ประโยชน์ของการขริบอวัยวะเพศชาย
การขริบคืออะไร ?
การขริบ เป็นการสืบทอดความเชื่ออย่างหนึ่งที่อยู่คู่กับมนุษยชาติมาอย่างยาวนาน โดยแต่ละท้องถิ่นก็จะมีความเชื่อเกี่ยวกับพิธีกรรมนี้ที่แตกต่างกัน ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่าการขริบ คือการที่เด็กย่างเข้าสู่การเป็นบุรุษเพศอย่างเต็มตัว ส่วนในศาสนาอิสลามเชื่อว่า การขริบเป็นการส่งเสริมในเรื่องของความสะอาด และความบริสุทธิ์ แต่ในทางการแพทย์พบว่า การขริบจะช่วยรักษาสุขภาพทางเพศที่ดี เพราะบริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคมากมาย จึงสนับสนุนให้ทำการขริบ เพื่อประโยชน์ของคุณผู้ชายเอง
ทำไมถึงควรขริบ ?
นอกจากเรื่องของวัฒนธรรมและประเพณีแล้ว การขริบมีข้อดีที่หลากหลายดังนี้คือ
- ง่ายต่อการรักษาสุขอนามัย การขริบทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด และรักษาสุขอนามัยของอวัยะเพศ ดังนั้น ผู้ที่ไม่ได้ขริบอาจจะต้องใส่ใจในการทำงานความสะอาดเป็นพิเศษ
- ความเสี่ยงในการติดเชื้อที่ท่อปัสสาวะลดลง การติดเชื้อในท่อปัสสาวะเกิดขึ้นได้ทั่วไป แต่การขริบจะช่วยลดโอกาสการเกิดได้ เนื่องจากลดการสะสมของเชื้อโรคบริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ
- ลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ การขริบช่วยลความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงการติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
- ป้องกันปัญหาที่องคชาติ เป็นการป้องกันปัญหาหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศหรือหัวองคชาติอักเสบได้
- ลดความเสี่ยงมะเร็งองคชาติ แม้ว่าโรคมะเร็งองคชาติจะเป็นโรคที่พบได้น้อยมาก แต่ก็จะน้อยลงไปอีกสำหรับผู้ที่ผ่านการขริบ เนื่องจากสามารถลดการเกิดโรคดังกล่าวได้
ขั้นตอนการขริบ
การขริบหนังหุ้มปลายในทารกแรกเกิด มักทำตั้งแต่ที่โรงพยาบาล เมื่อทารกอายุได้ 1 วัน จนถึง 10 วัน หลังคลอด ซึ่งแพทย์จะอธิบายประโยชน์และความเสี่ยงในการขริบหนัง แล้วให้งดรับประทานอาหาร หรืองดดื่มน้ำก่อนทำการขริบ
- ขั้นตอนแรก การขริบนั้นคุณหมอผู้ทำการขริบจะให้เด็กนอนและรัดแขนขาเอาไว้ คุณหมอจะทำความสะอาดอวัยวะเพศและบริเวณโดยรอบ แล้วจึงฉีดยาชาที่ฐานของอวัยวะเพศ หรืออาจใช้เป็นแบบทาก็ได้
- ขั้นตอนที่สอง ยืดหนังหุ้มปลายด้วยที่หนีบพิเศษ แล้วจึงเอาหนังหุ้มปลายออก
- ขั้นตอนสุดท้าย หลังจากนั้นคุณหมอจะใช้ครีมทาไว้ที่อวัยวะเพศ เช่น ปิโตรเลี่ยม เจลลี่ (Petroleum Jelly) แล้วจึงพันด้วยผ้าพันแผล
ขั้นตอนการขริบหนังหุ้มปลายของเด็กโตและผู้ใหญ่จะคล้ายกันกับของเด็กทารก แต่ใช้การฉีดยาชาเฉพาะที่ หรืออาจต้องใช้ยาสลบ โดยในทารกมักใช้เพียงยาชาแบบเจล หรือยาชาเฉพาะที่สำหรับเด็ก และมักต้องทำการเย็บแผลร่วมด้วยเพื่อให้เลือดหยุด
หลังจากทำการขริบเรียบร้อยแล้ว คุณอาจรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายตัว แต่อวัยวะเพศของคุณผู้ชายจะฟื้นตัวภายใน 7-10 วัน ระหว่างนี้อวัยวะเพศอาจมีอาการเจ็บ บวม แดง หรือมีของเหลวสีเหลืองไหลออกมา แต่ในระหว่างนั้น คุณสามารถทำความสะอาดอวัยวะเพศของคุณได้ตามปกติ สำหรับเด็กที่เพิ่งผ่านการขลิปมา ควรเปลี่ยนผ้าพันแผลทุกครั้งที่เปลี่ยนผ้าอ้อม พร้อมกับทาปิโตรเลี่ยมเจลลี่ที่ปลายอวัยวะเพศ เพื่อไม่ให้ติดกับผ้าอ้อม คำแนะนำคือควรเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อยๆ และใส่แบบหลวมๆ รอให้แผลหายดีแล้ว จึงล้างทำความสะอาดตามปกติ
ความเสี่ยงหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
ท่านชายหลายคนคงกังวลกับการขริบว่า จะมีผลกระทบหรือผลข้างเคียงอย่างไร สำหรับภาวะแทรกซ้อน ที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยที่สุดจากการขริบก็คือ การมีเลือดออก และการติดเชื้อ และอาจรวมถึงผลข้างเคียง ที่อาจเกิดจากการใช้ยาสลบ ก็สามารถเกิดขึ้นในบางราย นอกจากนั้น มีบ้างที่อาจเกิดปัญหากับหนังหุ้มปลาย คือ
- หนังหุ้มปลายอาจถูกขริบออกสั้นเกินไป หรือยาวเกินไป
- หนังหุ้มปลายอาจฟื้นฟูได้ไม่ดีเท่าที่ควร
- หนังหุ้มปลายอาจกลับไปยึดติดใหม่ ซึ่งอาจต้องได้รับการผ่าตัดซ่อม
แต่ในทุกขั้นตอนของการผ่าตัดล้วนมีความเสี่ยง แต่ปัญหาที่เกิดกับการขริบจะพบได้ไม่บ่อยนัก โดยปัญหาหลักส่วนใหญ่จะเกิดในระยะสั้น คือ
- มีเลือดออกหรือซึมจากการผ่าตัด
- มีการติดเชื้อจากการขริบ หรือช่องของท่อปัสสาวะ
- เกิดความระคายเคืองที่ส่วนปลายของอวัยวะเพศชายจากการสัมผัสกับปัสสาวะ
ในส่วนของปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ในระยะยาว คือ ท่อปัสสาวะตีบแคบ เกิดแผลเป็นที่อวัยวะเพศชาย จากการติดเชื้อ และความผิดพลาดจากการผ่าตัด แม้การขริบจะมีประโยชน์อย่างมากในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเพศต่างๆ ที่ก็ควรหมั่นรักษาสุขภาพอนามัยของอวัยวะเพศอยู่เสมอ เพราะสิ่งนี้คือหัวใจสำคัญในการมีสุขภาพทางเพศที่ดี ไม่ว่าคุณจะขริบหรือไม่ขริบก็ตาม