เยอะจนได้เรื่อง!!
จากกรณี เฟซบุ๊ก Last Stand โพสต์ภาพและข้อความ ระบุว่า เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ได้ส่งหนังสือถึง เจ้าอาวาสวัดไทร ย่านพระราม 3 ระบุว่า ประชาชนแจ้งเรื่องร้องทุกข์ว่าได้รับความเดือดร้อน กรณีที่วัดไทร ทำการตีระฆัง ส่งเสียงดังรบกวน ตั้งแต่เวลา 03.30 น. – 04.00 น. เป็นประจำทุกวัน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้พักอาศัยบริเวณดังกล่าว สำนักงานเขตบางคอแหลม จึงขอความร่วมมือวัดไทร ลดเสียงให้เหมาะสม ป้องกันการสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้พักอาศัยบริเวณใกล้เคียง
นอกจากนี้ยังมีการระบุข้อความเพิ่มเติมด้วยว่า เรียนรู้คําว่าประเพณีและวัฒนธร สิ่งทีทํากันมาเป็นร้อยๆปี การที่คนไปร้องเรียนแล้วจะมาให้วัดปรับปรุงสิ่งที่เคยทํามามันคงจะบ้ากันไปแล้ว ถ้าวัดตีระฆังดังท่านก็เอาเครื่องวัดมาวัดระดับเสียงได้เลยย จากหอระฆังถึงคอนโดน่าจะประมาณ 800 เมตร จะทําอะไรก็คิดก็ถามหรือมานั่งดูก็ได้ถ้ากลัวผี เดียวจะไปนั่งเป็นเพื่อน เรียนกันมาเสียดายเงิน ปล.วัดสร้างมา300กว่าปี คอนโด Star Viewสร้างมาไม่ถึง10ปี ปวดหัวกับพวกเอ็งจริงๆ
จากกรณีดังกล่าวนั้น นางสาววันทนีย์ สว่างตระกูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางคอแหลม กล่าวว่า เนื่องจากมีประชาชน ร้องเรียนไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ 1555 กรุงเทพมหานคร ว่าได้รับความเดือดร้อน กรณีวัดไทร ทำการตีระฆัง ในเวลา 03.30 น. – 04.00 น. ซึ่งส่งเสียงรบกวนและสร้างความเดือดร้อนกับผู้พักอาศัย
เมื่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ส่งเรื่องมาที่เขต เขตจึงทำหนังสือถึงเจ้าอาวาส เพื่อขอให้พิจารณาปรับลดระดับเสียงและพิจารณาช่วงเวลาในการตีระฆังให้เหมาะสม เพื่อป้องกันการสร้างความเดือดร้อนรำคาญกับผู้พักอาศัย อย่างไรก็ตามเมื่อมีเรื่องร้องเรียนเข้ามา เขตต้องทำหน้าที่ดูแลประชาชนทุกคน จึงทำหนังสือขอความร่วมมือวัด เพื่อแก้ไขปัญหา แต่หากยังมีประชาชน ร้องเรียนเข้ามาอีก เขตฯ จะพิจารณาให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล ลงพื้นที่ เพื่อตรวจวัดระดับเสียงในพื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในช่วงเวลาดังกล่าวต่อไป
สืบเนื่องจากประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นนั้น ทางผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ ได้ไปสัมภาษณ์เปิดใจ " พระเล้ง " พระลูกวัด วัดไทร พระราม 3 กรณี ที่มีผู้พักอาศัยใหม่บริเวณรอบวัด แจ้งเขตเรื่องวัดตีระฆังดัง โดยพระรูปดังกล่าวนั้นก็ยืนยันว่ามีการตีจริงราวๆ 20-30 นาที โดยมีการตีเป็นจังหวะและเว้นการตี 1นาที โดยทางวัดนั้นมีการประชุมหลังได้รับจดหมายให้เลิกตีหรือตีเบาๆ ลง โดยทางวัดหลังจากที่ประชุมนั้น ก็ยืนยันจากเสียงชาวบ้านที่อยู่รอบวัดว่าหยุดตีไม่ได้เพราะเป็นประเพณีและยังยืนยันว่ายังตีต่อแต่เพียงแค่เบามือลง!!
ต่อจากดราม่าดังกล่าวนั้น นายสิปป์บวร แก้วงาม ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม และรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีว่า การตีฆ้อง-ตีระฆังภายในวัด เป็นประเพณีที่สืบต่อกันมายาวนาน เพื่อใช้เป็นสัญญาณประกอบกิจทางพระพุทธศาสนา ให้พระภิกษุ-สามเณรลงทำวัตรเช้า-เย็น หรือใช้บอกเวลาพระออกบิณฑบาต ซึ่งบางแห่งก็ใช้แจ้งเป็นสัญญาณที่มีความแตกต่างกันไป หากจะให้วัดเลิกตีระฆัง คงจะไม่สามารถทำได้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้น สามารถเข้าใจได้ว่า ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีเหตุผล วัดถือการตีระฆังเป็นสิ่งที่ปฏิบัติมาอย่างยาวนาน ส่วนผู้อยู่อาศัยใกล้วัด อาจจะได้รับความเดือดร้อนจากเสียงการตีระฆัง นอกจากนี้ พื้นที่วัดและผู้อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด คับแคบ ทำให้ต้องอยู่อาศัยอยู่ติดกัน บางครั้งก็ต้องมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่วัดกับชุมชนก็ควรต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
เรื่องที่เกิดขึ้น เราต้องเข้าใจทั้งสองฝ่าย เพราะวัดกับชุมชน มีวัฒนธรรม วิถีชีวิต ที่เกี่ยวข้องและพึ่งพาอาศัยกัน ทั้งนี้ หลังจากที่ทราบเรื่อง วันที่ 4 ต.ค. สำนักพุทธฯ คงจะต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบถามเจ้าอาวาสวัดไทร ถึงเรื่องประเด็นปัญหา รวมทั้งคงต้องสอบถามข้อมูลไปที่สำนักงานเขตบางคอแหลม เพื่อหาทางไกล่เกลี่ยปัญหาระหว่างวัดและชุมชนให้ได้ในที่สุด
ล่าสุดในวันนี้ (05/10/2561) ความคืบหน้าเรื่องราวที่เกิดขึ้น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. เปิดเผยว่าวันนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประสานงานไปยังนิติบุคคลของคอนโดมิเนียมและประสานสำนักงานเขตบา งคอแหลมเพื่อตรวจสอบ ผู้ร้องเรียนที่อ้างว่าให้ชาวต่างชาติเช่าห้องพัก
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยอีกว่า หากผู้ร้องเรียนให้ชาวต่างชาติเช่าพักอาศัย ต้องตรวจสอบว่าผู้เช่าได้แจ้งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ทราบหรือไม่ว่ามีชาวต่างชาติมาพักอาศัยตามมาตรา 38 พรบ.ตรวจคนเข้าเมือง หากไม่แจ้งผู้ให้เช่ามีโทษตามกฏหมาย ส่วนชาวต่างชาติที่พักอาศัยต้องถูกตรวจสอบว่าแจ้งถิ่นที่อยู่ตรงกับที่แจ้งไว้กับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหรือไม่ ซึ่งหากตรวจสอบว่าไม่ตรงกันต้องถูกเพิกถอนวีซ่าการอยู่ในราชอาณาจักรไทยแล้วผลักดันออกนอกราชอาณาจักรไทย.
.............................................
6-10-61 เวลา 16.15 น.