พอกันที!! หมดพลัง !! "หมู อาซาว่า" ขอจบหน้าที่แต่เพียงเท่านี้
จบไปแล้วสำหรับการประกวด "มิสยูนิเวิร์ส 2018" โดยตัวแทนสาวไทย "นิ้ง โศภิดา" ได้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย
แต่หลายคนก็พุ่งเป้าไปที่ชุดราตรีที่น้องนิ้งสวมใส่บนเวที ซึ่งบางส่วนใหญ่บอกว่าชุดไม่เหมาะกับรูปร่างของผู้สวมใส่ทำให้ไม่เจิดจรัสเท่าที่ควร โดยมีหลากหลายกระแสบนโลกออนไลน์ แต่รู้หรือไม่ว่าชุดราตรีสีแดงชุดนี้ ออกแบบโดย "คุณหมู Asava" โดยใช้คริสตัลสวารอฟสกี้กว่า 1 แสนเม็ด
หลายคนเข้ามาคอมเมนต์บอกว่า ชุดนี้ไม่ส่งให้นางงามดูเจิดจรัสบนเวที // ชุดราคาแพงก็จริง แต่กลับทำให้ออกมาดูไม่แพง // คุณหมูควรหยุดทำชุดให้นางงามตั้งแต่ปีน้ำตาล ชลิตาแล้ว แถมยังมีการเทียบชุดกับชุดลิเก ชุดหมอลำ อีกด้วย เอาเป็นว่าอยู่ที่การมองของแต่ละคนว่าจะมองในมุมไหนแล้วกัน
แต่ล่าสุด "หมู พลพัฒน์ อัศวประภา" หรือ "หมู อาซาว่า" ได้ให้สัมภาษณ์แบบเปิดใจผ่านรายการโหนกระแส ทางช่อง 28 ว่า ทำชุดประกวดมาปีนี้เป็นปีที่ 4 ก็ชินแล้วคุ้นชินกับกระแสอยู่แล้ว ด้วยหน้าที่การงาน ด้วยอาชีพ เราก็ทำหน้าที่ในที่แจ้ง เป็นเรื่องปกติโดนวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว จริงๆ ชุดนี้มีการพูดคุยกันเยอะว่าจะทำชุดลักษณะไหน วางบุคลิก คาแรกเตอร์นิ้งอย่างไรในการประกวด ไม่ใช่แค่ชุดราตรีเท่านั้น ในการเก็บตัวต่างๆ มีการวางกลยุทธ์ต่างๆ ในการนำเสนอตัวคุณนิ้ง
สำหรับชุดราตรีในรอบไฟนอล จริงๆ ทางกองประกวดไม่ได้วางโจทย์อะไรให้มากนัก เนื่องจากทำงานมาหลายปีแล้วเขาให้ทำงานอิสระ ชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจ โครงเสื้อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในหลวง ร.9 ในช่วง 60-70 เป็นยุคที่ประเทศไทยกำลังเปิดประเทศสู่ตะวันตก เป็นช่วงที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงให้ดีไซเนอร์ระดับโลก เข้ามาทำชุดให้ แฝงเอกลักษณ์ความเป็นตะวันออก ช่วงนั้นเป็นช่วงรุ่งเรืองของแฟชั่นไทย เป็นยุคที่คนตะวันตกได้เห็นความงามแบบสากล แบบแฟชั่นชั้นสูง แต่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายตะวันออก เป็นช่วงที่ประเทศไทยได้รับชื่อเสียงและคำร่ำลือมากว่าประเทศไทยสามารถผนวกเอาความงามแฟชั่นในแบบตะวันตกมาผสมกับตะวันออกให้มีเอกลักษณ์ และมีความเฉพาะตัว
ส่วนกรณีมีกระแสนำไปเปรียบเทียบกับชุดนางรำ ดีไซเนอร์ชื่อดัง กล่าวว่าสีแดงเป็นสีที่น้องนิ้งเลือกเอง เพราะเป็นสีนำโชคของน้อง คิดว่าเรื่องรสนิยมเป็นสิ่งที่คนมองมากกว่า 100 คนก็ 100 รสนิยม ใครวิจารณ์ยังไง วิจารณ์มากน้อยแค่ไหน จะมีคุณธรรม จริยธรรมในการวิจารณ์มากน้อยแค่ไหน พี่ทำงานมานานแล้ว การน้อมรับคำติชมเป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะคำติชมที่มีวิจารณญาณ จริยธรรม และคุณธรรมในการวิจารณ์ ใครอยากเปรียบเทียบยังไงก็เปรียบเทียบได้ เพราะร้อยคนก็ร้อยความคิด เราคงไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งหมดที่เราทำกันมาเป็นขั้นตอนการทำงานเฟ้นให้คุณนิ้งได้เข้าประกวดอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ตัวคุณนิ้งก็ทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติ
จริงๆ บอกว่าไม่ทำทุกปี แต่ปีหน้าคงไม่ทำแล้วจริงๆ ปีนี้ตกปากรับคำทำเพราะผู้ใหญ่บอกว่ามีการจัดที่เมืองไทย เราเป็นเจ้าภาพก็อยากให้ทำอีกสักปี แต่พอพูดไปคนก็จะบอกว่าอ้าวไหนบอกว่าไม่ทำแล้วกลับมาทำอีก แต่คิดว่าคงไม่ทำแล้ว