จับโจรปลอมบัตรประชาชนนายกฯประยุทธ์ไปลงทะเบียนซิมเอาไปขายชาวต่างชาติ

ตำรวจ บก.ปอท.จับโจรปลอมบัตรประชาชนนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา เอาไปลงทะเบียนซิมโทรศัพท์แล้วนำไปขายลูกค้าชาวต่างชาติที่พัทยา ผบ.ตร.สั่งการดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดและหาทางป้องกันระยะยาว

12 กรกฎาคม 2561 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงกรณีมีผู้ปลอมบัตรประชาชนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้วนำไปลงทะเบียนซิมการ์ด ว่า ได้รับรายงานจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) ว่าได้รับแจ้งจากบริษัท เรียลมูฟ จำกัด ผู้ให้บริการเครือข่ายทรูมูฟว่าตรวจสอบพบความผิดปกติในการลงทะเบียนซิมโทรศัพท์มือถือในห้วงเดือน มี.ค. - พ.ค.61 ที่มีการลงทะเบียนซิมโทรศัพท์ โดยใช้รูปภาพหน้าบัตรประชาชน และรูปหน้าตรงกับ พล.อ.ประยุทธ์ จำนวนหลายครั้ง เกรงว่าอาจนำซิมโทรศัพท์มือถือดังกล่าวไปใช้กระทำผิดกฎหมายได้ ทาง บก.ปอท.จึงได้เร่งรัดจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบชื่อผู้กระทำผิด คือ นายพีระเมศร์ วงศ์ทองเกื้อ อายุ 31 ปี จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ

ต่อมาวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 เวลาประมาณ 16.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.และ บก.ป.ร่วมกันจับกุมตัวนายพีระเมศร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล ได้ที่ร้านชานโมบาย ดิอเวนิว พัทยาใต้ จ.ชลบุรี สอบถามเบื้องต้น นายพีระเมศร์ ให้การว่า เป็นผู้ลงทะเบียนซิมดังกล่าวจริง เมื่อลงทะเบียนได้แล้วจะนำไปจำหน่ายให้ลูกค้า ซึ่งส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ ชุดจับกุมจึงได้แจ้งสิทธิตามกฎหมาย และแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปอท.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะนี้ได้แจ้งให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์ระงับใช้ซิมการ์ดที่ลงทะเบียนโดยผิดกฎหมายทั้งหมดแล้ว

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดฐานเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา

จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมาย ผู้ฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ โดยการลงทะเบียนซิมจะต้องใช้ชื่อจริงของผู้ขอใช้บริการเท่านั้น ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจัดระเบียบและระบุผู้ใช้ หรือผู้ซื้อซิมได้ง่าย ร้านค้าหรือกลุ่มบุคคลใดจะกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเฝ้าระวัง และดำเนินการกับผู้กระทำผิดในลักษณะแบบนี้อย่างเฉียบขาดและจริงจัง

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งรัดการสืบสวนสอบสวน และให้ขยายผลหากมีกลุ่มบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง ให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งแสวงหาความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการป้องกันในระยะยาว

เป็นที่น่าสังเกตว่าที่มาของภาพบัตรประชาชนของนายกฯประยุทธ์ ได้เคยปรากฏเป็นภาพประกอบข่าวในสื่อออนไลน์ค่ายใหญ่ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 งานสัมมนาทางวิชาการประจำปีของการใช้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 ในหัวข้อเรื่อง "ข้อมูลข่าวสารกับความโปร่งใสในการบริหารงานภาครัฐ" ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์​ ได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆ ภายในงาน และถือโอกาสถ่ายรูปทำบัตรประชาชนใบใหม่ รวมทั้งหยอกล้อกับเจ้าหน้าที่ที่ทำบัตรว่า "ถ่ายแล้วต้องหล่อนะ" และเมื่อไปรับบัตรตัวจริง พล.อ.ประยุทธ์​ยิ้มอย่างภาคภูมิใจพร้อมโชว์บัตรประชาชนใบใหม่ว่า"หล่อกว่าทุกใบเลย"​ นอกจากนั้นยังได้ถ่ายรูปเปลี่ยนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ใบใหม่ด้วย