มังกรเนื้อหอม! คาด “จีน” จะโค่นฝรั่งเศส รั้งแท่น ‘จุดหมายท่องเที่ยว’ เบอร์หนึ่งโลก
วานนี้ (6 พ.ย.) ยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (Euromonitor International) กลุ่มวิจัยการตลาดที่มีฐานอยู่ในกรุงลอนดอน เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่าจีนจะแซงหน้าฝรั่งเศสเป็นจุดหมายท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลกในปี 2030 ด้วยอานิสงส์จากพลังของ ‘ชนชั้นกลาง’ ในเอเชียที่ขยายตัวต่อเนื่องและหันมาใช้จ่ายเงินกับการท่องเที่ยว
ยูโรมอนิเตอร์ฯ คาดการณ์ว่าจะมีการเดินทางท่องเที่ยว 1,400 ล้านเที่ยวในปี 2018 ซึ่งเพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน และภายในปี 2030 หรืออีก 12 ปีข้างหน้าจะมีการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งพันล้านเที่ยว โดยเวลานั้นจีนจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเยือนมากที่สุดในโลก
รายงานระบุว่าความเฟื่องฟูอันยั่งยืนของธุรกิจการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งมีอัตราการเติบโตล้ำหน้าติดต่อกันนานแปดปีในระบบเศรษฐกิจโลก เกิดขึ้นอย่างชัดเจนใน ‘เอเชีย-แปซิฟิก’ ภูมิภาคที่ได้ประโยชน์จากชาติเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วและการขยายตัวของชนชั้นกลางที่เลือกใช้จ่ายเงินรายได้ไปกับการพักผ่อนหย่อนใจ
นายวาวเตอร์ เกียร์ตส์ นักวิเคราะห์อาวุโสด้านการท่องเที่ยวของยูโรมอนิเตอร์ฯ กล่าวว่ากระบวนการผ่อนปรนการขอวีซ่าช่วยให้การเดินทางในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น รวมถึงกิจกรรมกีฬาก็น่าจะเป็นอีกตัวกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก ฤดูหนาว ปี 2022 ของปักกิ่ง
รายงานเสริมว่าจีนยังอาจจะแซงหน้าสหรัฐอเมริกาและเยอรมนี เป็นประเทศที่มีการเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างแดนมากที่สุดในโลกภายในปี 2030 อีกด้วย โดยการท่องเที่ยวถือเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจจีน ซึ่งจีนได้ทุ่มลงทุนเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและมาตรฐานต่างๆ ให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนริเริ่มอันเป็นมิตรกับการท่องเที่ยว