“พีท ฐิฏิวัสส์” เกย์หนุ่มวัย 28 ติดเชื้อ HIV 3 ปี สารภาพ "พึ่งตัวเองมากที่สุด"
MED HUB NEWS - หลังจาก กองบรรณาธิการข่าว เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com และ เพจ sasook ได้เริ่มก่อตั้งเป็นสำนักข่าวออนไลน์ จนกระทั่งวันนี้สถิติในหมวดหมู่สุขภาพ สาธารณสุข และ การได้รับการยอมรับจากหน่วยงานทั้งใน และ ต่างประเทศ
บรรณาธิการสายสุขภาพ ได้เข้าร่วมประชุมฟอรั่มสุขภาพระดับอาเซียน ทั้งใน และ ต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้จับมือ "สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย"
โดยคุณแดนนี่ หรือ กิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย และคุณดนัย ลินจงรัตน์ ผู้อำนวยการสมาคมฯ ช่วงปลายปี 2560
ขณะที่ปัญหาด้านสาธารณสุขมีมากมาย หลายปัญหา ที่แก้ไขอย่างไรก็ไม่จบไม่สิ้น กว่าที่จะวนเวียนมาให้ข้อมูลความรู้ในภาคประชาชนก็นานขึ้น ส่วนภาครัฐก็ยังวนเวียนแจกถุงยางอนามัย แจกแผ่นพับกันอยู่เหมือนยุคไดโนเสาร์เชื่องๆ
ข่าวชิ้นหนึ่ง ในปีที่ผ่านมา ระบุว่า UNAIDS ร่วมแสดงความยินดีกับกระทรวงสาธารณสุขกับการเปิดตัวยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ฉบับใหม่ ยุทธศาสตร์นี้เป็นความก้าวหน้าที่สำคัญยิ่งที่จะนำพาประเทศไปสู่การยุติปัญหาเอดส์ ภายในปี พ.ศ. 2573
แพทย์ และ บุคลากรทางการแพทย์ ที่ทำงานด้านอาสาสมัคร ได้ยินได้ฟังแบบนี้ เกิดอาการ “ยี้” กันเป็นแถว นี่ไม่ได้รับเงินเดือนหลวงนะครับ แต่พวกที่กินเงินหลวงแต่ละคน ไม่กระตื้อรื้อร้นอะไรเลย
อันนี้ ผู้ป่วย HIV น่าจะลองรวมตัวไปพึ่งกระบวนการทางศาลปกครองดูนะครับ อย่าได้แต่คิด ควรลงมือทำเลย
การระบาดของเอชไอวี ในประเทศไทย ส่วนใหญ่เกิดจากประชากรหลักที่มีพฤติกรรมเสี่ยงสูงได้แก่ ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย สาวประเภทสอง ผู้ให้บริการทางเพศ และเยาวชน พวกเขาเหล่านี้มีอุปสรรคในการเข้าถึงบริการที่ต้องการ มักเผชิญกับการถูกตีตรา และการเลือกปฏิบัติ
เชื่อไหมว่า ผู้ป่วย HIV ต้องตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า โรคจิตเภท ฯลฯ หลายคนฆ่าตัวตาย จำนวนมาก
เช่นเดียวกันกับ “หนุ่มพีท” หรือ นายฐิฏิวัสส์ ศิรเศรษฐกร เกย์หนุ่มวัยรุ่นอายุ 28 ปี ได้ตัดสินใจสารภาพต่อสังคมว่าเขาได้ติดเชื้อ HIV มาได้ 3 ปีแล้ว ทุกวันนี้หนุ่มพีท พยายามพึ่งตัวเองให้มากที่สุด โดยจะครบรอบ 3 ปี วันที่ 28 มิถุนายน 2561 นี้
ส่วนสาเหตุที่ต้องพยายามพึ่งตัวเองให้มากที่สุดเพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งกับระบบราชการ ซึ่งยา และสูตรยาจากระบบสาธารณสุขเป็นสิทธิที่ ผู้ป่วย HIV ต้องได้รับอย่างเท่าเทียมตามกฎหมาย
“ผมพึ่งเปิดเผยตัวเองต่อสาธารณชน เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2561 ผมเปลี่ยนสถานะ สเตตัส บนโซเชี่ยลทุกอย่างให้สังคมรู้ ผมอนุญาตให้สื่อลงข้อความที่เกิดประโยชน์ และ เปิดเผยหน้าตา โดยที่ผมรู้สึกเหมือนปลดแอก โล่งใจที่สุดตั้งแต่วันที่รู้ผลเลือดจากหมอ
หากในอดีตพีทไม่เข้มแข็งพอ ป่านนี้พีทไม่มีชีวิตรอดมาถึงตอนนี้ วันนี้เราเดินทางมาถึงวันที่การแพร่ระบาดจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกันเราหลอกตัวเองว่าเราจะยุติ และ จัดงานเฉลิมฉลองกัน แบบนี้ใจแคบ ความจริงก็คือความจริง
ดังนั้นพีทก็จะขับเคลื่อนงาน HIV โดยไม่เข้าร่วมกับหน่วยงานใดๆ เพราะหากเข้าไป เกรงว่าจะกลมกลืนกันไปหมด ไม่ก่อให้เกิดความแตกต่างใดๆ เลย เพราะฉะนั้นวันข้างหน้าเราอาจจะมาไฟส์กันก็ได้ ซึ่งเป็นการไฟส์เพื่อสังคม”
ทั้งนี้ สิ่งที่หนุ่มพีท พยายามต่อสู้ เพื่อนำเสนอข้อมูล การรณรงค์ การร่วมทำกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับ โรคเอดส์ หรือ AIDS ( Acquired Immune Deficiency Syndrome ) และ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง
แต่ถามว่า วันนี้เราเดินมาถูกทางแล้วหรือยัง ?? หรือมันแค่ผักชีโรยหน้า ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอ้างว่าได้ทำมาอย่างต่อเนื่องเพื่อความเสมอภาคทางสังคม
และ ที่สำคัญคือการให้ความรู้เรื่องสุขภาพ ได้ทำงานอย่างประสิทธิภาพแล้วหรือยัง ?
“พีทว่าถึงเวลาแล้วนะคับที่เราต้องรวมตัวกัน เพื่อช่วยกันสะท้อนปัญหา และผลกระทบจากสังคมในการใช้ชีวิตกับ HIV .. เพราะตอนนี้พีทมีโอกาสเข้าถึงสื่อมวลชน
พีทมีโอกาสสื่อสารและเรียกร้องสิทธิ์ แต่ปัญหาของพีทมันเป็นแค่บางส่วน ฉะนั้นพวกเราควรรวมตัวกันและช่วยกันแสดงความเห็น More
“ผมจะเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ ( The Standard , Blued , FHI ) และเข้าพบผู้ใหญ่ในศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย
และจบท้ายด้วย Meeting Brian Storm ของกลุ่มคนเลือดบวกกลุ่มแรกที่จะช่วยกันกำหนดทิศทางและสะท้อนปัญหาของผู้มีเชื้อในการใช้ชีวิตด้วย”
HIV STATUS : Positive Undetectable | CD4 : 640 VR :23 | #อนุญาตให้ใช้ข้อมูลส่วนตัวของผมในการเผยแพร่ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ( ในทาง และเจตนาที่ดีเท่านั้น )