"รักแท้หรือแค่สับสน" เรื่องจริง “ต้น ธนษิต” หนุ่มวัย 21 ต้องเสียคนรักชาย เพราะกลัวสังคมไม่ยอมรับ

MED HUB NEWS - หลายปีที่ผ่านมาเราได้เห็นตัวละครชายรักชายมีพื้นที่ในสื่อกระแสหลักไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ และละครมากขึ้น โดยเฉพาะจากซีรีส์ Club Friday The Series 8 รักแท้ หรือแค่…สับสน ที่ผ่านมา มี โทนี่ รากแก่น กับ เต๋า เศรษฐพงศ์ มาแสดงนำจนทำให้คนอินไปทั่งประเทศ บางคนอาจจะสงสัยว่าเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่

จุดเริ่มต้นคือ เพื่อนกัน ปรึกษาหารือ ว่างไปเตะบอล 

ต่อไปนี้ไม่ต้องสงสัย หรือ นินทากันต่อไปอีกแล้ว ล่าสุด เว็บไซต์ www.medhubnews.com ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข   HEALTH LGBT การท่องเที่ยว วาไรตี้  และ เพจ sasook รายงานว่า

เรื่องจริง ชีวิตจริง ผ่านการบอกเล่าจากเจ้าตัว เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก เป็นบทเรียน และ สามารถนำไปเป้นตัวอย่างให้สังคมได้อย่างดี 

จากการสนทนากับ “น้องต้น ธนษิต”  หนุ่มน้อยวัย 21 ปี เป็นคนอำเภออําเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี จบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 6 จากโรงเรียนเขมราฐพิทยาคม

ย้อนกลับไปในช่วงชีวิตเด็กแมนๆ คนหนึ่ง วัย 19 ปี  “น้องต้น ธนษิต” เริ่มมีแฟนเป็นผู้หญิง จีบสาวเหมือนเด็กหนุ่มวัยรุ่นทั่วไป ไม่มีความรู้สึกชอบผู้ชายเลยแม้แต่นิดเดียว

เจ้าตัวเล่าว่า พื้นฐานชีวิตต้นจะติดแม่ และ พี่สาว มีครอบครัวเรามีกันสี่คน ต้นมีพี่สาว  หลังจากจบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 6 จากโรงเรียนเขมราฐพิทยาคม

ตอนแรกต้นมีความฝันอยากเรียนให้มหาวิทยาลัยให้จบชั้นปริญญาตรี แต่พอจะเรียน ปรากฏว่าครอบครัวอยากให้สานต่อธุรกิจครอบครัว เพราะฐานะทาบ้านเรามีหน้าตาในสังคม พื้นเพมีการค้าขาย

ช่วงนั้น พ่อให้เรียนการซ่อมเกี่ยวธุรกิจไอที ต้นศึกษางานด้านไอทีจนมีความสามารถระดับหนึ่ง พอต้นทำงานด้านนี้ไปได้แค่ไม่เท่าไร ต้นรู้สึกว่าไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เพราะชีวิตต้นอยากเข้ามหาวิทยาลัย

"พ่อต้นลงทุนเปิดกิจการไอที เปิดร้านมือถือ พ่อเริ่มสั่งของเข้ามาในร้าน หมดเงินไปหลายแสน ธุรกิจไปได้ดี ่ช่วงนั้นผมคบแฟนเป็นผู้หญิง แฟนมาช่วยงานที่บ้านตลอด พ่อภูมิใจทำธุรกิจในตัวลูกชายคนเดียว แต่ทำไปเกือบ 1 ปี ต้นตัดสินใจคุยกับพ่อตรงๆ"

ช่วงนั้นต้นไม่โอเคเลย บอกกับพ่อว่าอยากมากทม. หางานทำ พ่อเสียใจมาก แฟนก็เสียใจ ต้นก็เสียใจ ร้องไห้ฟูมฟาย โทรหาแฟนผู้หญิงทุกวัน บอกเขาว่าถ้าได้กลับบ้านเราจะคุยกันได้ไหม เขาบอกว่าคุยได้ แต่ในใจเราก็มีความสับสนแล้ว

ต่อมาต้นมาทำงานในกรุงเทพฯ เทคโนโลยีต่างๆ ทั้งเฟสบุ๊ค แอฟบลู จึงทำให้มีผู้ชายทักมา และมีอยู่คนหนึ่งที่เราเคยชอบ หล่อ และ ฐานะดี

มาทราบทีหลังว่า เขาแอบชอบเรามานานแล้ว อินบ็อกเข้ามาคุยกันครั้งแรก จำได้ว่าตั้งแต่ สามทุ่มยันตีสาม ไม่เบื่อ เขาให้ความรู้สึกที่ดี มันเกิดสิ่งที่เราก็ไม่รู้ว่าคืออะไร ตอนนั้นยังไม่มีการจีบ หรือ แสดงตัวในทางชู้สาว แต่ผู้ชยคุยกับผู้ชายทั้งคืน มันก็ผิดปกติ

"จากนั้นเราสองคน เริ่มคุยกันเรื่อยๆ นัดเจอกัน ไปงานๆ หนึ่ง ตอนนั้นเขามีเพื่อนไปด้วย ต้นก็บอกว่าไม่อยากให้ใครรู้ เขาบอกว่าเพื่อน ครั้งแรกไปด้วยกัน ก็มีการทักทายกัน แซวกัน เป็นเพื่อนกัน

ต้นตื่นเต้นมาก เขิน เพราะเขาพาไปงานไฮโซ เขารวย ต้นกับเขาก็คุยกันสองคนท่ามกลางการจับตาของเพื่อน"

จำลอง : ตอนไปห้องน้ำ ยื่นมองหน้ากันในกระจก "จูบกัน" แต่เพื่อนเดินเข้ามาใน้องน้ำเจอช็อตนั้นพอดี

กระทั่งมาถึงจุดพีค ตอนที่อยู่ในงาน ใกล้จะได้เวลากลับบ้าน "ต้นไปเข้าห้องน้ำกับเขาสองคน ตอนไปห้องน้ำ เรายื่นมองหน้ากัน โถถี่ใกล้กัน และพอฉี่เสร็จ ก็ถามว่างานวันนี้เป็นไง สนุกไหม ในห้องน้ำจะมีกระจกบานใหญ่ เรามองหน้ากันในกระจก จูบกัน เพื่อนของเขาเดินเข้ามาใน้องน้ำเจอช็อตนั้นพอดี

เพื่อนเขาตกใจ แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง เขาก็บ่ายเบี่ยงถามเรื่องอื่นๆ เช่น กลับบ้านอย่งไร แต่จริงๆ เขารู้ว่าสองคนเรามีความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อน

หลังจากงานเลี้ยงเสร็จแล้ว กลุ่มเพื่อนๆ ทั้งหมดก็ลงมาลานจาดรถ พวกเราก็ร่ำลาเพื่อกลับบ้านกัน เพื่อนที่เขามาเห็นในตอนจูบกันในห้องน้ำ

เขาก็มองหน้าด้วยความสงสัย สีหน้าเขาคิดว่าเราเป็นแฟนกันแน่ๆ ซึ่งเขาอาจจะเล่าให้แฟนผู้หญิงเขาฟังว่าต้นกับเพื่อนคนนี้มีอะไรเกินเลยกันแบบชายรักชาย  สรุปทุกคนก็สงสัยว่าสองคนนี้เราเป็นอะไรกัน

จำลอง : ต้นกับเพื่อนก็ขับรถกลับบ้านปกติ  พอถึงบ้านเพื่อนคนนี้ก็ส่งไลน์หาตน และบอกว่านอนหลับฝันดี

จากนั้นต้นกับเพื่อนก็ขับรถกลับบ้านปกติ  พอถึงบ้านเพื่อนคนนี้ก็ส่งไลน์หาตน และบอกว่านอนหลับฝันดี ซึ่งความรู้สึกในตอนนั้นเป็นสิ่งที่บอกไม่ถูกว่ามันมีความสุขแค่ไหน

ระหว่างที่เรากำลังศึกษาดูใจกัน เราเจอกันบ่อยๆ เขาโทรมาต้น บางครั้งต้นทำงานไม่ว่าง  แต่หลังเลิกงานต้นก็ให้เวลาเขาเต็มที่ และเขาพาไปดูธุรกิจของครอบครัว คือ ปั้มน้ำมันด้วย

ระหว่างนี้ การสานต่อความรัก จึงเป็นลักษณะของความลับ เราแอบคบกันเงียบๆ เป็นเวลาสองเดือน แต่แล้วความสัมพันธ์ของชายกับชายก็ไปไม่รอด เมื่อเพื่อนเริ่มรู้แล้ว และที่สำคัญคือ เพื่อนคนนี้ รู้จักครอบครัวและแฟนผู้หญิงเรา ทำให้ต้นรู้สึกแย่ ด้วยตัวเองเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงจึงไม่อยากให้ใครรู้

เทคโนโลยีต่างๆ ทั้งเฟสบุ๊ค แอฟพริเคชั่นบลูดี ฯลฯ ทำให้เข้าถึงผู้ชายง่ายขึ้น 

“ผมบอกกับเขาว่าเรื่องนี้เป็นความลับ เขาบอกว่ารู้แค่คนเดียวไม่เป็นไรหรอก แต่เพื่อนคนนี้ รู้จักครอบครัวและแฟนผู้หญิงเรา ทำให้ต้นเครียด กดดัน จนต้นร้องไห้ มันสับสน จริงๆ มันเปิดเผยไม่ได้ เราไม่อาจคบกันได้ เมื่อเราเป็นผู้ชายด้วยกัน สรุปความรักเรามีปัญหา "ความลับ" จึงทำให้ความรักครั้งนี้จบลง”

สิ่งที่น่าศึกษา เป็นบทเรียนของคู่รักเกย์คือการทำความรักให้กลายเป้นความลับ จึงต้องถึงจุดจบ แม้จะรักกันอยู่

"ช่วงนั้น ต้นเพิ่งเลิกกับแฟนผู้หญิง ดังนั้นต้นไม่ชัดเจนเรื่องของเกย์ เราคิดเสมอว่าจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอย่างไร แล้วสังคม ครอบครัวจะยอมรับไหม

ต้นพยายามศึกษาว่าคู่ชีวิตเกย์ สามารถดำเนินชีวิตฉันสามีภรรยาได้ไหม จนสุดท้ายต้นก็ต้องชัดเจนว่าจะเลือกแบบไหนที่ทำให้ชีวิตมีความสุข" 

จากนั้น “น้องต้น ธนษิต” จึงใช้ชีวิตแบบทั่วไป ซึ่งต้นไม่ได้เปิดเผยอะไรมาก แต่ก็ไม่ได้ปิดบังว่าเป็นเกย์

สุดท้ายแล้ว แม้ประเทศไทยจะดูเหมือนเป็นสังคมที่เปิดกว้างสำหรับ "กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ" มีกฏหมายต่างๆ แต่ในการปฏิบัติจริงๆ เพศเกย์ ....ยังคงเป้นเรื่องที่สังคมบางกลุ่มยอมรับไม่ได้ การต่อสู้ในเรื่องเพศสภาพจึงต้องเดินหน้าต่อไป

และทาง เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com จึงตระหนักปัญหาด้านสุขภาพกาย และ ใจ ของเกย์ คือหนึ่งในปัญหาที่สำคัญที่สุดที่ชุมชนเพศทางเลือกกำลังเผชิญ เช่น การติดเชื้อ HIV โรคติดต่อต่างๆ ฯลฯ