กรมศิลปากรชี้สาเหตุเจดีย์ทรุดตัว อาจผิดพลาดจากการยกด้วยแม่แรงไฮโดรลิค ยันเดินหน้าบูรณะต่อ
จากกรณีเจดีย์หอระฆัง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเจดีย์ยักษ์ ในวัดพระยาทำวรวิหาร ซ.อรุณอัมรินทร์ 15 ถ.อรุณอัมรินทร์ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย ถล่มทับคนงานระหว่างซ่อมบูรณปฏิสังขรณ์ จนได้รับบาดเจ็บ 11 ราย และเสียชีวิต 1 ราย เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา
นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบรอบบริเวณองค์เจดีย์อีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการทรุดตัว พร้อมวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ได้หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมระดมทีมวิศวกรของกรมศิลปากรและบริษัทผู้รับจ้างสำรวจตรวจสภาพพื้นที่ทั้งหมดโดยละเอียด เพื่อปรับปรุงแผนบูรณปฏิสังขรณ์ต่อ นำอุปกรณ์มาค้ำยันเจดีย์อย่างเร่งด่วนไม่ให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ โดยเร่งให้ดำเนินการตั้งแต่วันนี้ (26 ก.ย.) เป็นต้นไป
เบื้องต้นสั่งการ 3 เรื่อง คือ ค้นหาสาเหตุ ,หามาตรการเร่งด่วนปกป้องโบราณสถานไม่ให้พังเสียหายเพิ่ม, หามาตรการอนุรักษ์ เหตุครั้งนี้เป็นความผิดของผู้รับเหมาหรือไม่นั้นตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดก่อน ว่าเกิดจากความประมาทหรือหรือเป็นเหตุสุดวิสัย
สำหรับวิศวกรที่รับงานบูรณะองค์เจดีย์หอระฆังมีประสบการณ์ด้านการยกสิ่งปลูกสร้าง การดำเนินงานของช่างก็มีวิศวกรคุมงานอยู่ หลังจากนี้กรมศิลปากรจะเข้าไปพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากเจดีย์ยักษ์ดังกล่าวอยู่ควบคู่กับชาวบ้านมานาน และจะเร่งบูรณะให้มีสภาพเดิมให้ได้มากที่สุด
สำหรับการปรับยกหอระฆัง เนื่องจากถูกใช้งานสืบมาหลายยุคสมัย มีการปรับถมพื้นที่โดยรอบจนไม่เห็นฐานส่วนล่างซึ่งถูกดินทับถมลึกกว่า 1.30 เมตร จึงมีความจำเป็นต้องปรับดีดยกหอระฆังขึ้น เพื่อให้เห็นองค์ประกอบสถาปัตยกรรมครบถ้วน ในวันเกิดเหตุ คนงานได้ทำการปรับระดับให้ตั้งตรง ยกหอระฆังขึ้นพร้อมๆกัน
ขณะที่ทำการยกหอระฆังได้ที่ระดับ 50 เซนติเมตร โครงสร้างรับฐานเป็นโครงเหล็กคานรูปตัว H ทั้งหมด และมีเสาเหล็กรอบฐานเพื่อประคองไม่ให้มีการขยับ ปรากฎว่าด้านข้างเกิดการเสียดสีจนเกิดแรงกระชากชั่วขณะ ทำให้หอระฆังขยับตัวในแนวดิ่งกลับสู่ระดับเดิม ชิ้นส่วนปูนปั้นด้านบนหล่นลงมาด้านล่าง
ด้านนายอารักษ์ สังหิตกุล อดีตอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ขณะนี้ตัวฐานที่รองรับองค์เจดีย์มีความลาดเอียงอาจลื่นออกจากตำแหน่งเดิมได้ อีกทั้งเจดีย์ทรุดโทรมมีรอยแตกร้าวตั้งแต่ฐานจนถึงยอดเสี่ยงที่พังถล่มได้ต้องทำการค้ำยันไว้ก่อนไม่ให้โบราณสถานเสียหาย พร้อมเสริมความมั่นคงแข็งแรงโครงสร้างองค์เจดีย์
เห็นควรต้องทำโครงสร้างใหม่เพราะจากการตรวจสอบพบว่าอิฐเก่ามีสภาพรวนแตกเสียหาย ซึ่งไม่สามารถคืนสภาพดังเดิมได้ทั้งหมด ส่วนการประดับตกแต่งจะถอดประติมากรรมออกมาซ่อมแซม และเมื่อซ่อมโครงสร้างเสร็จสิ้นแล้วจะนำมาประกอบให้กลับคงสภาพเดิมมากที่สุด จิตวิญญาณของโบราณสถานยังคงอยู่ครบถ้วน
ด้าน ผศ.ดร.ชัยณรงค์ อธิสกุล รอง ผอ. โครงการเทคโนโลยีวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นำเทคโนโลยีเครื่องสแกนวัตถุ 3 มิติด้วยแสงเลเซอร์ มาตรวจสอบภาพรวมขนาดมิติสภาพปัจจุบันของเจดีย์ว่าเป็นอย่างไร โดยจะนำข้อมูลไปประมวลผลสร้างโมเดล 3 มิติ ทำการตรวจวัดความเอียง การทรุด มีรอยแตกร้าวมากแค่ไหน เสี่ยงเสี่ยงต่อการทรุดอีกหรือไม่ จากนั้นจะนำข้อมูลส่งให้กับกรมศิลปากรประเมินก่อนจะทำการบูรณปฏิสังขรณ์ต่อ ซึ่งจะทราบผลอีก 2-3 วัน สำหรับเครื่องมือดังกล่าวที่ผ่านมาเคยนำไปใช้สแกนโบราณสถานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยามาก่อนและผลมีความแม่นยำ
หนึ่งในคนงานที่บาดเจ็บศีรษะแตกซึ่งออกจากโรงพยาบาลแล้ว เล่านาทีระทึกให้ทีมข่าวฟังว่า ตนทำงานบูรณะโบราณสถานมานานกว่า 30 ปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว วันเกิดเหตุตนพร้อมด้วยสามีและลูกชายอีก 1 คน กำลังช่วยกันโยกแม่แรงเพื่อดีดองค์เจดีย์ให้สูง จังหวะนั้นเจดีย์ได้เลื่อนไหลลง เศษอิฐ ปูน ร่วงหล่นลงมาใส่ศีรษะแตก เหตุเกิดขึ้นเร็วมากไม่มีใครทันตั้งตัว ตนมีสติรู้สึกตัวจึงรีบตะเกียกตะกายคลานออกมาจากใต้ซากปรักหักพัง แล้วรีบมองหาลูกและสามี เพื่อนร่วมงานคนอื่นตอนนั้นตนไม่รู้ใครเป็นอย่างไรบ้างเพราะต่างคนต่างเอาตัวรอด ขณะนี้สามียังนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลศิริราช
ด้านผู้ควบคุมงานของบริษัทผู้รับจ้างบูรณะองค์เจดีย์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนกำลังยืนคุมงานอยู่ ขณะที่ทำการโยกที่ระดับ 50 เซนติเมตร รู้สึกว่าองค์เจดีย์แกว่งแล้วเลื่อนไหลลงอย่างรวดเร็ว ยืนยันดำเนินงานเป็นไปตามหลักวิศวกรรม เหล็กที่นำมารองรับไม่น่ามีปัญหา คาดสาเหตุน่าจะเกิดจากการขึ้นแม่แรงไม่เท่ากัน คนงานบางคนไม่มีความชำนาญ พอสั่งให้โยกไม่ได้ทำพร้อมกันทั้งหมด บางคนอาจโยกช้าจึงทำให้เกิดเหตุดังกล่าว
ขณะที่ญาติของคนงานที่เสียชีวิต นิมนต์พระสงฆ์วัดพระยาทำ ไปทำพิธิเชิญวิญญาณที่จุดพบศพใต้ฐานเจดีย์ โดยจุดธูปทั้ง 4 ทิศของประตูเจดีย์ ซึ่งมีบรรดาเพื่อนร่วมงาน ญาติ ๆ มาร่วมพิธีอย่างโศกเศร้า จากนั้นได้ไปรับศพที่โรงพยาบาลศิริราช ก่อนจะนำไปประกอบพิธีทางศานาที่วัดบางประกอก โดยบริษัทต้นสังกัดรับปากจะช่วยดูแลค่าใช้จ่ายและเยียวยาอย่างเต็มที่
แหล่งที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=IP0hedC9bgg&list=PLe0PWVAUM5XVN-H1pt78XgxhZVpjzo_AY&index=8















