ตึกร้าง มีอะไรที่ชั้น27 ตอนที่ 2
หลังจากที่คุยธุระเสร็จแล้ว
ก็สรุปกันว่า ให้ผมเข้าเวรกะเช้าไปก่อนสองอาทิตย์
แล้วค่อยเปลี่ยนมาเป็นกะกลางคืน
พอลุงกลับไป ผมก็เข้าไปเก็บทำความสะอาดห้องพัก
ข้าวของเครื่องใช้ รวมถึงเสื้อผ้าต่างๆของคนที่อยู่เดิม
ผมก็เก็บยัดๆใส่ถุงพลาสติกไว้แล้วค่อยเอาไปทิ้ง
ช่วงที่กำลังเก็บกวาดห้องอยู่
กวาดขยะไปมาอยู่แถวๆปลายเตียง
อยู่ๆก็มีกระดาษเล็กๆแผ่นหนึ่งร่วงลงมาจากชั้นวาง
ก็เลยก้มไปหยิบขึ้นมาดู
มันเป็นเศษกระดาษยับๆ ถูกฉีกเหลือครึ่งแผ่น
แล้วก็มีข้อความเขียนอยู่ในนั้น
ดูแล้วเหมือนรีบๆจด จนแทบอ่านไม่ออก
บางคำก็มีหมึกจางๆ เหมือนปากกาหมึกกำลังจะหมด
พยายามอ่านอยู่นาน ก็มีประมาณคำว่า
เลือดหมาดำ
คือวันเพ็ญ
ธูป30ดอก
พออ่านแล้วก็ งงๆ มันคืออะไรหว่า
พอไม่รู้เรื่อง ผมก็เลยขยำๆทิ้งไป
หลังจากเก็บกวาดห้องเสร็จ ก็ค่ำพอดี
ก็เลยจะไปอาบน้ำ
ห้องน้ำ มันจะต้องเดินอ้อมไปตามถนนทางออก
จะอยู่ช่วงกลางๆตัวอาคาร
ก็ไม่ไกลจากป้อม ที่ รปภ นั่งอยู่ด้านหน้า
ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในซอกที่มีห้องน้ำ
ผมก็มองไปที่ป้อม รปภ ก็เห็น รปภ นั่งอยู่ที่ป้อม
มีไฟจากเสาไฟฟ้าใกล้ๆ ส่องอยู่บริเวณนั้น สลัวๆ
แต่บรรยากาศก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร ก็เลยเดินเข้าไปในห้องน้ำ
พอเข้าไปในห้องน้ำ สภาพก็ดูแย่เหมือนกัน
ไม่มีฝักบัว ไม่มีถังรองน้ำ สำหรับอาบน้ำ
มีแต่โถส้วมกับถังรองน้ำเล็กๆอยู่ข้างๆกัน
มีพื้นที่พออาบน้ำได้อยู่ด้านหนัานิดเดียว
เวลาอาบ ต้องเปิดก๊อกน้ำแล้วนั่งยองๆให้น้ำจากก๊อกโดนตัวเรา
ก็ค่อนข้างทุลักทุเลอยู่ครับ
สาละวนกับการอาบน้ำอยู่ไปมาสักพักหนึ่ง
อยู่ๆก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง
เหมือนเสียงมันดังมาจากข้างในตึก
อยู่ข้างๆผนังนี่เอง
เป็นเสียง เหมือนคนทำอะไรหล่นลงพื้น ก๊องแก๊ง ก๊องแก๊ง
สะท้อนก้องไปมา
พอตั้งใจฟังอีกที ก็เหมือนมีคนคุยกันด้วย
แต่จับใจความไม่ได้ว่าคุยเรื่องอะไร
แต่มันรู้สึกเหมือนมีคน อยู่ในตึกเลย
พอเงียบฟังอยู่สักพัก ทุกอย่างก็เงียบตามด้วย
ไม่มีเสียงอะไร ให้ได้ยินอีก
อืม แปลกดี เกิดมาก็พึ่งจะเคยหูแว่วคราวนี้หละ
พออาบน้ำเสร็จ
เข้าห้องหุงหาอาหารกินแล้ว
ก็นอนเล่น พักผ่อน อยู่พักใหญ่ ก็หลับไป
มารู้ตัวอีกที ตอนได้ยินเสียง มีใครมาดึงประตู
ผมรู้สึกตัว สะดุ้งตื่น
แล้วเสียงนั้นก็เงียบไป
ก็เลยถามว่าใคร
แต่ก็เงียบไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา
ผมก็เลยนอนต่อ ตอนนั้นในห้องมืดสลัวๆ
แต่ก็ยังมองเห็นบรรยากาศข้างในอยู่บ้าง
เพราะสายตาเริ่มปรับสภาพให้เข้ากับความมืด
นอนๆกำลังจะเคลิ้มหลับ
อยู่ๆก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอีก
ผมก็สะดุ้งอีก
คราวนี้ไม่ได้ถามอะไร
รีบลุกขึ้นเปิดไฟ แล้วก็ไปเปิดกลอนประตู
ผลักประตูออกไปเบาๆ
แล้วผมก็เจอ รปภ ตัวผอมสูง ผิวขาว
ขาวจนดูหน้าเขามันซีดๆยังไงชอบกล
พอเห็นเป็น รปภ ผมก็เลยถามว่า มีอะไรครับ
เขาไม่ตอบอะไร
แล้วก็เดินหายไปทางฝั่งด้านหลังที่อยู่อีกฟากหนึ่ง
ผมก็ได้แต่ งงๆ "อะไรวะ มาเคาะประตูแล้วก็ไม่พูด"
สงสัยเป็น รปภ กะกลางคืน เขาคงมาตรวจดูแถวๆนี้
รุ่งเช้า ผมก็ไปเข้าเวรกะเช้า
เจอ รปภ ที่อยู่กะกลางวัน ก็เลยคุยกันไปมาอยู่พักใหญ่
เขาชื่อ รปภ อาท เป็นคนอัธยาศัยดีคนหนึ่ง
คุยไปคุยมา ผมก็เลยเล่าเรื่อง รปภ เมื่อคืนให้เขาฟังว่า
เมื่อคืน มีอะไรแปลกๆ
อยู่ๆ รปภ ก็มาเคาะห้อง พอเปิดประตูไปดู
เจอ รปภ ยืนอยู่หน้าประตู แต่ก็ไม่พูดอะไรซะงั้น
รปภ อาทก็เลยถามว่า คนไหน
ผมก็บอกว่าคนที่ ขาวๆผอมๆสูงๆอะ
รปภ อาท ก็ทำหน้า เหมือนนึกอยู่พักหนึ่ง
แล้วก็พูดประมาณว่า
คนไหน ผอมๆสูงๆเขาไม่เคยเห็นนะ
"เท่าที่เห็นก็มีแต่คนรูปร่างท้วมๆ ดำๆ"
พอพูดจบผมก็ ได้แต่ แปลกใจ
"อ้าว ไม่มีหรอกหรือ"
แล้ว รปภ อาท ก็พูดว่า
"แต่ก็ไม่แน่นะ อาจจะมาแทนกันก็ได้ บางทีถ้ามีใครลา
เขาก็ดึง รปภ จากที่อื่นมาเข้าเวรแทน"
พอได้ฟังผมก็เลย ได้แต่พยักหน้า
"อ๋อ ก็อาจจะเป็นไปได้"
หลังจากนั้น
เขาก็พาผมเดินดูรอบๆ ว่ามีอะไรบ้าง
แล้วช่วงสายๆเขาก็พาผมเดินขึ้นไปตรวจบนตึก
หลังจากเข้าเวรกะเช้ามาอยู่เกือบๆสองอาทิตย์
ก็ยังไม่มีเหตุการณ์อะไร ที่ผิดปกติ
จนกระทั่งวันหนึ่ง ลุงมาแจ้งว่า ได้ไล่ รปภ กะกลางคืนออกคนหนึ่ง
เพราะว่าเขาเสพยา
เสพยาแล้วหลอน จนวุ่นวายกันทั้งคืน ลุงก็เลยไล่เขาออก
แล้วก็บอกให้ผมย้ายมาเข้าเวรกะกลางคืนแทน
ส่วนกลางวันลุงบอกว่า
ไม่ค่อยมีอะไร ช่วงนี้จะให้มี รปภกะกลางวันแค่คนเดียวไปก่อน
วันนั้นช่วงสายๆ ผมยังเข้าเวรกะกลางวันอยู่
ก็เดินไปตรวจบนตึกตามปกติ
ขากลับลงมา ก็คิดว่า คืนนี้จะเข้ากะกลางคืน
เดี๋ยวอาจจะหาที่ หลบ งีบเอาแรงสักหน่อย
พอเดินลงมาเรื่อยๆ มองหาที่เหมาะที่จะพองีบได้
เดินลงมาจนมาถึงชั้น 8
ชั้น8 มันจะเป็นชั้นห้องเครื่อง
มันเลยดูมีหลืบ มีซอกหน้าประตูห้อง
ผมเลยเดินไปหาซอกที่พอจะนอนได้ ตรงชั้น8นี่แหละ
พอเดินเข้าไปในซอก ซอกหนึ่ง หาอะไรมาปัดตรงพื้น
จนดูสะอาดพอนอนได้
ผมก็ค่อยๆนั่งลง ขยับตัวจะนอน
ตรงด้านหลังผมเป็นประตูบานหนึ่ง
ตรงข้างๆด้านซ้ายมือเป็นผนัง แล้วที่ปลายเท้าผมฝั่งเดียวกัน
เป็นประตูอีกบานหนึ่ง
ช่วงที่นอนลงไป เท้าผมก็ไปโดนประตูที่อยู่ปลายเท้า
ผมก็เลยพิงเท้าไว้แบบนั้น
พอรู้สึกจะเคลิ้มหลับ
อยู่ๆเท้าผมมันก็รู้สึกเหมือนขยับ พร้อมกับได้ยินเสียง แกร๊ก
ผมรีบลืมตาดูตรงปลายเท้า
ปรากกฏว่า ประตูตรงปลายเท้าผมมันเปิดแง้มออกเองครับ
เฮ้ย...
ผมอุทานเบาๆ
แล้วก็รีบลุกขึ้นไปดู ว่าทำไมประตูมันเปิดเอง
พอดูตรงลูกบิด ปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อคไว้
ผมก็เลยชะโงกหน้าเข้าไปดูข้างในห้อง
มันเป็นห้องเครื่อง อะไรสักอย่าง
มีตู้ไฟมีท่อน้ำใหญ่ๆ เยอะแยะไปหมด
สักพักก็เลยเปิดประตูให้มีแสงสว่างส่องเข้าไปในห้อง
แต่ตรงนั้นมันเป็นซอกหลืบ มันก็เลยมีแสงน้อย
ผมก็เลยเปิดไฟฉายส่องเข้าไปในห้อง
พอเดินเข้าไปในห้อง ก็เริ่มได้กลิ่นอับ แล้วก็กลิ่นเหม็นๆแบบเค็มๆ
พอเดินเข้าไปได้สักพัก มองไปที่พื้นก็มองเห็น
เหมือนมีรอยรองเท้าแบบที่ รปภ ใส่ เหยียบย่ำอยู่แถวนั้นเต็มไปหมด
พอมองดูดีๆก็เหมือนมีรอยเท้าอะไรสักอย่าง
ที่กำลังตะเกียกตะกาย ขูดไปขูดมากับพื้น ปนอยู่ด้วย
อะไรวะนี่
ผมค่อยๆเดินเข้าไปในห้องนั้นช้าๆ ฉายไฟตามรอยพวกนั้นไปเรื่อยๆ
จนมาเจอกับ คราบเลือดแห้ง เกรอะกรังอยู่ที่พื้น
ดูเหมือนจะเป็นกองเลือดหนาๆ เป็นลิ่มๆ แห้งอยู่
ผมตกใจมาก
พยายามฉายไฟมองไปรอบๆ ด้านหน้าตรงนั้น
มันเป็นท่อขนาดใหญ่สองท่อขวางหน้าผมอยู่
ถ้าจะเดินต่อไปก็ต้องปีนข้ามท่อด้านบนนั้นไป
ตอนนั้นใจเต้นแรงมาก
เอาไงดี
ยืนทำใจอยู่พักหนึ่งครับ
สุดท้าย ก็เลยตัดสินใจ เดินไปใกล้ๆท่อใหญ่ๆ
แล้วก็กระโดดเกาะท่อแล้วก็พยายามปีนข้ามไป
แต่พอแค่ตัวผมค้างอยู่หลังท่อ
ผมก็รีบเอาไฟฉายส่องไปดูด้านหน้าผมก่อนว่ามันมีอะไร
พอส่องลงไปดูที่พื้นเท่านั้นแหละ
คุณพระช่วย
ขนหัวผมลุกตั้ง เสียวสันหลังขึ้นมาทันทีเลยครับ
สภาพที่เห็นคือ
กระดูกซีกโครงกับหัวกระโหลกสุนัข กองเกลื่อนอยู่ที่พื้นหลายสิบตัว
โปรดติดตามตอนต่อไป