ปรากฏการณ์ ชาวบ้านถาม ’กลับมาเล่นการเมืองทำไม’ สะท้อนนัยอะไร ’สุเทพ’

’กลับมาทำไม ไหนว่าจะไม่เล่นการเมืองแล้ว' ตอนนี้คงเป็นคำถามที่ก้องอยู่ในหัว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ระหว่างทำกิจกรรม "เดินคารวะแผ่นดิน" เพื่อหาสมาชิกพรรค ปรากฏการณ์นี้สะท้อนอะไร ในความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อนายสุเทพ หรือไม่ ทีมข่าวเจาะประเด็นได้รวบรวมความเห็นจากหลายฝ่าย ลองไปดูกัน

วันที่ 31 ต.ค. นายถาวร เสนเนียม อดีต แกนนำ กปปส. กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็น ถึงปรากฏการณ์ประชาชนถามกลับมาเล่นการเมืองทำไม ที่เกิดขึ้นระหว่างที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย รปช. ลงพื้นที่เดินคารวะแผ่นดินเพื่อหาสมาชิกพรรค รปช.ว่า เป็นการแยกขั้วแยกฝ่าย คือกลุ่มการเมืองอีกขั้ว มีการสร้างกระบวนการความคิดทางการเมืองอีกฝ่ายขึ้นมา พยายามสกัดกั้น กีดกัน เพื่อจัดการกับท่านสุเทพ เพราะท่านเป็นผู้ทำให้คนเหล่านั้นตกจากขั้วอำนาจทางการเมือง เป็นฝ่ายตรงข้าม อาจเจ็บแค้นท่านสุเทพ ทั้งกรณีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. การต่อต้านออกกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งยังแยกฝ่ายอย่างชัดเจน จะมีก็แค่บางคนที่ดวงตาเห็นธรรม อย่าง คุณจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.เท่านั้น ที่ประกาศหาความรอมชอมให้เกิดความสงบในชาติ ส่วนแกนนำคนอื่นๆ ยังไม่เห็น

ส่วนคำถามที่ว่า หากกลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหวป่วนนายสุเทพ ไม่ใช่กลุ่มการเมืองอีกฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามขึ้นมาล่ะ นายถาวร กล่าวต่อว่า ถ้าไม่ใช่จริงก็เป็นกลุ่มคนที่มีความคิดสุดโต่ง ทั้งมีการจัดตั้งขึ้นมาหรือไม่จัดตั้งก็เป็นได้

ด้าน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส่วนตัวปรากฏการณ์นี้สะท้อนความจริงว่า คุณสุเทพน่าจะเข้าใจผิด หรือสำคัญตัวเองผิดว่า คนกรุงเทพฯ ชอบ และรักคุณสุเทพ เพราะลักษณะและประวัติภูมิหลัง รวมถึงความไม่โปร่งใสในหลายเรื่องในอดีตของคุณสุเทพ ไม่น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคนกรุงเทพฯ ได้ คนกรุงเทพฯ เพียงใช้คุณสุเทพเพื่อประโยชน์ชั่วคราวเท่านั้น และเมื่อการกระทำดังกล่าวกลับส่งผลระทบสร้างความเดือดร้อนให้กับคนกรุงเทพฯ และครอบครัวของพวกเขาอย่างแสนสาหัส อาจทำให้เปลี่ยนเป็นความเกลียดชังและความเคียดแค้น อาจคิดเหมือนคุณสุเทพ เป็นต้นเหตุของความย่ำแย่ทางเศรษฐกิจ และนำพามาซึ่งรัฐบาลที่บริหารประเทศล้มเหลว มีข้อครหาการคอร์รัปชัน แถมยังจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ขนาดเพลงแร็ปที่สะท้อนความจริง และความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ที่อึดอัดกับสภาวะที่เป็นอยู่มากว่า 4 ปี ยังถูกโจมตีและถูกข่มขู่ว่าจะดำเนินคดี จนมีผู้เข้าชมถึงกว่า 23 ล้านวิวแล้ว ทั้งเรื่องคุณสุเทพ และเรื่องเพลง “ประเทศกูมี” เป็นสัญญาณสะท้อนเตือนไปยังรัฐบาล และ คสช.อย่างชัดเจนว่า ประชาชนจำนวนมากมีความรู้สึกและคิดอย่างไรกับ รัฐบาล และ คสช.

ส่วนนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายสุเทพ ออกเดินหาสมาชิกพรรค แล้วมีคนต่อต้านก่อกวน และระบุว่าเป็นฝีมือของกลุ่มอำนาจเก่าว่า นายสุเทพ จะพูดแก้เกี้ยวที่เสียหน้าอย่างไรก็ได้ แต่ประชาชนรู้ดีว่านายสุเทพ เป็นคนอย่างไร คำพูดมีความน่าเชื่อถือหรือเป็นโมฆะบุรุษ การออกมาเดินถนนอีกครั้งของนายสุเทพ ประชาชนมีภาพจำที่เลวร้ายกับการเป็นแกนนำม็อบชัตดาวน์ประเทศ ก่อจลาจลขัดขวางการเลือกตั้ง ทำให้ประเทศเสียหายหลายแสนล้านนายสุเทพเคยประกาศจะไม่เล่นการเมือง ก็เล่น บอกจะไม่ตั้งพรรคการเมือง ก็มาตั้ง อ้างว่าตระบัดสัตย์เพื่อชาติ ไม่รู้ว่าในอนาคตจะตระบัดสัตย์เพื่อใคร หรือเพื่ออะไรอีกหรือไม่ นายสุเทพ จะทำอะไรตราบที่ไม่ผิดกฎหมายก็ทำไป แต่ต้องยอมรับว่ามีภาคส่วนต่างๆ ได้รับผลกระทบจากการก่อจลาจลชัตดาวน์ประเทศเป็นจำนวนมาก

"คำว่ากลุ่มอำนาจเก่าของนายสุเทพ ไม่รู้ว่าหมายถึงกลุ่มใด แต่กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากการชัตดาวน์ประเทศ เป็นกลุ่มที่ถืออำนาจรัฐอยู่ในปัจจุบันหรือไม่ สังเกตจากการมีแกนนำ กปปส.ได้รับการตกรางวัลเข้าไปรับตำแหน่งในรัฐบาลมากมาย ในขณะที่พรรคที่มีจุดยืนตรงกันข้ามกับรัฐบาล คสช.ทำอะไรก็ต้องระวัง แต่พรรคของนายสุเทพ ทำอะไรก็ได้ไฟเขียวผ่านตลอด ดังนั้นการมีคนไปต่อต้านก่อกวน มีห้างไม่ยอมให้เข้า แทนที่นายสุเทพจะโทษคนอื่น ต้องสำรวจพฤติกรรมของตัวเองด้วยว่าไปทำอะไรไว้ สิ่งที่นายสุเทพได้รับผลกรรมในวันนี้ อาจเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับความเสียหายที่เกิดในวงกว้างจากการชัตดาวน์ประเทศ" นายอนุสรณ์ กล่าว.