ศาลอุทธรณ์สั่งพิจารณาคดี ‘ล่าเสือดำ’ ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ
ความคืบหน้าหลังจากกรณีนายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวกรวม 4 คน จำเลยคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ขอโอนย้ายคดีล่าสัตว์ป่าจากศาลจังหวัดทองผาภูมิไปที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิได้ส่งเรื่องไปให้ทางศาลอุทธรณ์วินิจฉัย และเลื่อนนัดให้โจทก์และจำเลยมารอฟังผลวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ร่วมกันในวันที่ 27 สิงหาคม โดยล่าสุดศาลอุทธรณ์ได้สั่งให้พิจารณาคดีนี้ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ตามเดิม
เมื่อเวลา 8.50 น. วันนี้ (27 สิงหาคม 2561) นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน และทีมทนายความ เดินทางมายังศาลจังหวัดทองผาภูมิ โดยผู้เกี่ยวข้องพร้อมทีมทนายความ ทั้งหมดมีสีหน้าเรียบเฉย ลักษณะท่าทางของนายเปรมชัยดูแข็งแรง ไม่ใช้ไม้เท้าในการช่วยพยุงเดิน อีกทั้งไม่ตอบข้อซักถามสื่อมวลชนเช่นเคย ทั้งหมดได้เดินเข้าห้องพิจารณาเพื่อรับฟังศาลจังหวัดทองผาภูมิอ่านคำวินิจฉัยชี้ขาดจากประธานศาลอุทธรณ์
ในช่วงสายของวัน เว็บไซต์คมชัดลึกรายงานว่า ได้รับแจ้งจากทนายความฝ่ายจำเลยว่า ประธานศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยว่าคดีดังกล่าวอยู่ในอำนาจของศาลจังหวัดทองผาภูมิ ดังนั้นศาลจังหวัดทองผาภูมิ จะได้นัดวันสืบพยานต่อไป
ด้าน นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค7 ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน ให้ข้อมูลกับทางมูลนิธิสืบนาคะเสถียรว่า ศาลจะเริ่มนัดสืบพยานโจกท์วันที่ 27 พฤศจิกายน จนกระทั่งแล้วเสร็จจึงจะสืบทางด้านจำเลยต่อให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 27 ธันวาคม หากมีการสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้วจะนำไปสู่การฟังคำพิพากษาซึ่งคาดว่าจะหลังจากปีใหม่ไปแล้ว
โดยจำเลยทั้ง 4 ได้ตกเป็นจำเลยคดีอาญาหมายเลขดำที่ 219/2561 ดังต่อไปนี้
นายเปรมชัย กรรณสูต 6 ข้อหา ได้แก่
1. ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต
2. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
3. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
4. ร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
5. ร่วมกันซ่อนเร้น พาเอาไปเสีย หรือรับไว้ ซึ่งซากสัตว์ป่าที่ได้จากการกระทำความผิด
6. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายยงค์ โดดเครือ 7 ข้อหา ได้แก่
1. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
2. ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตฯ
3. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
4. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
5. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าฯ
6. ร่วมกันซ่อนเร้น พาเอาไปเสีย หรือรับไว้ ซึ่งซากของสัตว์ป่า
7. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
นางนที เรียมแสน 5 ข้อหา ได้แก่
1. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
2. ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต
3. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าฯ
4. ร่วมกันซ่อนเร้น พาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย
5. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
นายธานี ทุมมาศ 8 ข้อหา ได้แก่
1. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
2. ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตฯ
3. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
4. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
5. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าฯ
6. ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น พาเอาไปเสีย หรือรับไว้ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย
7. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
8. พยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกรณี ซีอีโออิตาเลียนไทยล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรในเว็บไซต์มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
เรียบเรียง ฝ่ายสื่อสารองค์กร มูลนิธิสืบนาคะเสถียร