รีวิวหนัง The Meg โคตรฉลามพันล้านปี

(สำหรับคนอยากฟังรีวิวมากกว่าอ่านก็กดที่ลิ้งค์ได้เลยครับ) 

เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเมื่อได้รู้ว่าฉลามยักษ์ในตำนานเมื่อล้านกว่าปีก่อนอย่าง “เมกะโลดอน” หรือ “The Meg” กำลังจะถูกนำมาขึ้นจอใหญ่ ฉายโรงภาพยนตร์ ขนาดตัวของมันเรียกได้ว่าทำเอาฉลามขาวยุคนี้จ๋อยกันเป็นแถวๆได้เลย เคยเปิดรูป ดูสารคดีตามยูทูปเกี่ยวกับเจ้าสัตว์น้ำดึกดำบรรพ์นี้หลายครั้ง จนเมื่อเขามาสร้างเป็นหนังจริงๆ ก็เลยเฝ้ารอมาตลอดจนกระทั่งมันฉาย 

 

ในวันที่ไปดู เราจองตั๋วแบบ IMAX 3D ไม่คาดหวังอะไรมากนอกจากความมันส์ ความระทึกใหญ่ ความใหญ่โตมโหฬารของเจ้าฉลามยักษ์ที่จะสร้างความปั่นป่วนมากมาย ซึ่งจากหน้าหนังที่เราเห็นกันในตัวอย่าง มันก็คงตอบโจทย์แน่ๆ เพราะฉากมันส์ ฉากแอ๊คชั่น ฉากไล่ล่า หนีฉลามนี่ เขาเสิร์ฟให้เราจัดเต็ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนังเรื่องนี้มีนายทุนเป็นฝั่งจีนด้วยส่วนนึง ทำให้ความโฉ่งฉ่างในการเล่าเรื่องนั้น ก็เสิร์ฟหนังตาม Target Group เลย ดังนั้น ใครหวังจะไปดูอะไรมันส์ๆ หนังเรื่องนี้น่าจะตอบโจทย์คุณได้

แต่นอกเหนือจากความมันส์ และงานสร้าง ตัวหนังไม่ได้มีอะไรเป็นที่น่าจดจำเลย ไม่ว่าจะเป็นบทที่อ่อนหลวม ขาดไร้ซึ่งตรรกะ ตัวละครในหนังที่ไม่ค่อยมีมิติ การตัดสินใจของตัวละคร แรงจูงใจต่างๆ รวมถึงบางตัวที่แบบว่า จะเอามาอยู่ในหนังทำไม? และที่สำคัญมากกว่าไปกว่าเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยมีอะไร เราคิดว่าการปรากฏตัวของฉลามยักษ์ในตำนานของเมกะโลดอน ยังดูไม่ขลัง ไม่น่าจดจำ เท่าที่สตีเวน สปีลเบิร์กสามารถทำได้กับฉลามขาว ซึ่งเล็กกว่าเจ้าตัวนี้มาก ใน JAWS และในแง่ความระทึก เราว่าหนัง 47 meters down ยังมีกราฟความระทึกน่ากลัวมากกว่า เพราะในเรื่องนี้ บางช่วงก็แอบมีเส้นเรื่องชวนดรอปๆบ้างเหมือนกัน

ภาพรวม ถือเป็นหนังที่ดูเอามันส์ได้ พาแม่ไปดูรับวันแม่ให้ท่านตื่นเต้นดูบ้างก็ได้
แต่สำหรับเรา นอกเหนือจากความมันส์ ความระทึกใจ กับภาพ3Dจอใหญ่ๆ หนังก็ไม่สามารถเสิร์ฟอะไรที่น่าพอใจ
เราไม่รู้สึกผิดหวังอะไร เพราะคิดว่า ไปดูเจ้าฉลามเมกะโลดอนบนจอใหญ่ก็ฟินแล้ว แต่ถ้าสร้างความขลังของมันได้มากกว่านี้หน่อยก็คงจะดี 

ใครดูแล้วเป็นไงบ้างมาแชร์กันได้ ใครยังไม่ดูก็ลองไปชมดูนะครับ 

สุดท้ายขอนอกเรื่องนิดนึง

อยากฝากอีกโปรเจคเป็นโปรเจคที่เราทำเพราะในรอบหลายๆเดือนที่ผ่านมา เราเห็นข่าวไม่ดีไม่งามเกี่ยวกับพระสงฆ์ หรือคนในผ้าเหลืองเยอะ อยากให้รู้ว่า เงินทำบุญของวัดบางวัดมันไปที่ไหน จุดหมายปลายทางมันทำให้ต้องลุกมาทำหนังเรื่องนี้ ใครอยากรู้ก็กดดูกันต่อเองนะ ถ้าดูแล้วก็อยากให้ดูจนจบ แล้วจะเข้าใจแน่นอน