พัฒนาแอปแจ้งเตือนภัยไฟป่า ลดสูญเสียสวนทุเรียนหลงลับแล
นักวิจัย มรภ.อุตรดิตถ์ สร้างระบบวิเคราะห์ไฟป่าจากภาพถ่ายดาวเทียม พร้อมพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ ที่ทำให้ผู้ปลูกทุเรียนหลงลับแล-หลินลับแลในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รู้ว่าขณะนี้ไฟป่าเกิดขึ้นใกล้กับสวนทุเรียนของตนหรือไม่
ดร.ศักดิ์ดา หอมหวล อาจารย์ประจำหลักสูตรเทคโนโลยีสำรวจและภูมิสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) อุตรดิตถ์ กล่าวถึงปัญหาของเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนหลงลับแลและหลินลับแล ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักร้อยล้านของจังหวัดอุตรดิตถ์ ว่า การปลูกทุเรียนดังกล่าวเป็นการปลูกแบบวนเกษตร หรือปลูกตามธรรมชาติบริเวณเชิงเขา หรือที่ลาดชัน โดยพึ่งพาน้ำจากธรรมชาติ นอกจากจะเป็นข้อจำกัดในแง่ของการเพิ่มพื้นที่ปลูกแล้ว ทุเรียนเหล่านี้ยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหายจากไฟป่าในหน้าแล้งอีกด้วย
ดร.ศักดิ์ดากล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการลงพื้นที่เพื่อคุยแลกเปลี่ยนกับเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนของจังหวัดอุตรดิตถ์ ภายใต้ชุดโครงการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมการผลิตทุเรียนหลงลับแล-หลินลับแลในระบบวนเกษตร ร่วมกับนักวิจัยอีกหลายสาขา เมื่อปลายปี 2560 และด้วยประสบการณ์ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลด้านไฟป่ากับความก้าวหน้าด้านอุปกรณ์ตรวจจับระยะไกล (remote sensing เช่น ดาวเทียม, โดรน) และเทคโนโลยีสื่อสารในปัจจุบัน ทำให้ต้องการยกระดับการเตือนไฟป่า จากเดิมที่ระบุได้เพียงว่า ณ เวลานั้น มีจุดความร้อน (Hot Spot) เกิดขึ้นที่ใดเท่านั้น มาเป็นระบบที่สามารถวิเคราะห์ว่าจุดความร้อนนั้นน่าจะเป็นไฟป่าหรือไม่ได้ด้วยตัวของมันเอง
เป็นจุดเริ่มต้นของงานวิจัยเรื่อง “การฯลฯ มาเข้าโปรแกรมเพื่อหาจุดที่เสี่ยงไฟป่า และแจ้งข้อมูลนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบ (เช่น สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์) เข้าไปตรวจสอบและประกาศเตือนภัยต่อไป
นายสมพร ขันปิงปุ๊ด หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ (ปภ.อุตรดิตถ์) ซึ่งได้ร่วมในโครงการวิจัยนี้ กล่าวว่า ระบบที่อาจารย์พัฒนาขึ้นได้ช่วยเสริมการทำงานของ สปภ.ได้เป็นอย่างดี
“แม้ที่ผ่านมาตัวเลขของการเกิดไฟป่าจะลดลง แต่ก็ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อไฟในพื้นที่ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นโอกาสที่จะไฟป่าจะลุกลามอย่างรุนแรงก็มีสูงขึ้นเช่นกัน เพราะฉะนั้นยิ่งเราสามารถระบุตำแหน่งของการเกิดไฟป่าได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งจัดการไฟป่าได้ดีขึ้น โดยร่วมพัฒนาระบบติดตามและเตือนภัยไฟป่ากับ ดร.ศักดิ์ดา ทำให้เรามีความมั่นใจในการเฝ้าระวังและจัดการไฟป่าในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์มากยิ่งขึ้น”
นอกจากจุดเด่นที่ระบบวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงไฟป่าของเราสามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติ ทันที่ที่มีข้อมูลใหม่เข้ามาแล้ว ทีมวิจัยได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับเจ้าหน้าที่ และแอปพลิเคชันบนมือถือสำหรับเกษตรกร เพื่อใช้ในการติดตามและแจ้งสถานการณ์ไฟป่าที่
พัฒนาระบบติดตามและเตือนภัยไฟป่าในพื้นที่วนเกษตร จังหวัดอุตรดิตถ์” โดยมี ดร.ศักดิ์ดาเป็นหัวหน้าโครงการวิจัย โดยตลอดปี 2561 ที่ผ่านมา ทีมวิจัยได้สร้างระบบอัตโนมัติที่สามารถนำข้อมูลจากการสำรวจระยะไกล ทั้งภาพถ่ายดาวเทียม และภาพถ่ายทางอากาศ ณ เวลาล่าสุด มาหาจุดความร้อนที่อยู่ในบริเวณป่าหรือพื้นที่วนเกษตร พร้อมทั้งนำข้อมูลพื้นฐานของพื้นที่นั้น เช่น มวลชีวภาพ (การสะสมของเศษซากไม้) ความชื้นสัมพันธ์เฉลี่ย ความลาดชัน
ช่วยให้เกษตรกรมีโอกาสรู้ได้เร็วขึ้น เพราะเพียงแต่เปิดแอปพลิเคชันก็จะรู้ได้ทันทีว่าเวลานี้มีจุดที่เสี่ยงจะเกิดเป็นไฟป่าอยู่ใกล้กับสวนทุเรียนของตนหรือไม่
นายดำเนิน เชียงพันธ์ เกษตรกรเจ้าของสวนทุเรียนที่ได้เข้าร่วมในงานวิจัยและทดลองใช้แอปพลิเคชันนี้ บอกว่า เมื่อก่อนตอนเกิดไฟป่าเราแทบจะไม่รู้เลย รู้อีกทีก็ตอนมันลุกลามใหญ่โต หรือเข้ามาใกล้แล้ว แต่ตอนนี้เรารู้ได้จากมือถือตั้งแต่ตอนที่มันเกิดเลย ว่ามีไฟป่าเกิดที่จุดไหน มีแนวโน้มจะขยายหรือลุกลามไปทางใด เป็นการสร้างความอุ่นใจให้กับชาวสวนทุเรียนได้ในระดับหนึ่ง
ดร.ศักดิ์ดา หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวสรุปว่า จุดเด่นของงานวิจัยนี้ รวมถึงงานวิจัยอื่นๆ ภายใต้ชุดโครงการนี้ก็คือ การมีกระบวนการวิเคราะห์ปัญหาหรือความต้องการที่แท้จริงของชุมชน ก่อนพัฒนาเป็นโจทย์วิจัยเพื่อให้ได้ความรู้ที่สามารถช่วยเขาได้อย่างแท้จริง ปัจจุบันระบบที่ทีมวิจัยพัฒนาขึ้นก็มีการเชื่อมต่อกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์แล้ว ขณะที่เกษตรกรชาวสวนทุเรียนก็มีก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ที่ www.cgi.uru.ac.th/udsafe/ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “เพื่อนเตือนภัย” (ระบบ Android) ได้เช่นกัน นอกจากระบบเตือนภัยไฟป่าแล้ว ทีมวิจัยยังมีการพัฒนาระบบเตือนภัยเรื่องดินถล่มและภัยแล้ง ที่จะช่วยสนับสนุนการด้านพิบัติ