เส้นชัยอีกนิดเดียว! พ่อ "นักศึกษาทันตแพทย์หนุ่ม" ดึงสติลูก เรียนมา 6 ปี กำลังจะถึงฝั่ง แต่ดันหนีไปทำบ้านดิน!
จากกรณีนายคณิน ขันติประเสริฐ หรือ แฟ้ม นักศึกษาหนุ่มปี 6 คณะทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น หายตัวไปลึกลับตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 61 จากคลินิกของมหาวิทยาลัย ย่านปทุมธานี ทำให้นายสมเกียรติ ขันติประเสริฐ สาธารณสุข อ.เมืองจันทบุรี พ่อของนายคณิน เข้าแจ้งตำรวจขอความช่วยเหลือ และโพสต์ข้อความตามหา หลังไม่สามารถติดต่อกับลูกชายได้
โดยภายหลัง สถานีตำรวจภูธรแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่าหลังจากตามสัญญาณโทรศัพท์ของนายคณินพบ ที่สวนการเกษตรใน จ.เชียงใหม่ โดยพบตัวเป็นที่เรียบร้อย และได้แจ้งข่าวให้ทางครอบครัวรับทราบแล้ว
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า นายสมเกียรติ ขันติประเสริฐ พ่อของนายคณิน นักศึกษาที่หายตัวไป เปิดเผยว่า น้องแฟ้มเรียนทันตแพทย์ปี 6 เทอม 1 แล้ว โดยก่อนหน้านี้ ช่วงปี 1 ลูกเคยบอกว่า “ทันตแพทย์ไม่ใช่ทางผม” แต่ก็เรียนเรื่อยมา จนเข้าปี 5 รับเสื้อกาวน์ และเริ่มลงคลินิก น้องแฟ้มก็บอกอีกว่า “ไม่ใช่ทางผม แล้วอยากจะเปลี่ยนแนว” จนมาถึง ปี 6 เทอม 1 ได้โทรศัพท์คุยกัน น้องแฟ้มบอกว่า ไม่น่าจะเป็นทันตแพทย์ที่ดีได้ เพราะไม่ได้ชอบ จนกระทั่งวันที่ 25 ก.ย. 61 พี่สาวน้องแฟ้มไปรอรับที่คลินิกของมหาวิทยาลัย ปรากฏว่าไม่เจอ จึงได้โทรศัพท์มาบอกตน จากนั้นจึงแจ้งตำรวจช่วยติดตามหา
จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมาว่าพบลูกชายตนแล้ว อยู่กับ โจน จันได หรือ โจ้ บ้านดิน ในพื้นที่ อ.แม่แตง จากนั้น ตนได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับลูกชาย โดยเมื่อเช้า ได้คุยกับลูกชายแล้ว ลูกเล่าว่า เขาได้เดินทางไปแม่แตง เพื่อไปหาโจน จันได แต่ว่าได้เจอกันครู่เดียว เพราะโจน จันได จะไปยุโรป ทั้งนี้ น้องเคยชอบด้านเกษตร สมัยเรียน ม.1 ม.2 โดยเขาเขียนบันทึกไว้ในไดอารี่ ตนก็คิดว่าอาจจะเป็นความคิดแบบเด็ก ๆ ส่วนนิสัยของแฟ้ม ก็เป็นคนนิสัยเรียบร้อย ไม่เที่ยว ขยันเรียน ชอบนั่งสมาธิ ชอบอ่านหนังสือ บางครั้งก็จะช่วยแม่ทำงานบ้าน หรืองานฝีมือต่าง ๆ
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยกดดันลูก เพราะช่วงแรกที่ลูกเรียนก็มีความสุขดี จึงไม่รู้ว่าลูกชายไม่ชอบ โดยเริ่มไม่ชอบตอนลงคลินิก ซึ่งตนได้ให้รุ่นพี่ที่เป็นจิตแพทย์ลองคุยกับลูกชาย เพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าว เพราะอาจจะเกิดความสับสนระหว่างความฝันกับความจริง ซึ่งตนก็ได้บอกกับน้องแฟ้มไปแล้ว โดยน้องแฟ้มก็ยินดี เพราะเขาเองก็อยากรู้สภาพจิตใจตัวเองเช่นกัน
เมื่อถามต่อว่าหากน้องกลับมาแล้ว จะให้น้องกลับไปเรียนทันตแพทย์เหมือนเดิมหรือให้เปลี่ยนไปเรียนสิ่งที่ชอบ ตนก็เคยยกตัวอย่างให้ลูกฟังว่า “ลูกเหมือนนักว่ายน้ำ 100 เมตร ซึ่งว่ายมา 80 เมตรแล้ว อีก 20 เมตร จะถึงฝั่ง เข้าเส้นชัย และมีคนรอปรบมือให้แล้ว เมื่อขึ้นฝั่งแล้ว ลูกจะเดินไปทางเกษตร พ่อก็ไม่ห้าม แต่หากลูกไม่ไหว จะว่ายกลับไปฝั่งเดิม 80 เมตร แบบไหนจะเหนื่อยกว่ากัน” ซึ่งตนก็อยากให้น้องแฟ้มกัดฟันเรียนให้จบ เพราะว่าเมื่อจบแล้ว จะโอนหน่วยกิตไปเรียนพฤกษศาสตร์ปริญญาโทเพื่อทำตามความฝัน พ่อก็ไม่ว่าอะไร
อย่างไรก็ตาม หลังเคลียร์งานเสร็จ ตนจะไปรับลูกที่ จ.เชียงใหม่ แต่ว่ายังไม่ได้กำหนดวัน เพราะอยากให้ลูกกลับมาเคลียร์กับทางมหาวิทยาลัย ก็อยากขอเวลาให้เขา เพราะเขายังสนุกกับการทำในสิ่งที่รัก ตอนนี้น้องแฟ้มร่วมกิจกรรมกับจิตอาสา ที่สวนพันพรรณของโจน จันได เขาก็ขอเป็นจิตอาสา ไม่เอาเงินเดือน ซึ่งก่อนไป น้องแฟ้มได้กดเงินส่วนตัวในธนาคารไป 5,000 บาท แล้วมาทราบว่า เพื่อนของตนได้แวะไปหาน้องแฟ้ม และให้เงินไว้อีก 3,000 บาท พร้อมซื้อของใช้ให้ ลูกชายคงอยู่ได้อีกสักพัก ทั้งนี้ “ตนอาจจะไม่ได้ทันตแพทย์ที่ดีกลับมา แต่ตนได้ลูกที่ดีของตนกลับมา”
ขอบคุณ รายการทุบโต๊ะข่าว อัมรินทร์ทีวี HD34