ตามที่มีการแชร์เตือนให้ระวังการกินปลาทูนึ่ง เพราะมีสารกันบูดและทำให้เป็นมะเร็งที่มือตามภาพที่แชร์กันนั้น
ตามที่มีการแชร์เตือนให้ระวังการกินปลาทูนึ่ง เพราะมีสารกันบูดและทำให้เป็นมะเร็งที่มือตามภาพที่แชร์กันนั้น
❌ ข้อมูลนี้ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ
* เนื้อเรื่องยังไม่สามารถตรวจสอบยืนยันตัวตนบุคคลที่ชัดเจนได้ว่าเกิดอาการป่วยอย่างไร กับบุคคลใด และแพทย์คนดังกล่าวคือใคร
* ภาพประกอบเนื้อเรื่องเป็นภาพเก่า โดยเฉพาะภาพนิ้วโป้งเป็นแผลนั้น ก็เป็นมะเร็งที่มือจริง ๆ แต่เป็นมือชาวต่างชาติ ซึ่งเป็น "มะเร็งไฝ"
* โรคมะเร็งไฝ เป็นมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่ง ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการสัมผัสสารกันบูด
* ในทางปฏิบัติแล้ว ปลาทูนึ่ง ใช้การจุ่มแช่ในน้ำเกลือเดือดจัดจนสุกทั่ว ซึ่งเป็นการถนอมอาหารไปในตัวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขั้นตอนและต้นทุนด้วยการใช้สารกันบูดแต่อย่างใด
13 มกราคม 2562
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
*****
ข้อมูลเรื่อง ปลาทูนึ่ง และ มะเร็งไฝ จาก
* ภก.ภาณุโชติ ทองยัง หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม
* ศ.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ หัวหน้าสาขาตจวิทยา
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
*******
ข้อมูลเกี่ยวกับปลาทูนึ่ง โดย กองคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม....
เรื่องไม่จริง ขอความร่วมมืออย่าแชร์ให้คนตกใจ และกระทบอาชีพสุจริตของพ่อค้าแม่ค้าปลาทู
.
การผลิตปลาทูนึ่งจะไม่ใส่สารกันบูด เพราะกระบวนการนึ่งจะนำปลาทูไปจุ่มลงในน้ำเกลือที่เดือดจัด เป็นการถนอมอาหารอยู่แล้วจากภูมิปัญญาชาวบ้านในอดีต ซึ่งอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์
.
หากปลาทูนึ่งเหลือข้ามวัน ก็จะนำมาจุ่มซ้ำอีกครั้งในน้ำเกลือเดือดเช่นเดิม ซึ่งอาจทำให้มีรสเค็มขึ้นบ้าง
.
ปัจจุบันจึงมีการผลิตปลาทูนึ่งบรรจุแบบสูญญากาศ ใส่ตู้เย็นเก็บได้นานเป็นเดือน
.
ในรูปไม่ใช่ปลาทูแม่กลอง หากเป็นปลาทูนึ่งแม่กลองจะวางสองตัวกลับหัวกลับหางกัน
.
ข้อมูลจาก กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม
แหล่งที่มา: https://www.facebook.com/SureAndShare/