รู้ก่อน!! แคบหมูจากไมโครเวฟ ไขมันต่ำ เลี่ยงการเป็นมะเร็ง
นางอรทัย บุญทะวงศ์ อาจารย์สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะวิชาเทคโนโลยีการอาหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตลำปาง กล่าวว่า ปัจจุบันคนนิยมบริโภคแคบหมูกันมาก แต่ข้อเสียคือ การทอดแคบหมูต้องใช้อุณหภูมิสูง ทำให้น้ำมันที่ใช้ทอดเสื่อมคุณภาพเร็ว น้ำมันมีกลิ่นและสีเปลี่ยนไป ขณะที่ผู้ขายก็มักจะประหยัดต้นทุนโดยใช้น้ำมันทอดซ้ำ และเติมน้ำมันใหม่เข้าไปทดแทนเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำมันเกิดการสลายตัวได้เป็นสาร “อะครีลีน” ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง
ล่าสุด ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) วิจัยแคบหมูกึ่งสำเร็จรูปบรรจุซองอะลูมิเนียมฟอยล์ ซึ่งเมื่อจะบริโภค ผู้บริโภคเพียงแต่ฉีกซอง เทแคบหมูออกใส่จาน นำเข้าเตาไมโครเวฟที่ความร้อน 800-1000 วัตต์ เวลา 1-3 นาที ก็จะได้แคบหมูที่มีลักษณะและคุณภาพไม่ต่างจากแคบหมูที่ทอดในน้ำมัน แต่มีปริมาณไขมันเฉลี่ยเพียงร้อยละ 11.30 ขณะที่แคบหมูที่ได้จากการทอดทั่วไปมีปริมาณไขมัน สูงถึงร้อยละ 20-45
นางอรทัยกล่าวว่า แคบหมูกึ่งสำเร็จรูปด้วยไมโครเวฟเก็บรักษาได้นาน โดยหากเก็บที่อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียสสามารถเก็บได้ถึง 159 วัน และหากเก็บที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส จะเก็บได้ 83 วัน ในขณะที่แคบหมูทั่วไปหากเก็บไว้เกิน 1 สัปดาห์ ก็จะสูญเสียความกรอบเนื่องจากดูดความชื้นจากอากาศเข้าไป ทั้งนี้ จากการให้ผู้บริโภคทดลองชิมและตอบแบบสอบถาม พบว่าผู้บริโภคกว่าร้อยละ 80 ให้การยอมรับและต้องการซื้อผลิตภัณฑ์
ผลการวิจัยนี้ จึงเป็นการสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ห่วงใยสุขภาพ และขณะเดียวกันยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการด้วย เพราะประหยัดต้นทุนได้มาก ทั้งค่าเชื้อเพลิง ค่าแรงคนทอดแคบหมู และโดยเฉพาะค่าน้ำมัน ซึ่งไม่ต้องใช้เลยจากเดิมที่ใช้ 5-10 ลิตร ในการทอดหนังหมู 1 กิโลกรัม
“ผลวิจัยได้จดอนุสิทธิบัตร กับกรมทรัพย์สินทางปัญญากระทรวงพาณิชย์แล้ว อยู่ระหว่างหาผู้ที่ต้องการลงทุนทางธุรกิจ ซึ่งขณะนี้ทีมวิจัยยังมีแผนที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้ ไปประยุกต์ใช้กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทอดชนิดอื่น ๆ เช่น ปาท่องโก๋ ข้าวแต๋น และข้าวเกรียบ เป็นต้น” นางอรทัยกล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก : มติชน