9 ข้อควรรู้ก่อนทำ HIFU กระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย และ ความหย่อนคล้อยของผิวหนัง
9 ข้อควรรู้ก่อนทำ HIFU
ในตอนนี้แทบจะไม่มีสาวๆคนไหนที่ไม่เคยได้ยินคำว่า hifu (ไฮฟู) สำหรับบางคนอาจเคยได้ลองกับตัวเอง บางคนอาจเคยอ่านข้อมูลมาบ้างแต่ยังไม่เคยได้ลองทำจริงๆ แต่หลายๆคนก็คงรู้ว่าเจ้า Hifu ในตอนนี้นั้นโด่งดังซะเหลือเกิน
ด้วยข้อดีที่มีอยู่หลากหลาย เช่น สามารถทำให้หน้าเรียวยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องใช้เข็มฉีดสารเคมีใดๆเข้าสู่ผิว และมีความปลอดภัยสูง โดยกระบวนการทำงานของมันใช้คลื่นเสียงส่งเข้าไปยังผิว ซึ่งไม่ก่อให้เกิดความบาดเจ็บใดๆ
แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจทำทรีตเมนต์ชนิดต่างๆกับผิว เราควรศึกษาข้อมูลให้ดี และเลือกว่ามันเหมาะกับเรา หรือช่วยแก้ปัญหาให้เราได้ตรงจุดหรือไม่ ควรทำที่คลินิกไหน ใช้เครื่องยี่ห้อไหนดีที่สุด หรือได้ผลจริงแค่ไหน วันนี้เราจึงรวบรวม ข้อควรรู้ก่อนการทำ Hifu ถึง 9 ข้อมาฝากผู้อ่านกันค่ะ
1. อะไรคือ Hifu และมันทำงานอย่างไร ?
Hifu เป็นเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีความงามในรูปแบบใหม่ มีผลโดยตรงกับผิวหน้า ผิวคอ และผิวกาย เกี่ยวกับเรื่องการกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย และ ความหย่อนคล้อยของผิวหนัง
โดยใช้คลื่นอัลตราซาวน์ ที่ถูกพัฒนามาจากอัลตราซาวน์ที่ใช้ตรวจครรภ์ในโณงพยาบาล ส่งคลื่นเข้าไปสู่ผิวหนัง โดยทำการยึดให้ผิวชั้นที่มีผลต่อความกระชับของผิวหดตัวและยึดติดกัน จึงทำให้หน้าดูกระชับ เรียบเนียน และดูหน้าเรียวมากยิ่งขึ้น
ด้วยความที่ไม่ใช้ Laser คลื่นแสง หรือสารเคมี Hifu จึงมีความปลอดภัยสูงมาก นอกจากนั้นยังสามารถให้บริเวณรอบดวงตาและใต้ตาได้อีกด้วย เพราะคลื่นอัลตราซาวน์นั้นไม่มีอันตรายต่อดวงตานั่นเอง
2. ถ้าอายุไม่ถึง 25 ปี สามารถทำ Hifu ได้หรือไม่ ?
ตามธรรมชาติของผิวหนังมนุษย์ ที่เมื่อถึงอายุ 20 ปี คอลลาเจน และ อิลาสติน ที่ช่วยด้านความยืดหยุ่นของผิวจะเสื่อมสลายลงไปเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวหลังเริ่มมีริ้วรอย และหย่อนคล้อยลงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการดูแลนั้นควรเริ่มตั้งแต่อายุน้อย เพราะเมื่อสายไปแล้วจะแก้ไขให้กลับมาเหมือนเดิมได้ยากกว่า
โดยต้องเลือกวิธีการดูแลให้ดู สำหรับ Ultra Hifu สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุไม่ถึง 25 ปีและไม่มีอันตรายต่อร่างกาย เพื่อป้องกันริ้วรอยที่เกิดก่อนวัย และชะลอการเกิดริ้วรอยอีกด้วย
นอกจากนั้นยังจะได้หน้าที่เรียวกระชับอย่างสังเกตุได้โดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัดหรือฉีดสารใดๆ จึงไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดอันตราย ถ้าทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนั้นยังสามารถยกบริเวณคิ้ว หางตา รวมทั้งเหนียง ลุบำรุงผิวให้คอลลาเจนสร้างใหม่ได้อีกด้วย
3. ระวังการโฆษณา Hifu เกินความจริง
คลินิกหลายแห่งมักบอกว่า การทำ hifu หรือการใช้เทคโนโลยีกลุ่มเดียวกันนั้น เห็นผลทันทีและไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ แต่ความจริงแล้ว ถ้าอยากให้เกิดประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ขณะทำ Hifu จะรู้สึกตึงและปวดหน่วงๆบริเวณใต้ผิวที่กำลังทำ
ซึ่งเกิดจากการที่ส่งพลังงานไปยังผิวชั้น SMAS หรือชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ และ เราจะเห็นผลหลังจากทำได้ทันทีประมาณ 20 %เท่านั้น และผลจะคงอยู่ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ซึ่งถ้าเจ็บเพิ่มขึ้นจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นและคงอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับบางคนที่เคยทำมาแล้วรู้สึกว่าไม่เจ็บหรือ ไม่รู้สึกอะไรเลย น่าจะเป็นเพราะว่าเครื่องมือที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน หรือ ใช้พลังงานไม่แรงพอ อาจมีผลทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง และคงอยู่ได้ไม่นานอีกด้วย
เซลล์ของบางคลินิกอาจบอกคุณว่า Hifu หรือ Ulthera สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกต่างๆได้เห็นได้ชัดหรือ ดีกว่าฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ซึ่งนั่นไม่เป็นความจริง แต่ที่เซลล์พูดไปเพราะค่าคอมมิชชันที่สูงกว่าเท่านั้น จริงๆแล้วร่องลึกควรใช้ฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ในการแก้ปัญหาจะดีกว่าค่ะ
ใครที่มีข้อสงสัยหรืออยากสอบถามเพิ่มเติม สามารถเข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ที่คลินิก V square ได้ทั้ง 10 สาขา ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
4. Hifu ทำแล้วเห็นผลทันทีจริงหรือหลอก
จริงๆแล้วหลังจากทำ HIfu จะเห็นผลทันทันทีเพียง 20% เท่านั้น เกิดจากการส่งพลังงานลงสู่ผิวหนังชั้น SMAS และหลังจากนั้น ผิวจะสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเรื่อยๆ
และจากเห็นผลได้อย่างเต็มที่มื่อผ่านไป 2-3เดือน และโดยทั่วไปจะคงอยู่ได้นาน 5-6เดือน แต่ถ้าใช้พลังงานมากพอ จะสามารถอยู่ได้ถึง 1 ปี แต่นั่นแปลว่าลูกค้าจะต้องทนความเจ็บปวดที่มากกว่าเช่นกัน
5. Hifu สามารถกระชับผิวได้ทั่วทั้งร่างกายหรือไม่
เราสามารถใช้ Hifu กับผิวหนังได้เกือบทุกบริเวณเพื่อความกระชับ และตัวเครื่องจะมากับหัวยิงพลังงานที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถใช้งานได้เหมาะกับบริเวณต่างๆกัน จุดที่เมื่อทำ Hifu จะสามารถเห็นผลชัดเจน ได้แก่
บริเวณใบหน้า - หน้าผาก เปลือกตาบน ใต้ตา กรอบหน้า พวงแก้ม ร่องแก้ม ร่องมุมปาก เหนียง คอ
บริเวณร่างกาย - หน้าท้อง เอว สะโพก ต้นแขน ต้นขา
6. เปรียบเทียบ Ulthera, Ultra-Hifu และ Hifu แบบบุฟเฟ่ที่ราคาถูก
ตัวเครื่อง Ulthera จะให้พลังงานที่สูงกว่า Ulatra Hifu ถึง 2 เท่า และทำให้ผลลัพธ์ และ คงอยู่ได้นานถึง 2 เท่าเช่นกัน โดยจะต้องแลกกับ ความเจ็บที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าด้วยนั่นเอง และถ้าใครเคยทำ Ulthera แล้วไม่รู้เจ็บ อาจเป็นไปได้ว่าแพทย์จะตั้งพลังงานที่ต่ำ หรือการใช้ยาชา ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ลดลดด้วย
เราจะสังเกตุได้ว่าแพทย์ที่เชี่ยวชาญจะสามารถควบคุมพลังงานในการทำ Ulthera ได้เป็นอย่างดี โดยแพทย์จะต้องคอยมองจอที่บอกพลังงาน และปรับน้ำหนักมือให้ได้พลังงานที่เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าแพทย์ที่ชำนาญมากๆก็จะไม่ต้องคอยมองที่จอบ่อยมากนัก
บุฟเฟ่ Hifu
ราคาที่แตกต่างกับเป็นอย่างมากของบุฟเฟ่ Hifu อาจเป็นเพราะราคาที่ต่างกันของตัวเครื่อง หัวยิง ที่มีเกรดต่ำลงมา ซึ่งเครื่อง Ultra Hifu ที่ดีที่สุดคือ Ulthera c]t รองลงมาคือ UltraformerIII ซึ่งลูกค้าควรหาข้อมูลของเครื่องมือ และผู้ที่ทำทรีตเมนต์ให้แก้ลูกค้าให้ดีเสียก่อนตัดสินใจซื้อคอร์สต่างๆ
7. ข้อดีของ Ultra HIFU
การใช้ Ultra Hifu นั้นเหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยตื้น และผิวที่หย่อนคล้อย โดยที่ไม่ต้องการการผ่าตัด หรือคนที่กลัวเข็มฉีดยา และยังปลอดภัยมาก เมื่อเทียบกับทรีตเมนต์อื่นๆ นอกจากนั้นราคายังไม่แพงมาก และยังสามารถทำซ้ำได้บ่อยๆ และสามารถทำร่วมกับทรีตเมนต์ประเภทอื่นๆได้อีกด้วย การทำ Hifu ยังช่วยเรื่องผิวพรรณ เพราะพลังงานจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างและซ่อมแซมคอลลาเจนในผิวอีกด้วย
8. ทรีตเมนต์ที่ไม่ควรทำร่วมกับ Ultra Hifu
ทรีตเมนต์ที่ช่วยในเรื่องลดความหย่อนคล้อย กระชับผิว และลดเลือนริ้วรอย นั้นมีหลากหลายประเภท เช่น Botox, ร้อยไหมม Filler, Meso fat ซึ่งแต่ละประเภทแก้ปัญหาด้วยกลไกที่แตกต่างกัน และส่งผลลัพธ์ที่ต่างกัน
การทำร่วมกันหลังจากการวินิจฉัยของแพทย์จึงส่งผลดีต่อการยกกระชับใบหน้า แต่จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และใส่ใจในทุกๆขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
9. สิ่งที่ควรทำและการดูแลตัวเอง ก่อนและหลัง การทำ Hifu
ก่อนทำ
งดสูบบุหรี่ และ ดื่มเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด
นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอในคืนการการทำทรีตเมนต์
ทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่ รวมทั้งดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้การสร้างและซ่อมแซมคอลลาเจน และเซลล์ใหม่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
หลังทำ
หลีกเลี่ยงการออกแดดจัดเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทำลายของคอลลาเจนที่เกิดขึ้นและกำลังฟื้นฟูหรือใช้อุปกรณ์ปกปิด
ใช้ครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันที่สูง โดยสามารถทาครีมบำรุงผิวทุกชนิดได้ตามปกติ
ถ้ามีอาการปวดหรือเมื่อยตึงที่ผิวชั้นใน สามารถใช้ยาแก้ปวดทั่วๆไปได้
ไม่ควรขัด นวด หรือถูใบหน้าอย่างรุนแรง
ไม่ควรสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพราะจะเป็นการขัดขวางการสร้างคอลลาเจนของผิวหนัง
หากคุณต้องการปรึกษา หรือมีข้อสอบถามเพิ่มเติม สามารถปรึกษาทีมแพทย์ของ V Square Clinic ได้ฟรี ทั้ง 10 สาขา
หรือพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทาง Inbox ของแฟนเพจ และ Line ได้เลยค่ะ จะมีแพทย์ที่คอยตอบปัญหาได้ตลอดค่ะ
ขอบคุณช้อมูลเพิ่มเติมจาก https://www.thaibeautysurgery.com/hifu-2/
แหล่งที่มา: https://www.vsquareconsult.com/hifu/