อีกแล้ว เขมรยึด​ทุ่งนาบ้านหนองจาน​ จ.สระแก้ว​ กลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนที่ไม่รู้ว่าจะเอาคืนได้เมื่อไร

เขมร ก็คือ เขมร !!
ยึดครอง อยู่...ไปเรื่อยๆ
สร้างนั่น สร้างนี้...เราได้แค่ประท้วง!!

“รองโฆษกรัฐฯ”ยัน รัฐบาล”บิ๊กตู่” เปล่า ให้ เขมร ยึดที่นาคนไทย ชี้ บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว หลักเขตแดนที่ 46 เขมรอพยพ เข้ามา ตั้งแต่2520 UNHCRตั้งศูนย์อพยพฯ แม้2545 สงครามสงบ เขมรไม่ยอมออกไป ยึดที่นาชาวไทย ยาวเลย แถม รัฐบาลเขมร ขอร้องให้ ชาวเขมรอยู่ต่อ จนกว่าการสำรวจ และจัดทำหลักเขตแดนทางบก จะแล้วเสร็จ/ยอมรับ เขมร สร้าง อนุสาวรีย์ “ตาโอม” ที่ช่องอานม้า อุบลฯ แม้ไทยประท้วง ก็ไม่ยอมรื้อถอน ชี้ เป็นพื้นที่ ยกระดับ จุดผ่านแดนถาวร แต่เหตุที่ กัมพูชายังไม่เคลื่อนย้าย สิ่งปลูกสร้าง ชุมชน และตลาด ออกจากพื้นที่ห้ามใช้ประโยชน์ และยังไม่ได้จัดทำแผนบริหารจัดการพื้นที่ให้เป็นที่ยอมรับร่วมกัน

พลโทวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกรัฐบาล ขี้แจง กรณีมีเสียงวิจารณ์ว่า ปล่อยให้ชาวกัมพูชาเข้ามายึดที่นาคนไทยที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว และให้คนของรัฐไปเจรจากับชาวบ้านเพื่อแบ่งที่ให้แก่ชาวกัมพูชา เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นั้น ว่า ไม่เป็นความจริง

กรณีบ้านหนองจาน เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2520 ชาวกัมพูชาได้อพยพหนีภัยสงครามเข้ามาพักอาศัยบริเวณชายแดนไทย

และสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ได้จัดตั้งศูนย์รับผู้อพยพชั่วคราวในบริเวณชายแดนไทย บริเวณหลักเขตแดนที่ 46

ต่อมาเมื่อปี 2545 สงครามได้สงบลง คนไทยที่เคยอยู่อาศัยและมีที่ดินทำกินไม่สามารถเข้าทำประโยชน์ได้ เนื่องจากมีชาวกัมพูชาเข้ามาตั้งชุมชนอาศัยอยู่หนาแน่น และพื้นที่ดังกล่าวอยู่ระหว่างการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกร่วมกับรัฐบาลกัมพูชา

โดยฝ่ายกัมพูชาได้ร้องขอต่อฝ่ายไทยให้ชาวกัมพูชาอาศัยอยู่ต่อไปจนกว่าจะมีการสำรวจ และจัดทำหลักเขตแดนทางบกแล้วเสร็จ

“มิได้เป็นการยินยอมให้ราษฎรกัมพูชายึดที่ดินทำกินของคนไทยตามที่เป็นการอ้างถึงแต่อย่างใด”

ส่วนที่วิจารณ์กีนว่า มีการปล่อยให้กัมพูชาสร้างอนุสาวรีย์ บนพื้นที่ทับซ้อนที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ละเมิดข้อตกลงไทย - กัมพูชา ที่ห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างบนพื้นที่ทับซ้อนนั้น พลโท วีรชน กล่าวว่า ไม่จริง

โดยบริเวณนี้เป็น 1 ใน 4 จุดผ่านแดน ที่รัฐบาลทั้ง2 ประเทศ สนับสนุนให้เปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวร และได้มีการสำรวจเก็บรายละเอียดภูมิประเทศ เสร็จเรียบร้อยแล้ว

แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถดำเนินการยกระดับได้ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชายังไม่เคลื่อนย้ายสิ่งปลูกสร้าง ชุมชน และตลาดออกจากพื้นที่ห้ามใช้ประโยชน์ และยังไม่ได้จัดทำแผนบริหารจัดการพื้นที่ให้เป็นที่ยอมรับร่วมกัน

สำหรับประเด็นการสร้าง “อนุสาวรีย์ตาโอม” ในบริเวณพื้นที่ห้ามใช้ประโยชน์ นั้น เราได้มีการประท้วง ทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ

“รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและได้ยับยั้งไม่ให้เกิดการกระทำดังกล่าวขึ้น แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับจากฝ่ายกัมพูชาแต่อย่างใด”

ดังนั้น ตามที่ได้มีการวิจารณ์ดังกล่าวจึงไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ คือ การยึดถือผลประโยชน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศเป็นสำคัญ เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน

มาอ่านคอมเมนท์​ของคนไทยบางส่วนต่อกรณีนี้