ชี้แจงกรณี ตร.จับหนุ่มมีคลิปโป๊ ที่แท้ หลอกเหยื่อถ่ายอนาจารแล้วอัดคลิปไว้แบล็คเมล์ภายหลัง!!
จากกรณีที่มีข่าว ตร.ไฮเทคจับหนุ่มพม่า โหลดคลิปโป๊ลงมือถือ รับโหลดไว้ดูช่วยตัวเอง ซึ่งการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์เครื่องมือพิเศษ Cellebrite ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สามารถเข้าถึงและดึงข้อมูลในอุปกรณ์หรือโทรศัพท์มือถือได้ ตรวจพบว่ามี บุคคลโหลดคลิปโป๊ เด็กอายุไม่เกิน 18 ปีมาเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือนั้น
เนื้อหาข่าวมีความคลุมเครือทำให้หลายคนเข้าใจผิดต่อการจับกุมผู้ต้องหา ที่แท้ผู้ต้องหาได้หลอกเหยื่อถ่ายอนาจารแล้วอัดคลิปไว้แบล็คเมล์ภายหลัง!!
โดยผู้สมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ Kittitouch Chaiprasith ได้โพสท์ชี้แจงข้อเท็จจริงระบุว่า
สืบเนื่องจากกรณีเพจข่าวดัง #บิดเบือนข่าว ด้วยการพาดหัวให้คนเข้าใจผิดเรื่องจับคลิปโป๊ สรุปคือ หลอกเหยื่อถ่ายอนาจารแล้วอัดคลิปไว้แบล็คเมล์ภายหลัง!!
การบิดเบือนของสื่อ
- ถ้ายังจำได้ว่าเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ข่าวสดได้ลงพาดหัว "ตร.ไฮเทค! แกะรอยตามจับหนุ่ม โหลดคลิปโป๊ลงมือถือ รับไว้ดูบิ้วช่วยตัวเอง" โดยที่จงใจไม่ใส่สาระสำคัญที่สุดของข่าวคือ #คลิปโป๊เด็ก !!!
- ซึ่งทำให้คนเสพข่าวเพจข่าวสดกว่าร้อยละ 99.99 เข้าใจผิดและเข้าไปด่าทอด้วยความหยาบคายรุนแรง รวมถึงโยงไปถึงเรื่องกฎหมาย พรบ.คอมพ์ฯ ว่าลิดดรอนสิทธิเสรีภาพ บลาๆๆ
- บ้างก็ด่าว่าทำไมไม่ไปจับคนร้าย ฆาตกร มามัวแต่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลทำไม บลาๆๆ โดยไม่รู้เลยว่าคลิปโป๊เด็กนั้นผิดตามหลักกฎหมายสากล และตำรวจที่เข้าจับกุมคือ คณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต( TICAC ) เขาเข้าจับกรณีนี้ก็ถูกต้องแล้ว
- ซึ่งผมได้เขียนประจานหนึ่งในพฤติกรรมแย่ๆ ของสำนักข่าวนี้และคนเสพข่าวนี้ที่เอาแต่เข้าไปด่าโดยไม่อ่านเนื้อหาข่าวไว้เมื่อวันก่อน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
https://www.facebook.com/kittitouch.chaiprasith/posts/2064904556907026
-------------------------
เนื้อหาที่ครบถ้วนของข่าว
-------------------------
*** แต่ปรากฎว่ามีคนอ่านข่าวและส่งข้อมูลมาให้หลังไมค์ว่า แท้ที่จริงยามชาวเมียนมาที่โดนจับกุมนั้น กระทำผิดในข้อหา หลอกลวงในเด็กโชว์ลามกอนาจารผ่านเฟสบุ๊คและไลน์ จากนั้นจึงแอบอัดคลิปไว้ แล้วเอาไว้แบล็คเมล์เด็ก เพื่อชวนมาร่วมเพศกันที่ จ.เชียงใหม่อีกที!!!
(ซึ่งอาจเพราะทางพ่อแม่หรือผู้ปกครองไปแจ้งความ ตำรวจที่ดำเนินการด้านนี้ เลยเข้าไปดำเนินจากสืบคดี จนพบตัวยามชาวเมียนมาคนดังกล่าว และแจ้งข้อหาเบื้องต้นคือ มีคลิปโป๊เด็ก และคาดว่าข้อหาอื่นจะตามมาอีกเพียบ!!)
นอกจากนี้ในงานแถลงข่าววันที่ 16 ของทางคณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต ( TICAC ) ได้แถลงว่ายังมีการจับกุมผู้ต้องหาล่วงละเมิดเด็กและเยาวชนอีก 2 คดี คือ
- คดีที่ 1 ผู้ต้องหาชาวออสเตรีย 1 ราย เข้าใช้ Dark Web เพื่อดาวน์โหลดและครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กในพื้นที่ จ.เชียงใหม่
- คดีที่ 3 ผู้ต้องหา 2 รายโดยหนึ่งในนั้นเป็นบุคคลในแวดวงศาสนา ร่วมกันกระทำชำเราเด็กชาย 7 คน ในพื้นที่ จ.ชลบุรี
https://www.facebook.com/TICAC2016/posts/724875371222175?__tn__=-R
ประชาธิปไตยภายใต้สื่อบิดเบือน
- สื่อควรจะทำเรื่องสงสัยให้กระจ่าง สื่อควรให้ปัญญาแก่คนในสังคม เพื่อส่วนพัฒนาสังคม และยิ่งถ้าต้องการเป็นสังคมประชาธิปไตย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนสามารถตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้
- แต่ปัญหาที่เราเห็นทุกวันนี้คือ สื่อ โดยเฉพาะสื่อที่มีทุนการเมืองและพวกนักเคลื่อนไหวหนุนหลัง มักจะไม่อยากให้คนได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง แต่จงใจบิดเบือนข้อมูล ด้วยการพาดหัวแรง ตัดทอนเนื้อหา หรือเลือกจงใจนำเสนอข้อมูลครึ่งเดียวหรือเสี้ยวเดียว เพื่อทำให้คนเข้าใจผิด!!
- สิ่งเหล่านี้มันสะท้อนว่าสื่อการเมืองเหล่านี้ ที่ชอบอ้างหลักการประชาธิปไตย แต่กลับมองมวลชนเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่พวกเขาจะสนตะพายไปทางไหนก็ได้ จากอำนาจของสื่อที่มีในมือ
- มันสะท้อนว่าสื่อเหล่านี้แค่ต้องการใช้ประชาธิปไตยแบบที่ขาดปัญญาและข้อมูลที่ถูกต้อง เขาต้องการเพียงประชาธิปไตยแบบที่สื่อและนายทุนการเมืองจูงจมูกผู้คนไปทางที่เขาต้องการได้ตลอดเวลาเท่านั้น!!!
*** มันถึงเวลาหรือยังที่สังคมต้องตื่นตัวกับภัยอันตรายในโลกยุคนี้กันเสียที ไม่เช่นนั้นแล้วสังคมในวันข้างหน้า คงจะเละไม่มีชิ้นดี เพราะใครคุมสื่อมากในมือก็คือ คุมความเข้าใจของคนในสังคมได้ทุกอย่าง...