ผู้คนนับพันดูการถ่ายทอดสดที่น่าเบื่อของเมืองนี้ และไม่มีใครรู้ว่าทำไม
นโลกอินเทอร์เน็ตมักมีกระแสอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ แต่คงไม่มีกระแสครั้งไหนที่แปลกไปกว่าการแห่กันไปชมสิ่งที่น่าเบื่ออย่างเช่นครั้งนี้ย้อนกลับไปในปี 2014 เมื่อชายท้องถิ่นคนหนึ่งในเมือง แจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการถ่ายทอดสดสี่แยกแห่งหนึ่งภายในเมืองบนเว็บไซต์ยูทูป โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและธุรกิจท้องถิ่นภายในเมืองบ้านเกิดของเขาแต่ในช่วงเดือนกันยายน 2016 ไม่มีใครทราบว่า ทำไมการถ่ายทอดสดที่สี่แยกอันแสนน่าเบื่อในเมืองแจ็คสัน โฮล ถึงกลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ได้ เมื่อจู่ๆ ก็มีผู้เข้าชมการถ่ายทอดสดเพิ่มมากขึ้น มากขึ้นในแต่ละวัน ชาวเน็ตคนหนึ่งที่เพิ่งพบการถ่ายทอดสดนี้กล่าวว่า
“มีผู้คน 1,400+ คน กำลังดูการถ่ายทอดสดนี้อยู่ และไม่มีใครสักคนที่รู้ว่าทำไม แต่พวกเขาอยู่ที่นี่ รวมถึงฉันด้วย และนี่คือสิ่งที่ผู้คนพูดกันในแชท”ทุกครั้งที่มีอะไรผ่านเข้ามา ก็จะมีคนพิมพ์เกี่ยวกับสิ่งนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงถือกระเป๋า หรือรถเมล์
รถบรรทุกคันนี้มีคำว่า NICHOLAS ผู้คนก็จะพิมพ์คำว่า NICHOLAS กันเต็มช่องแชทไปหมด
เมื่อเจอผู้หญิงวิ่งข้ามถนน ก็มีแต่คนพิมพ์คำว่า Run
รถกระบะคันเก่าวิ่งแผ่นไป ผู้คนก็หยิบมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกสนาน
พอมีสุนัขเข้ามาในจอ ก็ดูเหมือนว่าจะมีคนสนใจเป็นพิเศษ
jaywalk หมายถึงการข้ามถนนอย่างไม่ระมัดระวัง บางคนก็สงสัยว่า ทำไมเราถึงมาอยู่กันที่นี่
รถกระบะสีแดง รู้สึกผู้คนจะชื่นชอบมากเป็นพิเศษ
ชายคนนี้ดูการถ่ายทอดสดอยู่ดีๆ แล้วก็เจอคนถือป้าย “กระบะแดงคือชีวิต” โผล่ขึ้นมาบนจอ นี่ถือเป็นเรื่องตื่นเต้นที่สุดที่เคยเกิดขึ้นบนสี่แยกแห่งนี้
ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เป็นเจ้าของกล้องหรือเป็นแค่คนที่รู้ว่า กล้องตัวนี้ตั้งอยู่ในตำแหน่งไหนหรือเปล่า
ใครที่ผ่านเข้ามาในกล้อง ต้องถูกแซวจากชาวเน็ตเหล่านี้หมด
ดูเหมือนตำรวจจะทำท่าแด๊บให้พวกเราด้วย
ในปัจจุบันนี้ การถ่ายทอดสดเมือง แจ็คสัน โฮล ก็ยังคงดำเนินต่อไป และในขณะที่ผมเข้าไปดูตอนนี้ก็มีคนที่ชมการถ่ายทอดสดราว 140 คนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งคาดว่าสาเหตุที่คนลดลงไปอย่างมากเนื่องจากทางเจ้าของชาแนลได้ทำการปิดแชทไปเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ผู้คนไม่สามารถพิมพ์อะไรได้อีก
สรุปแล้วก็ยังไม่มีใครไขปริศนานี้ได้ว่า ใครเป็นคนเริ่มกระแสนี้ ทำไมจู่ๆ การถ่ายทอดสดเมืองที่น่าเบื่อแบบนี้ถึงมีคนดูเยอะขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะจำนวนคนดูขนาดนี้ ก็ถือว่าน้อยกว่าการถ่ายทอดสด “โลก” จากมุมมองสถานีอวกาศนานาชาติของน่าซ่าเพียงไม่เท่าไหร่