เขาเข้ามาแต่เจ้าตัวอาจไม่มาก็ได้
.
อย่างวันนี้หลายคนไม่อยากเข้ามาทางการเมือง เช่นเดียวกันเกรงว่าจะมีปัญหาทั้งเรื่องส่วนตัวบ้างอะไรบ้าง สิทธิประโยชน์ที่เคยได้เคยมีอยู่ ก็ต้องเลิกทั้งหมดเลย การเป็นคณะกรรมการต่างๆ ก็ต้องเลิก ฉะนั้นรัฐบาลและคสช.ต้องพิจารณอย่างรอบคอบ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงวันนี้มีคนปฏิเสธเยอะหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่มีการทาบทามเลย เพียงเตรียมรายชื่อเอาไว้เฉยๆ
เมื่อถามต่อว่า จะมีการป้องกันคำครหาว่าคัดเลือกเฉพาะคนของตัวเองได้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เขาครหาได้ทุกๆ เรื่องอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นการทำตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ จึงอยากให้ทุกคนคิดว่าตนได้ทำอะไรมาแล้วบ้าง ก็ควรจะเชื่อมั่นในตัวของตนบ้าง เพราะไม่ว่าจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมากี่กรรมการก็โดนข้อครหาอยู่ดี ทุกอย่างก็กลับมาที่ตน ไม่มีใครว่ามันจะดีเพราะไม่มีอะไรจะดีหรือเสียทั้งหมด การทำงานต่างๆ ย่อมมีทั้งเรื่องดีและไม่ดี ทำสำเร็จและไม่สำเร็จ ก็ต้องมาดูว่าอะไรมากกว่ากัน ถ้าทำสำเร็จมากกว่าก็ต้องให้กำลังใจให้ทำงานต่อไป คนที่จะเข้ามาก็ต้องให้เขารู้สึกว่า เมื่อเข้ามาแล้วได้รับการชื่นชม ไม่ใช่พอเริ่มจะเข้ามาก็ถูกเล่นงานทั้งหมด แล้วใครเขาจะอยากเข้ามา แล้วจะได้คนดีๆ เข้ามาทำงานกันหรือ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง รัฐบาล หรือ ส.ว. ไม่มีใครอยากเป็นกันทั้งนั้น อย่าคิดว่ามันง่าย การที่อยู่มา 4-5 ปี เอาคนเข้ามาทำงานกับรัฐบาล คสช.ไม่ใช่เรื่อง่าย เพราะหลายคนก็มีปัญหาส่วนตัวของเขา กติกาต่างๆ ทำให้เสียสิทธิจำนวนมาก ความจริงไม่ใช่เขาไม่อยากมา แต่เข้ามาก็มีปัญหาจุกจิก ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของกฎหมาย
เมื่อถามว่า รู้สึกเหนื่อยหรือไม่ที่ขณะนี้ทุกพรรคการเมืองจ้องโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่เหนื่อยหรอก เพราะเขาพูดในเรื่องไม่จริง ผมจะไปสนใจทำไม วันนี้จะเห็นได้ว่าผมพยายามอารมณ์เย็นลงขึ้นเยอะ เมื่อก่อนอาจถือสาเป็นอารมณ์บ้าง และไม่ใช่ต้องการเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นนักการเมือง แต่คิดว่ามันทรมานตัวเองมากกว่า ส่วนหนึ่งผมพยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุด แต่อาจได้มากบ้างน้อยบ้าง สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง แต่ต้องคิดว่าจะทำอะไรต่อไป ดีกว่าไปคิดจะตอบโต้กันแบบนี้ ทุกคนก็รู้ว่ามันเป็นแบบนี้มาโดยตลอด การเมืองไทยก็เป็นแบบนี้ มันทำให้คนไม่อยากจะเข้ามา
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า 250 ส.ว. เข้ามาเพื่อเป็นต้นทุนสนับสนุนตัวเอง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า จะมาเป็นต้นทุนอย่างไร วันนี้เขาเตรียมเผื่อไว้ เพราะส.ว.ที่ผ่านมาทุกคนก็รู้ว่าเป็นอย่างไร การเลือกตั้งเข้ามาเป็นอย่างไร เป็นเครือข่ายกันแบบไหน ก่อนหน้านี้ทำไมไม่ดูว่าเป็นเครือข่ายกับใคร เป็นเครือข่ายกับพรรคการเมืองและนักการเมืองหรือไม่ เมื่อวันนี้ตนเป็นขึ้นมาก็กลายมาเป็นเครือข่ายของตน ทั้งๆที่ความจริงก็เห็นกันว่า พ.ร.บ. หลายฉบับที่พิจารณากันในสภา ไม่เคยออกมาได้ง่าย ถ้าตนมีอำนาจสั่งเขาจริง ทำง่ายๆ วันนี้พรุ่งนี้กฎหมายก็คงออกมาได้ แต่วันนี้กฎหมายหลายฉบับยังออกมาไม่ได้เลย บางฉบับที่มีความเห็นขัดแย้งสูงก็ต้องว่ากันต่อไปว่าอะไรดีหรือไม่ดี ไม่มีใครต้องการการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น ถือเป็นอันตรายของประเทศ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่ควรจะเป็น ไม่ใช่เปลี่ยนให้เป็นหน้ามือหลังมือทีเดียว สำหรับประเทศไทยมันเป็นไปไม่ได้ เพราะความขัดแย้งสูง
เมื่อถามว่า ตามรัฐธรรมนูญ ส.ว. มีสิทธิโหวตเลือกนายกฯได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่โหวตเลือกนายกฯ เว้นแต่กรณีที่แต่ละพรรคเสนอชื่อนายกฯขึ้นมา ก็เป็นเรื่องที่ต้องเสนอร่วมกันทั้งสองสภา ซึ่งส.ว.มีอำนาจแค่ตรงนี้ เป็นการแก้ปัญหากรณีที่พรรคนี้ได้ แต่พอเสนอชื่อขึ้นมาแล้วพรรคอื่นไม่ยอมรับ ก็จะมีความขัดแย้งกันต่อไป จึงจ้องหาวิธีการปลดล็อกตรงนี้ เพื่อให้ ส.ว.เข้ามาร่วมพิจารณาด้วยได้
เป็นเรื่องของการมีสองสภา แม้ส.ว.จะตั้งมาจากผม แต่ถามว่าพวกคุณจะดูถูกทั้ง 250 คนนี้หรือ เขาไม่มีสมองหรือ เขาไม่รักประเทศหรือ ทุกคนต่างก็รักประเทศ อย่าหวงความรักประเทศชาติ รักประชาธิปไตยอยู่แต่เพียงพรรคการเมือง นักการเมือง ผมขอแค่นี้” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า วานนี้(21 ก.พ.) นายกฯ ระบุว่ามีคนแช่งให้เครื่องบินตก มีความรู้สึกอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “แช่งไปเถอะ ผมก็ไม่เห็นเป็นอะไร ผมห้อยพระอยู่แล้ว”
แหล่งที่มา: http://isarapost.com