พายุไต้ฝุ่น'มังคุด'กระหน่ำไต้หวัน ขณะที่พายุเฮอริเคนฟลอเรนซ์จ่อถล่มสหรัฐฯที่ต้องอพยพคนนับล้านหนี
พายุไต้ฝุ่น'มังคุด' จ่อเข้าไต้หวันทวีกำลังเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น ส่งผลกระทบรุนแรงต่อฟิลปปินส์ ไต้หวัน จีนและเวียดนาม ขณะที่พายุเฮอริเคนฟลอเรนซ์ จ่อถล่มสหรัฐฯที่อพยพคนนับล้านหนีพิบัติภัย
11 กันยายน 2561-อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา นาย วันชัย ศักดิ์อุดมไชย ระบุว่า อิทธิพลของพายุมังคุด อาจจะส่งผลให้ไทยได้รับผลกระทบทางอ้อมมีฝนเพิ่ม คาดว่าเมื่อถึงใกล้หัวเกาะลูซอน ฟิลิปปินส์ พายุมังคุดจะเบนหัวขึ้นไป จีน ตอนล่าง ไหลหลำ จะดึงให้ร่องมรสุมแรงแรงขึ้น ที่น่าห่วงกังวลคือลุ่มน้ำโขง เพราะยังมีฝนตกเพิ่มในประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาว
สำหรับการก่อตัวของพายุ ที่ตั้งชื่อโดยไทย คือ มังคุด กำลังเป็นที่จับตาของสำนักอุตุนิยมวิทยาต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ ทั้งฟิลิปปินส์ ไต้หวัน จีน เวียดนาม แม้กระทั่งประเทศไทยก็ยังมีความเสี่ยงทางอ้อม ต้องเฝ้าจับตาใกล้ชิด เริ่มที่ฟิลิปปินส์ ปกติจะเป็นเกาะกำบังให้ไทย แต่ช่วงหลังฟิลิปินส์ห่างหายจากพายุมานาน เป็นเรื่องที่ก็น่าคิด ดูเหมือนประเทศที่ได้รับผลกระทบจากพายุ จะเป็นญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ และ หากพายุมังคุดเคลื่อนผ่าน ฟิลิปปินส์ เหนือเกาะลูซอน ก็น่าจะเป็นพื้นที่เสี่ยง
กรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวันได้ออกแถลงการณ์เตือนพายุ"มังคุด" ไต้ฝุ่นลูกที่ 22 ของปี2561 หลังก่อตัวบริเวณหมู่เกาะมาร์แชลล์ รุ่งเช้าวันที่ 8 ก.ย. ทิศทางกำลังมุ่งหน้าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือความเร็ว 33 กม./ชม. จุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากไต้หวันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 3,920 กม.
ตลอดเส้นทางที่เคลื่อนผ่าน ไม่มีสิ่งกำบัง สภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวย ทำให้ทวีกำลังแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่า จะส่งผลกระทบต่อไต้หวันตั้งแต่ วันเสาร์ที่ 15 ก.ย.เป็นต้น อย่างน้อย เป็นเวลา 3 วัน และ จะเป็นพายุไต้ฝุ่นใกล้บริเวณไต้หวันลูกที่มีกำลังรุนแรงที่สุดในปีนี้ พร้อมเตือนประชาชนต้องจับตาอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ได้เจอฝนจากลมหนาว ไประลอกหนึ่งแล้ว
Jason Nicholls ผู้เชี่ยวชาญอุตุนิยมวิทยา เว็บไซต์ AccuWeather ของสหรัฐอเมริกา คาดว่า ไต้ฝุ่นมังคุด มีโอกาสพัฒนากลายเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่น สัปดาห์หน้า มีความรุนแรงตั้งแต่ พัดผ่านเกาะกวม จากนั้นประมาณ 15-16 ก.ย. ไต้ฝุ่นมังคุดจะส่งผลกระทบต่อไต้หวัน และ จีนแผ่นดินใหญ่
ส่วนพายุเฮอริเคนฟลอเรนซ์ ที่มีความรุนแรงระดับ 4 ทางการรัฐนอร์ทแคโรไลนา, เซาท์แคโรไลนาและเวอร์จิเนีย ของสหรัฐอเมริกา ได้สั่งอพยพประชาชนราว 1.5 ล้านคน บริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศ ก่อนหน้าที่เฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์จะพัดขึ้นฝั่งในวันที่ 13 กันยายนนี้ หลังจากเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงผ่านมหาสมุทรแอตแลนติก จนมีความรุนแรงอยู่ที่ระดับ 4 ด้วยความเร็วลมสูงสุดที่ 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และศูนย์กลางของฟลอเรนซ์ในตอนนี้จะเคลื่อนตัวไปยังบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก ระหว่างเบอร์มิวดา กับบาฮามาส ในวันที่ 11 และ 12 กันยายนนี้ และจะเข้าใกล้ชายฝั่งนอร์ทแคโรไลนา หรือเซาท์แคโรไลนา ในวันที่ 13 กันยายน
เอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ทวีตข้อความระบุว่า “นี่จะเป็นหนึ่งในพายุที่ร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปีที่พัดถล่มชายฝั่งตะวันออก” “ขอให้เตรียมพร้อม ระวัง และปลอดภัย”
โดยนายเฮนรี แมคมาสเตอร์ ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา ได้สั่งให้ประชาชนราว 1 ล้านคนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันออกให้ออกจากที่อยู่อาศัยก่อนหน้าที่เฮอร์ริเคนจะมาถึงในวันพฤหัสบดีนี้ โดยโรงเรียนใน 26 เคาน์ตี จากทั้งหมด 46 เคาน์ตีของรัฐ ประกาศปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 11 กันยายนเป็นต้นไป
เช่นเดียวกับรัฐนอร์ทแคโรไลนา ได้สั่งอพยพผู้คนออกจากบริเวณพื้นที่เสี่ยงจากเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ ด้านรัฐเวอร์จิเนียได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์แล้ว