จาก ใจ ..แม่ทัพเรือใหญ่...
“ผบ.ทร.”ประกาศเกียรติคุณ ชื่นชม 127 หน่วยSeal และ 32 ทหารเรือ-หน่วยแพทย์ จากปฏิบัติการ “ถ้ำหลวง” /ทั้ง”ผบ.หน่วยซีล-ผู้การซีล” ชี้ กล้าหาญและเสียสละ แข็งแกร่ง ทั้งกายใจ ระบุ ปิดทองหลังพระ ไม่แสดงตัว ไม่ต้องการคำสรรเสริญใด ปลาบปลื้มใจ ที่มีกำลังพลที่มีคุณค่า กล้าหาญ เสียสละ และมีจิตใจ ที่ดีงาม ขอจารึกเป็นประวัติศาสตร์ แห่งราชนาวี สืบไป/ ชี้ “จ่าแซม” เลือดความเป็นทหารเรือ ที่ยังคงอยู่ในกาย
บิ๊กนุ้ย พลเรือเอกนริส ประทุมสุวรรณ
ผู้บัญชาการทหารเรือ มีสาร ประกาศเกียรติคุณ ตั้งแต่ 13 กรกฎาคม 2561 หลังจบปฏิบัติการถ้ำหลวง
โดยระบุว่า จากเหตุการณ์เยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่า อะคาเดมี่ 13 คน ประสบภัยติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำ-นางนอนจังหวัดเชียงราย ตั้งแต่ 23 มิถุนายน 2561
การแก้ไขปัญหาในขั้นตอนต่างๆเพื่อช่วยเหลือเยาวชนให้มีชีวิตรอดกลับออกมา เป็นภารกิจ ที่มีระดับความยากและซับซ้อน
ทั้งยังต้องดำเนินการในเวลาอันจำกัด ที่มีปัจจัยหลายประการ ทั้งปริมาณอากาศภายในถ้ำ ฝน และน้ำที่เพิ่มขึ้นแถมเป็นช่วงที่ก้าวเข้าสู่ฤดูฝน ที่บีบคั้นให้ทุกภาคส่วนต้องเร่งปฏิบัติการณ์อย่างสุดกำลังความสามารถ
กำลังพลหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ นักทำลายใต้น้ำจู่โจม 127 นาย. พร้อมแพทย์ และเจ้าหน้าที่ 32 นาย ได้แสดงขีดความสามารถในการปฎิบัติหน้าที่ในภารกิจ ระดมกำลัง
เข้าถึงพื้นที่ภายในถ้ำ ที่เยาวชนติดอยู่ ผ่านพื้นที่แคบ น้ำขุ่นด้วยโคลน ซึ่งลึก และไกลเข้าไปในถ้ำ มากกว่า 5 กิโลเมตร
ท่ามกลางความหวังของคนไทยทั้งประเทศ และชาวต่างชาติที่ ร่วมกันส่งกำลังใจ ท่านได้ใช้กำลังกายกำลังใจความสามารถทั้งหมดที่มี ด้วยความกล้าหาญและเสียสละ ในการปฎิบัติหน้าที่ของทหาร ด้วยจิตเมตตา แห่งความเป็นมนุษย์ จนสามารถพาเยาวชนทั้งหมด ออกจากถ้ำได้หมด ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2561
รวมเวลาปฏิบัติการต่อเนื่อง ไม่หยุดทั้งกลางวันกลางคืน เป็นเวลา 18 วัน ทั้งยังได้ส่งกำลังพล ไปปฎิบัติหน้าที่ ช่วยเหลือค้นหานักท่องเที่ยวต่างชาติที่ประสบภัยเรือฟินิกซ์จมในทะเลจังหวัดภูเก็ต
นับเป็นการปฎิบัติหน้าที่ทั้งในภาคเหนือและภาคใต้ในยามที่ประชาชนประสบความทุกข์และเดือดร้อนอย่างแท้จริง
ในปฏิบัติการช่วยเหลือเยาวชนทีมหมูป่าเราได้สูญเสีย “จ่าเอก สมาน กุนัน” นักเรียนจ่าทหารเรือรุ่นที่ 42 อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจม กองทัพเรือซึ่งได้เสียสละความสุขของตนเอง มาร่วมภารกิจ ที่มีความเสี่ยงอันตรายอันอาจถึงแก่ชีวิตอย่างกล้าหาญ
การกลับมาร่วมภารกิจของกองทัพเรือของ จ่าเอกสมาน ได้บ่งบอกถึงเลือดความเป็นทหารเรือ ที่ยังคงอยู่ในกาย
ผมขอสดุดีในความเสียสละ อันยิ่งใหญ่แม้ชีวิตอันมีค่า อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยจิตใจอันประเสริฐ
และขอประกาศเกียรติคุณหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการพลเรือตรีอาภากร. อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ นาวาเอกอนันท์ สุราวรรณ์ ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่1 นักทำลายใต้น้ำจู่โจมทุกนาย
รวมถึงผู้สนับสนุนหน้าที่ในภารกิจนี้ทั้งหมด ในช่วงเวลาที่ผ่านมา. ที่ได้ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ อย่างผู้ปิดทองหลังพระ ไม่แสดงตัว ไม่ต้องการคำสรรเสริญใด แต่ความเสียสละของท่านทั้งหลาย ได้เป็นตัวแทนของทหารเรือบอกกล่าว ให้ประชาชนทราบถึงความจริงใจและความตั้งใจจริงในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน
ความแข็งแกร่งของท่านมิได้อยู่แต่เพียงกาย แต่อยู่ที่ใจ
กองทัพเรือภาคภูมิใจในหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ ปลาบปลื้มใจ ที่มีกำลังพลที่มีคุณค่ากล้าหาญ เสียสละ และมีจิตใจ ที่ดีงาม
จึงขอจารึกเป็นประวัติศาสตร์ แห่งราชนาวี สืบไป
..........................................................
21-7-61 เวลา 09.16 น.