เปิดโฉมหน้า 5 เศรษฐีใหม่ดวงเฮงถูกรางวัลที่ 1 งวดนี้ ต่างที่มารวยไม่ตั้งตัว
ผ่านพ้นไปได้หนึ่งวันกับการประกาศรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลในงวดที่ 41 วันที่ 1 พ.ย. 2561 แน่นอนว่ากลุ่มประชากรที่ต้องประสบพบความผิดหวังย่อมมีมากหากเทียบเป็นอัตราส่วน แต่กระนั้นไม่ว่าจะด้วยโชคชะตาฟ้าลิขิต หรือบุญนำกรรมแต่งอย่างใดไม่ทราบได้ งวดนี้กลับปรากฏเศรษฐีหน้าใหม่หลายครัวเรือน โดยจะยกมา 5 เคสด้วยกันดังนี้
เริ่มกันที่รางวัลใหญ่ ของนาวสาววรรณลี ปัญญาใส อายุ 45 ปี และนายสมภาร สุรัญกุล อายุ 38 ปี ชาวอุดรธานี ถูกรางวัลที่ 1 หมายเลข 149840 จำนวน 15 ใบ เป็นเงิน 90 ล้านบาท พร้อมเลขท้าย 2 ตัว 58 อีก 40 ใบ โดยมีผู้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก ผู้โชคดีรายนี้เผยว่า ตนมีลูก 3 คน ก่อนหน้านี้ได้แต่งงานกับสามีเป็นชาวสวิสเซอร์แลนด์ ทำงานเป็นผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่งในสวิสฯ มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน
ต่อมาสามีเสียชีวิต ตนจึงนำทุนไปต่อยอดซื้อที่ดินในการทำสวนไร่นาผสมผสาน จากนั้นจึงพบรักแต่งงานใหม่กับนายนายสมภาร และปัจจุบันมีอาชีพทำสวนไร่นาผสมผสานในเนื้อที่ 16 ไร่ และในคนอื่นเช่าอีก 18 ไร่
ที่มาของเลขเด็ดนั้น นาวสาววรรณลี เผยว่า เมื่อช่วงวันที่ 25 ต.ค. ขณะดูโทรทัศน์ มีข่าวอุบัติเหตุรถตู้ชนกับรถบรรทุก 10 ล้อที่อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ทำให้ไฟไหม้รถตู้ ซึ่งทะเบียนรถตู้คือ ฮต 6084 แต่มองเห็นผิดเป็น 840 และมีความรู้สึกถูกโฉลกชอบเลขนี้เป็นพิเศษ ประกอบกับก่อนหน้านี้ตนและสามีเคยไปบนไว้กับอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้สร้างเมืองอุดรธานีว่าถ้าถูกรางวัลที่ 1 จะให้สามีวิ่งรอบอนุสาวรีย์ฯ 200 รอบ จึงโทรศัพท์สั่งซื้อลอตเตอรี่กับพ่อค้าเจ้าประจำที่โรงแรมเซ็นทารา อุดรธานี โดยสั่งซื้อทั้งชุด 15 ใบที่ลงท้ายด้วย 840
ต่อกันที่ผู้โชคดีรายที่สอง นางจวน กาจหาญ อายุ 56 ปี ชาว ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี รับโชค ลอตเตอรี่หมายเลข 149840 ชุดที่ 09 และ 17 ถูก รางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ รับเงิน 12 ล้านบาท พร้อมเผยว่า ตนนั้นมีอาชีพเกษตรกร มีลูก 3 คน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา หลานชายได้เดินทางมาเยี่ยมจากประเทศญี่ปุ่น และบอกตนว่าต้องการไปไหว้หลวงปู่ศรีสุทโธและย่าศรีปทุมมาที่คำชะโนด เนื่องจากมีความเชื่อและศรัทธาในเรื่องพญานาค ในฐานะที่ตนเป็นคนพื้นที่ประกอบกับอยากไหว้ด้วยเช่นกัน
หลังจากไหว้ขอพรเสร็จ ขณะเดินทางกลับได้แวะกราบพระที่วัดแห่งหนึ่ง มีแม่ค้าหญิงคนหนึ่งนั่งขายลอตเตอรี่อยู่หน้าวัด จึงเดินไปขอซื้อ โดยมีหลานสาวชื่อน้องไข่มุก วิ่งตามหลังมาและคว้าเอาลอตเตอรี่ หมายเลข 149840 ซึ่งเขียนว่าชุด 2 ใบ 12 ล้าน ในราคา 200 บาท จึงควักเงิน 200 บาทจ่ายไป โดยไม่คิดว่าจะ ถูกหวย รางวัลใหญ่ถึง 12 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่ได้วางแผนต่อไปว่าจะนำเงินไปใช้ทำอะไร แต่จะทำบุญก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นจึงฝากไว้กับธนาคาร
ถัดมากับรายที่สาม สภ.เมืองร้อยเอ็ดรับแจ้งความ หลังนางตุ๊ อรัญมิตร อายุ 63 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.พิชัย จันทะคัด รองสารวัตร (สอบสวน) จากการเป็นผู้โชคดีถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 โดยได้นำสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 149840 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.61 จำนวน 2 ใบ ได้รับเงินรางวัล 12 ล้านบาท มาลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
นางตุ๊ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนรวมญาติเพื่อไปแสดงความยินดีกับหลานสาว ในพิธีรับหมวกพยาบาล ที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ระหว่างรอพิธีมีแม่ค้าลอตเตอรี่ได้เดินมายัดลอตเตอรี่ใส่มือให้ 3 ใบ ตอนแรกก็ปฏิเสธ แต่ท้ายสุดก็ตัดสินใจซื้อก่อนแบ่งให้ลูกสะใภ้ไป 1 ใบ และเก็บไว้เอง 2 ใบ ระหว่างทางกลับมีประกาศผลรางวัลพอดี จึงนำลอตเตอรี่มาตรวจ ปรากฏว่าถูกรางวัลที่ 1 ส่วนเงินรางวัลนั้นวางแผนว่านำไปทำบุญและเก็บไว้ใช้ต่อไป
รายที่สี่ อยู่ที่ ต.โพธิ์ม่วงพันธุ์ อ.สามโก้ จ.อ่างทอง เจ้าของคือ นางสุมาลี แจ่มกระจ่าง อายุ 53 ปี อาชีพค้าขาย ถูกรางวัลที่ 1 หมายเลข 149840 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2561 จำนวน 4 ใบ ได้รับเงินรางวัล 24 ล้านบาท เผยที่มาของเลขว่า ก่อนหน้านี้ฝันเห็นพ่อที่เสียชีวิตอยู่ในโลงศพสีทอง จึงตั้งใจจะซื้ออายุของพ่อ คือเลข 740 เพราะตอนที่พ่อเสียชีวิตอายุ 74 แต่ตอนจะซื้อกลับไม่มีเลขที่ต้องการ มีแต่เลข 840 จึงตัดสินใจซื้อไว้ 4 ใบ หลังจากรู้ว่าถูกรางวัลที่ 1 ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
มาถึงรายสุดท้าย ที่ จ.อุตรดิตถ์ นางไสว บูรณะพิสุทธิ์ อายุ 50 ปี ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ใบ รับเงิน 6 ล้านบาท ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 1 พ.ย. 2561 ตนและสามีได้ฝันเห็นชายอ้วนรูปร่างสูงใหญ่ ไม่สวมเสื้อมาบอกให้ไปซื้อเลข 40 ไว้ รุ่งเช้าจึงรีบไปหาซื้อเลขตามความฝัน หลังประกาศผลและทราบว่าตนคือผู้โชคดีจึงได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.บ้านโคก หลังจากขึ้นรางวัลมาก็จะมาทำบุญ และอีกส่วนหนึ่งก็จะฝากธนาคารไว้ให้เป็นทุนการศึกษาให้หลาน ต่อไป
แหล่งที่มา: https://www.tnews.co.th/contents/482642