เปิดที่มานามมงคล! "น้ำตกธารเสด็จ" บ่อน้ำจืดธรรมดา ที่แม้แต่ในแผนที่ก็ไม่มีปรากฏ
เปิดที่มานามมงคล! "น้ำตกธารเสด็จ" บ่อน้ำจืดธรรมดา ที่แม้แต่ในแผนที่ก็ไม่มีปรากฏ
พวกเราทราบกันดีว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพ่อ ร.๕ ทรงชอบเสด็จประพาสตามสถานที่ต่างๆ เพื่อพักผ่อนพระวรกาย หนึ่งในสถานที่นั้นคือ น้ำตกธารเสด็จ เกาะพงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ่อหลวงเสด็จมาที่น้ำตกแห่งนี้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๒ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักแพร่หลายมานาน ปัจจุบันก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเกาะพงันด้วย
สมัยก่อน น้ำตกแห่งนี้ไม่เป็นที่รู้จักของคนภายนอก แม้ในแผนที่ซึ่งทำขึ้นเมื่อต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ไม่ปรากฎว่ามีน้ำตก ระบุแต่ว่าเป็นบ่อน้ำจืด ครั้นพระองค์เสด็จพระราชดำเนินประพาสเกาะพงันเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๒ ด้วยความสนพระราชหฤทัยจึงเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตร และพบว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม มีลำธารน้ำขนาดใหญ่ เหมาะแก่การสำราญพระอิริยาบถมาก จึงพระราชทานนามมงคลไว้ว่า "น้ำตกธารเสด็จ"
ในกาลต่อมา เมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้คราวใด ก็โปรดแวะเกาะพงันนี้เสมอๆ หลายครั้งพระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาสรงน้ำที่น้ำตกธารเสด็จ รวมถึงน้ำตกอื่นๆ ในบริเวณนั้น คือ น้ำตกธารประพาส และน้ำตกธารประเวศ ในแต่ละครั้งจะโปรดเกล้าฯ ให้สลักพระปรมาภิไธยย่อ และปีที่เสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งรวมแล้วก็มากถึง ๑๔ ครั้ง จดหมายเหตุเสด็จพระราชดำเนินประพาสหัวเมืองมลายู เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๔๘ บันทึกถึงการเสด็จพระราชดำเนินมายังน้ำตกธารเสด็จไว้ดังนี้
"วันที่ ๙ เวลาเช้าโมงหนึ่ง เรือพระที่นั่งมหาจักรีถึงเกาะพงัน ทอดตรงธารเสด็จ เวลาเช้า ๓ โมง เสด็จประทับเรือพระที่นั่งกรรเชียงขึ้นประพาส มีข้าราชการแลราษฎรมณฑลชุมพรมาคอยรับเสด็จเหมือนคราวก่อน โปรดเกล้าฯ พระราชทานแจกเสมาแก่เด็กแล้ว ทรงพระราชดำเนิรไปต้นธารที่เคยทรง ประทับสรงน้ำแล้ว เสด็จมาเสวยเครื่องว่างที่ศาลาริมธารนั้น แล้วเสด็จกลับถึงเรือพระที่นั่งมหาจักรีเวลาเที่ยงเศษ"
แม้ในรัชกาลต่อๆ มา คือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อเสด็จประพาสน้ำตกธารเสด็จคราวใด ก็โปรดเกล้าฯ ให้สลักพระปรมาภิไธยย่อและปีที่เสด็จพระราชดำเนินไว้เป็นที่ระลึก เป็นธรรมเนียมสืบต่อมา