8 ดารา “เกิดในครอบครัวที่ไม่อบอุ่น” แต่ ฟ้าหลังฝนต้องสดใสเสมอ

8 ดารา “เกิดในครอบครัวที่ไม่อบอุ่น” แต่ ฟ้าหลังฝนต้องสดใสเสมอ

8 ดาราที่ “พ่อแม่แยกทาง” ชีวิตลำบาก แต่สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จในชีวิต!!

การที่มีครอบครัวที่อบอุ่นถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีมากๆ เพราะการที่จะรักษาครอบครัวไว้ให้ครบนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เหมือนอย่างเช่น 8 ดาราเหล่านี้ที่ต้องพบกับปัญหาพ่อแม่แยกทางกันตั้งเด็กๆ ต้องเจออุปสรรคมากมายแต่สุดท้ายแล้วพวกเขาเหล่านี้ก็ประสบความสำเร็จในชีวิตมีคนที่รักและคอยติดตามมากมาย ส่วนดาราที่พูดถึงจะมีใครบ้างไปดูกันเลย…

 

8. อิน ณัฐณิชา

อดีตนักแสดงเด็กชื่อดัง ประสบอุบัติเหตุขับรถยนต์เสียชีวิต โดยขณะที่ “น้องอิน” ยังมีชีวิตอยู่ เธอได้ออกมาเปิดเผยชีวิตในอดีต ที่ต้องดิ้นรนทำมาหากินด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอเอง จนเธอมีชีวิตที่ดีขึ้นและมีกินมีใช้ทุกวันนี้ สามารถซื้อบ้านและรถในวัยเพียง 19 ปี แต่ต้องมาเสียชีวิตในวัย 20 ปี

 

“น้องอิน” เล่าว่า ตอนเด็กๆ เป็นนักแสดง ทำงานมาตั้งแต่อายุประมาณ 5 ขวบ รู้สึกว่าทำงานแล้วได้เงิน แต่ไม่รู้ว่าเงินคืออะไร ทุกครั้งที่ไปกองถ่ายก็จะได้กินไอติม มีความสุขมากที่ได้กิน แต่ไม่รู้เงินสำคัญมากแค่ไหน ใน 1 ปี มีละคร 5-6 เรื่อง กระทั่งกำลังเรียนอยู่ชั้นป.3 สามารถซื้อบ้านในราคา 5-6 ล้านบาท แม่มีความสุขมากๆ แต่ในระหว่างทางครอบครัวก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เพราะแม่เลี้ยงอินมาตั้งแต่เด็กเพียงลำพัง พ่อกับแม่เลิกกันตอนที่อินอยู่ในท้อง กระทั่งห่างหายจากการแสดงละครไปเป็นพิธีกร แต่แล้วก็เหลือเพียงการเรียนอย่างเดียว กลายเป็นว่าไม่ได้ช่วยแม่ทำงานแล้ว ชีวิตจากเด็กคนหนึ่งที่ช่วยแม่หาเงินจุนเจือครอบครัวกลับดิ่งลงเหว บ้านหลังนั้นต้องขายทิ้งแบบขาดทุน และขายรถทิ้ง เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ตั้งแต่นั้นมาก็ต้องนั่งรถเองไปโรงเรียน ทุกอย่างแย่มากๆ แม่ก็เครียดถูกคนสบประมาท พาลูกไปเต้นกินรำกิน ใช้แรงงานลูก พูดจาเหน็บแนมฟังแล้วทำให้ร้องไห้ กลายเป็นความเครียดสะสม เป็นเด็กจิตตกและเครียด

 

กระทั่งเริ่มเรียนม.4 จึงไปสอบเทียบ GED เข้าปี 1 ตอนม.4 เพราะอยากช่วยแม่มาก แต่ด้วยที่อินเรียนไม่เก่ง จึงเรียนไม่จบ หันไปรับเสื้อผ้ามาขายออนไลน์ เพื่อเอาไปจ่ายค่าเทอม 4-5 หมื่น/เทอม และเปิดธุรกิจอาหารเสริม กลายเป็น CEO จนมีรายได้หาเลี้ยงครอบครัว “เราอย่าคิดว่าเรามีแต่จุดด้อย โชคดีอินพูดเก่ง แต่ไม่ได้แปลว่าอินพูดดี อินก็ฝึกพูดไปเรื่อยๆ คำว่า แต่ จะทำให้เราไม่ไปไหน ทุกคนมีปัญหาหมดในชีวิต อินเคยมีปัญหาที่หนักมาก แต่อย่าเอาปัญหามากำหนดชีวิต เราต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาให้เจอ บางคนคิดหนีปัญหา หาแต่สิ่งที่หดหู่ใจ แต่สำหรับอิน เมื่อเกิดปัญหาต้องเเก้เร็วที่สุด ไม่ปล่อยให้ปัญหาอยู่กับเรานานๆ จึงอยากช่วยคุณแม่ เพราะท่านอายุมากแล้ว”

7. ชาคริต แย้มนาม

 

คุณพ่อสุดอบอุ่น ที่ในอดีตเป็นพระเอกไม้เลื้อยพัวพันสาวๆ ไปทั่ว แม้อาจจะไม่ใช่คำตอบของที่มาในพฤติกรรมทั้งหมดที่เป็นอยู่เกี่ยวกับเรื่องของความรักของผู้ชายคนนี้ แต่ “ปม” ในวัยเด็กที่ถูกผู้เป็นบิดาทิ้งไปตั้งแต่เมื่อครั้งที่เขายังเป็นทารกอยู่ในครรภ์มารดาก็เป็นสิ่งที่เจ้าตัวยอมรับว่าคือแรงกดดันอย่างหนึ่งที่ทำให้ตนเองอยากจะลบภาพของความไม่สมบูรณ์ออกไปด้วยการที่มีครอบครัวที่ดีๆ

ซึ่งในปัจจุบัน เจ้าตัวก็ได้มีครอบครัวอย่างที่ใฝ่ฝันไว้แล้ว พร้อมกับมีลูกน้อยที่รอคอยมานานอย่าง น้องโพธิ์ ที่หล่อไม่แพ้พ่อเลย

6. แตงโม นิดา

 

คุณพ่อและคุณแม่แยกทางกัน แตงโมอยู่กับคุณพ่อเพียงลำพังสองต่อสองมาโดยตลอด แต่ก็ยังคงติดต่อและพูดคุยกับคุณแม่อยู่ตลอด และยังเคยพาคุณแม่มาออกรายการด้วยกันอีกด้วย

และเมื่อวันคล้ายวันเกิดครบรอบอายุ 33 ปี ของ แตงโม คงเป็นวันที่เจ้าตัวมีความสุขที่สุด เหตุผลก็เพราะเธอได้มีโอกาสถ่ายรูปครอบครัว พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกเป็นครั้งแรก และนี่คือภาพแห่งความประทับใจ ภาพที่แตงโมบอกด้วยเสียงสะอื้นว่า รอคอยมานานมาก ตลอดชีวิต เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีรูปครอบครัวเลย “ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่มากๆ ที่ วันนี้ให้ของขวัญที่รอคอยมานานมาก ตลอดชีวิต รอคอยมา 30 ปี ขอบคุณที่คุณพ่อคุณแม่ เสียสละ ขอบคุณที่พระเจ้า ที่น้องคิดว่าวันนี้มันอาจจะไม่มีจริง แต่ว่าได้เกิดขึ้นมาได้ พ่อคิดไอเดียว่าเราควรถ่ายรูปร่วมกัน ตั้งแต่เกิดมาเราไม่เคยมีรูปครอบครัวเลย รักพ่อแม่มากทีสุดในชีวิต ขอบคุณมากๆ ค่ะ”

5. โทนี่ รากแก่น

กว่าที่เส้นทางชีวิตของทั้งครอบครัวจะมาบรรจบกันจนเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์เช่นทุกวันนี้ ก็ต้องพบกับการพลัดพรากจากกันครั้งแล้วครั้งเล่า และเมื่อกลับมาอยู่ด้วยกันแล้วแต่ละคนก็ยังมีภารกิจของตัวเองจนไม่ค่อยได้พบกันเหมือนครอบครัวอื่น ทว่าทุกคนโดยเฉพาะ โทนี่ นั้นก็ยืนยันว่านั่นไม่ใช่ปัญหาเลยแม้แต่น้อย

“ถ้าถามว่าผมรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีผลกระทบหรือ คิดว่าตัวเองขาดอะไรไหมผมไม่ค่อยรู้สึกว่าขาดอะไรนะครับ เพราะพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ผมยังเด็กมาก อายุยังไม่ถึง 2 ขวบและยังจำความไม่ได้เลยถึงแม้ว่าต่อมาแม่จะไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาส่วนพ่อก็ไปทำงานที่กรุงเทพฯ แต่พวกเรา 3 คนก็ได้ คุณย่า กับ อานาง ที่ดูแลเราอย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่เล็กจึงไม่ค่อยมีสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่าเราขาดแม่หรือขาดพ่อนะครับ”

“แต่ถึงอย่างนั้นผมก็คงไม่สามารถพูดได้ว่าไม่มีผลกระทบเลยนะ เดาว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก็คงกระทบผมกับพี่ๆ ไปคนละแบบ แต่ส่วนใหญ่ก็มารับรู้ว่าเรามีปมแบบนี้ๆ ที่ทำให้เกิดผลลัพธ์บางอย่างกับชีวิตก็ตอนที่โตกันแล้ว ตัวอย่างเช่น ตอนเด็กๆ ผมมีปัญหาเรื่องคิดไม่ค่อยทันคนอื่นเขาพอเห็นรุ่นพี่เขาคิดและตัดสินใจได้เร็ว เราก็เลยคิดได้ว่า อ๋อสงสัยเขาคงมีพ่อแม่คอยอยู่ให้คำแนะนำตลอดเวลา เราก็เลยใช้วิธีมองรุ่นพี่พวกนี้แหละ”

4. เป๊ก ผลิตโชค

เมื่อครั้งยังเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยความที่ เป๊ก มีความฝันที่จะเป็นนักร้อง จึงได้เลือกอยู่กับคุณพ่อ เพราะคุณแม่แต่งงานใหม่ และย้ายไปอยู่ประเทศฮอลแลนด์ แต่ถึงแม้ตัวจะห่างกันเพียงใด แต่ดวงใจไม่เคยห่าง เพราะไม่ว่า เป๊ก จะมีเรื่องอะไรก็ตาม ก็จะเล่าให้คุณแม่ฟังตลอด

3. ใหม่ ดาวิกา

นางเอกพันล้านอย่างสาว ที่ถึงแม้ว่าครอบครัวของเธอคุณพ่อกับคุณแม่จะแยกทางกัน แต่เมื่อวันแม่ในปีที่ผ่านมา เธอก็ได้แอบเผยโมเม้นท์ที่แสนอบอุ่นให้แฟนๆได้ทราบผ่านทางทวิตเตอร์ว่า

“ตั้งแต่พ่อแม่แยกทางไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นภาพนี้ นางนั่งข้างกันจ้า…ไม่ได้อยากให้กลับมารักกันแต่อยู่เพื่อลูกแบบนี้ลูกก็ดีใจแล้วคร่าาาา…” ถึงแม้จะแยกทางกันไป แต่ก็ยังอยู่แบบอบอุ่นเพื่อลูกสาวคนนี้ สุดยอดมากๆ เลยล่ะ แค่นี้ใหม่ก็ดีใจแล้ว ไม่ต้องกลับมารักกันก็ได้

2. แอน ทองประสม

 

นักแสดงและผู้จัดคนเก่ง ที่ใครจะรู้ว่ากว่าแอนจะมีวันนี้ที่มีชื่อเสียง เงินทอง เธอเคยลำบากมาก่อนขนาดไหน โดย แอน เป็นลูกครึ่งไทย-สวีเดน โดยคุณแม่เป็นคนไทย ส่วนคุณพ่อเป็นชาวสวีเดน แอนเป็นลูกคนกลาง มีพี่ชายและน้องชายอย่างละหนึ่งคน

เมื่อตอนเด็ก แอนอาศัยอยู่กับยาย ซึ่งตอนนั้นคุณยายของแอนมีอายุประมาณ 70 ปี ซึ่งแม่จะส่งค่าเทอมและค่าใช้จ่ายมาให้ ซึ่งชีวิตในวัยเด็กของแอนนั้นถือว่ามีความยากลำบากไม่น้อย โดยแอนไม่อายที่จะเล่าชีวิตในวัยเด็กของเธอให้ฟังว่า เมื่อตอนที่อยู่ ป.6 เรียนโรงเรียนวัด ได้เงินไปโรงเรียนวันละ 10 บาท รวมค่ารถเมล์ ค่าขนมไม่พอกิน ต้องรับจ้างครูล้างชามก๋วยเตี๋ยวเพื่อแลกกับได้กินมื้อเที่ยงที่โรงเรียนฟรี ส่วนชุดนักเรียนซื้อใหม่บ้าง รอขอชุดใช้แล้วจากรุ่นพี่บ้าง หรือรอรัฐบาลแจกบ้าง รองเท้าแตะนั้นก็มีเพียงคู่เดียวแบ่งกันใส่กับคุณยาย ถ้าวันนี้แอนใส่รองเท้ายายจะเดินเท้าเปล่า

1. ต้นหอม ศกุนตลา

 

ในวัยเด็กของเธอคนนี้ไม่ธรรมดาเลย แรกเริ่มด้วยความที่เธอเป็นเด็กขาดความอบอุ่น เพราะครอบครัวหย่าร้าง และถูกเลี้ยงดูอย่างเข้มงวด โดนตีทุกครั้งที่ทำผิด แต่พ่อไม่เคยให้เหตุผลว่าผิดอย่างไร พอจบมัธยมฯต้นแล้ว ดีเจสาวก็ทนไม่ไหว หนีออกจากบ้านพ่อไปหาแม่ แต่ญาติทางฝ่ายแม่ส่งตัวกลับมา

หลังจากนั้นไม่นานต้นหอมก็หนีออกมาอีก แต่คราวนี้ไปอยู่กับเพื่อน ก่อนจะย้ายออกมาใช้ชีวิตตามลำพัง ด้วยความที่ออกมาใช้ชีวิตด้วยตนเอง บังคับให้เธอต้องหางานทำ ต้นหอมได้งานในเลาจน์ เจ้าของร้านเอ็นดูมาก ขอเป็นพ่อบุญธรรม แต่การกระทำดันเกินเลย มักชอบมาจับมากอด เธอต้องพยายามเลี่ยงอยู่บ่อยครั้ง แต่ความโชคร้ายยังไม่จบเท่านั้น พอทำงานไปได้สักพัก เธอเริ่มสนิทกับแขก ถึงขั้นไปเที่ยวด้วยกันตามลำพัง และเคยถูกหลอกเข้าม่านรูดมาแล้ว แต่ต้นหอมพยายามใช้สติ พูดเพื่อให้คนเหล่านั้นคิดได้ จนเอาตัวรอดจากสถานการณ์เลวร้ายนั้นได้ทุกครั้ง

ขณะเดียวกัน ช่วงที่ต้นหอมทำงานกลางคืน เธอได้เช่าห้องอยู่กับเพื่อน 2 คน ซึ่งเพื่อนคนนี้ติดยา เริ่มด้วยที่ดมกาวก่อน สาวต้นหอมก็ลองตามเพื่อนบ้าง ต่อจากนั้นก็เริ่มพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ มีกัญชา เฮโรอีน และยาอีตามลำดับ ติดใจลองอยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนที่จะถึงจุดเปลี่ยน เมื่อการเรียนตกต่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และพัวพันกับคนมีอิทธิพล สาวต้นหอมเลยเกิดรักชีวิต เลิกยุ่งกับยาเสพติด หันกลับมาเอาดีด้านเรียน ตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งใจไว้ สุดท้ายดีเจสาวจบปริญญาตรี จากสาขาเศรษฐศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทร์เกษม โดยระหว่างที่เรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 เธอได้ทำงานอยู่ในวงการพริตตี้ควบคู่ไปด้วย ทำให้มีประสบการณ์ในการให้ความบันเทิงกับคนดู ก่อนที่ต้นหอมจะเริ่มเข้าสู่วงการผ่านการอ่านข่าวกีฬา และเป็นนักจัดรายการวิทยุในเวลาต่อมา ก่อนจะเริ่มผันไปเป็นพิธีกรตามรายการมากมาย จนมีชื่อเสียงมาถึงทุกวันนี้