หนังแอ็คชั่นโหดๆดิบๆ ใส่บ้ามาล่าเพรตเดเทอร์ "The Predator"
หนังแอ็คชั่นโหดๆดิบๆ ใส่บ้ามาล่าเพรตเดเทอร์ "The Predator"
การเผชิญหน้ากับเพรตเดเทอร์ นักล่าจากนอกโลกที่สังหารโหดลูกทีมจนไม่เหลือ ทำให้ ควินน์ แม็คเคนน่า จำต้องส่งอาวุธร้ายของมันกลับไปยังบ้าน แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดคิดเมื่อ โรรี่ ลูกชายที่เป็นเด็กพิเศษ ดันไปปลดล็อคเรียกเพรตเดเทอร์มายังโลกจน ควินน์ต้องร่วมมือกับทีม ลูนี่ย์ เหล่าทหารผ่านศึกที่มีปัญหาทางจิตและดร.คาซีย์ แบร็กเค็ตต์ นักชีวะวิทยาด้านวิวัฒนาการ เพื่อหยุดเหล่าพรานเอเลี่ยนที่อาจเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นเกมล่าสุดสยองของพวกมันไป...
สิ่งที่แบล็คถือเป็นคัมภีร์ในงานเขียนบทคือการสร้างตัวละครและสถานการณ์ มิใช่แค่การเอาเรื่องไว้รองรับฉากแอ็คชั่นแบบไม่มีเหตุมีผลหรือไม่นำพาอารมณ์ใดๆดังนั้น ใน The Predator เราเลยได้เห็นการแอบใส่ตัวละครที่แบล็คเคยเขียนตั้งแต่ ควินน์ แมคเคนนา ที่แทบจะถอดแบบมาจาก ริกส์ คนมหากาฬ ทั้งบุคลิกบ้าระห่ำ เป็นทหารนอกคอกที่รัฐต้องการกำจัดทิ้ง และตัวละครสมทบทั้ง ดอยล์ และ แบ็กซ์ลีย์ ก็มีความเป็นคู่หูที่ดูขัดแย้งกันแบบเดียวกับหนังชุด Lethal Weapon
แบล็คยังคงเอกลักษณ์ในการสร้างสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งกันสุดขั้วเช่น อารมณ์ขันที่มาในเวลาตัวละครอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน หรือการที่ตัวละครต่างวางแผนเป็นอย่างดีจนกระทั่งมีเหตุให้แผนแตกจนสถานการณ์นำไปสู่จุดที่เกินคาดเดา ซึ่งได้ทำให้การดำเนินเรื่องของ The Predator สามารถบอกเล่าผ่านตัวละครมนุษย์ได้อย่างมีสีสันและแข็งแรงมากพอที่จะให้ตัว เพรตเดเทอร์ เป็นเพียงตัวร้ายที่เหล่าตัวเอกจะต้องต่อกรด้วย ไม่ใช่เป็นตัวละครที่เรื่องต้องพึ่งพาเพื่อให้คนดูสนุกสนานเหมือนหนังที่มีตัวละคร เพรตเดเทอร์ มาเป็นจุดขายเหมือนหนังเพรตเดเทอร์ยุคหลัง
คราวนี้แบล็คได้ทำให้เรารู้จักกับตัวร่างกายและอุปกรณ์เสริมของเพรตเดเทอร์มากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการที่หนังภาคนี้ทำให้เราเห็นว่า หน้ากากและสนับแขนของเพรตเดเทอร์มีกลไกการทำงานอย่างไรมีอาวุธอะไรที่ซ่อนอยู่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่หนังทำให้เรารู้ว่าทำไมเพรตเดเทอร์ถึงมีร่างกายและการเคลื่อนไหวที่มีส่วนความคล้ายกับมนุษย์มาก จนกลุ่มนักเคลื่อนไหวสายเฟมินิสต์เคยวิพากษ์ว่าใบหน้าของเพรตเดเทอร์มีความคล้ายคลึงกับอวัยวะเพศหญิงจนทำให้คนตีความว่าหนัง Predator ปี 1987 กำลังพูดถึงความพ่ายแพ้ของความเป็นบุรุษ ยังไงยังงั้น เปิดโอกาสให้แบล็คเล่นสนุกไปกับการวิพากษ์หนังยุค 80 ด้วยการใส่ตัวละคร ดร.คาซีย์ แบร็กเค็ตต์ ที่แม้จะได้สาวสวยเซ็กซี่อย่าง โอลิเวีย มุนน์ มาแสดง แต่แบล็คก็ไม่ได้ปฏิบัติกับเธอเพียงแค่วัตถุทางเพศแต่ยังทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของหนังชุดนี้ที่เริ่มมีตัวละครผู้หญิงแกร่งๆมาบู๊และพูดคำหยาบแบบ ฟัค”ทุกวรรคตอนไม่ต่างจากเหล่าหนุ่มๆก็ทำให้สถานภาพตัวละครหญิงดูจะเท่าเทียมและไม่ได้เป็นเพียงอาหารตาของชายหนุ่มเหมือนหนังสมัยก่อน
ด้านนักแสดงต้องยอมรับว่า แคสชุดนี้ ถือเป็นดรีมทีมของการทำหนังแอ็คชั่นคอเมดี้สไตล์ เชน แบล็ค ทั้ง บอยด์ โฮลบรูค ที่หลังรับบทผู้ร้ายใน LOGAN 2017 และ NARCOS 2015-16 ซีรีส์เน็ตฟลิกซ์ บอยด์ ได้ทำให้เห็นว่าเขาสามารถเปล่งประกายในบททหารผ่านศึกบ้าระห่ำ และมีซีนแอ็คชั่นเท่ๆมากมายหนึ่งในนั้นคือการรีเมคท่าขี่มอเตอร์ไซค์ของอาร์โนลด์ จาก Last Action Hero ผลงานเขียนบทของแบล็คด้วย หรือจะเป็น โอลิเวีย มุนน์ ซึ่งแน่นอนว่าแม้บท ดร. แบร็คเกตต์ จะเป็นบทคลิเช่-ภาพจำของสาวทรงสะบึมในหนังบู๊ แต่เมื่อบทเอื้ออำนวยให้เธอได้แสดงความฉลาดและบ้าระห่ำไม่แพ้หนุ่มๆ เลยทำให้บทนี้ของเธอนอกจากจะไม่ด้อยในเรื่องความเซ็กซี่แล้ว มุนน์ ยังได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทของผู้หญิงในหนังแอ็คชั่นที่มีที่ยืนมากกว่าแค่ แก้ผ้าปลุกใจเสือป่า ไปเป็นเรื่องๆแบบหนังสมัยก่อน หรือจะเป็นการปรากฎตัวของ โธมัส เจน อดีต The Punisher 2004 ที่แม้จะมาเล่นเป็นคนสติไม่ดีแต่ก็เป็นสีสันให้กับเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ที่ถือเป็นไฮไลต์และทำให้บทสนทนาคมๆของแบล็คทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมคงต้องยกให้ คีแกน ไมเคิล คีย์ นักแสดงหนุ่มผิวสีจากซีรีส์เน็ตฟลิกซ์ Friends from college 2017-18 และหนังบู๊ขวัญใจทาสแมว Keanu 2016 ที่ขยันขโมยซีนสร้างความฮาได้อย่างลงตัว รวมถึงเจ้าหนู จาค็อบ เทร็มเบลย์ ที่เคยขโมยหัวใจเหล่าลุงๆป้าๆจาก Room 2015 และWonder 2017 ก็ได้มาโชว์ความน่ารักในบทเด็กพิเศษอีกด้วย
The Predator นั้นถือเป็นหนังแอ็คชั่นโหดๆดิบๆที่มีครบเครื่องทั้งอารมณ์ขัน ความตื่นเต้นลุ้นระทึก หรือแม้แต่ภาพสยดสยองแบบเอาให้เรต R มันทำงานแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยจริงๆ ก็ทำให้หนังสามารถสร้างความบันเทิงให้คอหนังบู๊ โดยเฉพาะคอหนังบู๊ยุค 80 ซึ่งเด็กรุ่นใหม่ที่จะได้รู้เสียทีว่าหนังสนุกๆที่ไม่ได้พึ่งพาแต่ซีจีสมัยก่อนเขาทำกันยังไง...