หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เกย์แบบไหนเสี่ยงติดเชื้อที่สุด

โพสท์โดย nineemayy18

เกย์แบบไหนเสี่ยงติดเชื้อที่สุด

แม้จะไม่แน่ชัดว่าประชากรกลุ่ม “ชายรักชาย” เช่น เกย์ กะเทย มีจำนวนมากน้อยเท่าไร แต่ที่ต้องยอมรับคือคนกลุ่มนี้เลิกแอ๊บ! และมีการแสดงตัวต่อสังคมมากขึ้น อาจเนื่องด้วยสังคมไทยเปิดกว้างกับเรื่องทางเพศมากกว่าแต่ก่อน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับประชากรกลุ่มนี้คือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะเชื้อเอชไอวี

ที่เป็นเช่นนั้นเพราะจากการสำรวจสถานการณ์โรคเอดส์ในประเทศไทย พบว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 9,000-10,000 คน สาเหตุของการติดเชื้อเอชไอวีร้อยละ 85 มาจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกัน ส่วนกลุ่มที่มีการติดเชื้อมากที่สุด หากไม่นับการใช้เข็มฉีดยาร่วมกันจากกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดแล้ว กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายนี่เองที่มีการติดเชื้อมากที่สุดในตอนนี้

ส่วนสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เล่าว่า ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ยังมีชีวิตอยู่ประมาณเกือบ 5 แสนคน แต่มีการเจาะเลือดตรวจหาเชื้อ รวมถึงพบเชื้อแล้วทำการรักษาเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นคือ 2 แสนกว่าราย ดังนั้น สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือ การรณรงค์ให้มาตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อเอชไอวี โดยเฉพาะคนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงคือ ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน และควรมาตรวจทุกปีเพื่อความแน่ใจ เพราะหากยังมีพฤติกรรมเสี่ยงก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อได้

สอดคล้องกับ พญ.นิตยา ภานุภาค พึ่งพาพงศ์ แพทย์ประจำศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ที่บอกว่า ไม่ว่าคุณจะมีเพศสัมพันธ์ทางใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ทางทวารหนัก หรือแม้แต่ทางปากหรือออรัลเซ็กซ์ ก็ควรที่จะมาตรวจเชื้อหาเอชไอวี โดยเฉพาะกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ซึ่งมีการร่วมรักกันผ่านทางทวารหนัก มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีมากกว่าการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดในผู้หญิงถึง 10 เท่า เนื่องจากทวารหนักมีความเปราะบางกว่าช่องคลอด

“จากการศึกษาพบว่า กลุ่มคู่ต่างคือฝ่ายหนึ่งมีการติดเชื้อเอชไอวี ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีการติดเชื้อนั้น ไม่ว่าจะเป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย หรือชายมีเพศสัมพันธ์กับหญิงนั้น หากผู้ติดเชื้อเป็นฝ่ายรุก ส่วนผู้ไม่ติดเชื้อเป็นฝ่ายรับ เมื่อมีการหลั่งน้ำภายในทวารหนักของฝ่ายชายหรือในช่องคลอดของฝ่ายหญิง ฝ่ายรับจะมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีมากกว่า แต่หากผู้ติดเชื้อเป็นฝ่ายรับ ส่วนผู้ไม่ติดเชื้อเป็นฝ่ายรุก กรณีเช่นนี้ฝ่ายรุกจะมีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่า”

อย่างไรก็ตาม แม้ฝ่ายรุกที่ไม่ติดเชื้อจะมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีน้อยกว่า แต่ พญ.นิตยา บอกว่า ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสติดเชื้อเลย ดังนั้น การป้องกันยังคงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น ซึ่งพื้นฐานในการป้องกันคือการใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์จะสามารถช่วยป้องกันโรคได้ และอีกแนวทางหนึ่งที่มีผลการศึกษาชัดเจนแล้วว่า การรักษาด้วยการรับยาต้านไวรัส สามารถป้องกันการแพร่เชื้อเอชไอวีได้ ไม่ว่าจะเป็นจากแม่ไปสู่ลูก หรือจากคู่รักไปสู่คู่รัก

พญ.นิตยา อธิบายว่า การรับยาต้านไวรัสจะเป็นการกดเชื้อไวรัสในร่างกายลง ซึ่งเมื่อกดเชื้อไวรัสจนไม่พบในกระแสเลือด โอกาสในการแพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่นจึงน้อย และยิ่งมารับยาต้านไวรัสเร็วเท่าไรก่อนภูมิคุ้มกันหรือค่า CD4 ของร่างกายจะต่ำลง ก็จะยิ่งลดโอกาสในการแพร่กระจายเชื้อได้มากขึ้น ซึ่งจากการวิจัยโครงการ HPTN052 โดยศึกษาอาสาสมัครคู่ต่างกว่า 1,700 คู่ ใน 9 ประเทศ รวมทั้งไทย พบว่า กลุ่มที่กินยาต้านไวรัสเร็ว ก่อนที่ค่า CD4 จะตก มีการติดเชื้อไปสู่คู่รักเพียง 0.0-0.4 คน ใน 100 คนต่อปีเท่านั้น คือต่ำกว่า 0-1% ส่วนกลุ่มที่กินยาต้านไวรัสเมื่อภูมิคุ้มกันต่ำกว่า 250 ซึ่งถือว่าป่วยแล้ว พบว่าป้องกันได้แต่น้อยกว่า โดยมีโอกาสติดเชื้อไปสู่ผู้อื่นอยู่ที่ 1.1-2.5 คน ใน 100 คนต่อปี

เรียกได้ว่าการกินยาต้านไวรัสเร็วก่อนค่า CD4 จะตก ช่วยป้องกันการแพร่เชื้อเอดส์ไปสู่คนอื่นได้มากกว่าการกินยาต้านไวรัสเมื่อค่า CD4 ตกแล้วสูงถึง 96% แต่ที่จะลืมไม่ได้เลยคือ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรุกหรือฝ่ายรับ คนหนึ่งจะติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ติดเชื้อ ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์จะต้องสวมถุงยางอนามัยป้องกัน และผู้ติดเชื้อเอชไอวี หากคุณรักตัวเองและคู่รักของคุณก็ควรกินยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ดูแลตัวเองอย่างดี เพื่อให้ไวรัสในร่างกายของคุณไม่ไปติดหรือไม่ไปทำร้ายคนที่คุณรักต่อไป

ttps://lovefoundation.or.th/th/เกย์แบบไหนเสี่ยงติดเชื/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
nineemayy18's profile


โพสท์โดย: nineemayy18
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
8 VOTES (4/5 จาก 2 คน)
VOTED: vho, นพรัตน์ แก้ววิจัย
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
กองทัพยูเครน ยัน "เราปะทะกับทหารเกาหลีเหนือแล้ว!!"ปลาทู คุณค่าทางโภชนาการสูง คุณประโยชน์ดี ๆ ไม่แพ้ปลาทะเลอื่น ๆเเตเเต มิสแกรนด์พม่า แต่งหน้าไม่สวยเหมือนตอนอยู่ไทยรักล่ม 7 ครั้ง ครูสาวหุ่นแซ่บเผยแผ่นหลัง ชาวเน็ตชี้ลายสักอาจเป็นต้นเหตุเพราะอะไร? หัวหน้าแก๊งโจรเผย เหตุห้ามบุกปล้นบ้านของเมสซี่อย่างเด็ดขาด!"บาทาแห่งรัก" จากพี่ชาย พลิกชีวิต "นุ้ย เชิญยิ้ม" ให้หลุดพ้นจากยาเสwติดยอดกฐินวัดดัง 2567 มากกว่าพันล้านนักแสดงดัง แจ้งข่าว ติดเชื้อ “HIV” ก่อนโพสต์สุดเศร้า7 เคล็ดลับง่ายๆ ดูแลน้องชายให้สะอาด มั่นใจ กลิ่นดี จนใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้!ญี่ปุ่นส่งดาวเทียมไม้ดวงแรกของโลก ไปนอกโลกแล้วเมื่อเจอป้ายห้ามแกะสินค้าที่ทำต่างชาติงง พี่ก็แปลตรงตัวเกิ๊น นี่ต้องเป็นลูกศิษย์ครูเพ็ญศรีเเน่ ๆ !! 😂"ชายวัย 59 ปี ทานกล้วย 2-3 ลูกทุกคืน พบความจริงหลังการตรวจสุขภาพ"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อาการเป็นยังไงอะแม่ ? "อรชร เชิญยิ้ม" เกือบขิตเข้าโรงหมอซ่อมร่างด่วน !!พระสายเปย์รองเจ้าอาวาสวัดดัง ลาสิกขาแล้วกองทัพยูเครน ยัน "เราปะทะกับทหารเกาหลีเหนือแล้ว!!"เเตเเต มิสแกรนด์พม่า แต่งหน้าไม่สวยเหมือนตอนอยู่ไทย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด เกย์
ควรตรวจเลือดหลังจากมีเwศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกันเมื่อเกย์ทหารรักกับผู้หญิง 💕 สุดท้ายตกลงใช้ชีวิตคู่ร่วมกันสุดยอดดาราหนังโ.ป๊lกย์..ที่เหล่าชาว LGBTQ+ ติดตามมากที่สุดเปิดวาร์ป แจ็ค จิรโรจน์ หนุ่มหล่อ รุ่นใหญ่ หุ่นฟิต เป้าตุง ลีลาเด็ด
ตั้งกระทู้ใหม่