หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

รับหลอดไหมคะ?

แปลโดย ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย

“รับหลอดไหมคะ”

คำถามที่ลึกๆ ผู้เขียนอยากได้ยินดังๆ จากปากผู้ให้บริการในร้านสะดวกซื้อ แต่แทบไม่เคยได้รับ

จำภาพหลอดติดในจมูกเต่ากันได้ไหม? ภาพนั้นบาดใจคุณ หรือไปกระตุกความรู้สึกบางอย่างเบื้องลึกในตัวคุณบ้างหรือเปล่า เคยถามลึกๆ ในใจไหมว่าพวกเราได้ทำร้ายหรือร่วมกันฆาตกรรมเพื่อนร่วมโลกทางอ้อมอย่างช้าๆ กันมานานแค่ไหนแล้ว และทั้งหมดทั้งมวลนั้นอาจด้วยหลอดเพียง 1 หลอด

ขณะที่โลกกำลังเผชิญปัญหาพลาสติกล้นโลก ทั้งมีการรายงานว่าพบขยะพลาสติกลอยในมหาสมุทรแปซิฟิกมหาศาลจนกินพื้นที่มากกว่า 3 ประเทศในยุโรปรวมกันรวมถึงการค้นพบเมื่อปี 2017 ของทีมนักวิทยาศาสตร์มาเลเซียและฝรั่งเศสที่ตรวจพบพลาสติกขนาดเล็กในเนื้อปลาทะเลอย่างแมคเคอเรลและแอนโชวีส์ ฯลฯ ที่มนุษย์นำมาบริโภค ไม่ผิดกับคำกล่าวที่ว่า ‘What goes around, comes around.’ สักนิด

ไม่ไกลบ้านเราอย่างประเทศไต้หวันก็เตรียมไว้ออกกฎงดใช้หลอด ถ้วย และถุงพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งโดยหวังจะเห็นผลภายในปี 2030 โดยจะเริ่มจากร้านอาหารในปี 2019 และแม้ล่าสุดภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบ้านเราได้ประกาศยกเลิกการใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม (Cap Seal) โดยเริ่มวันที่ 1 เมษายน 2561 นี้ เพื่อลดปัญหาขยะมูลฝอยสะสมตามท่อระบายน้ำ หนึ่งในสาเหตุการตายของสัตว์ทะเล โดยตั้งเป้าลดปริมาณขยะพลาสติก 2,600 ล้านชิ้น หรือ 520 ตันต่อปี หวังให้หมดไปภายในปี 2562 แต่นอกเหนือจากพลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำแล้ว เรามองข้ามอะไรไปหรือเปล่า

เหตุนี้เองที่ทำให้องค์กร ReReef (รีรีฟ) องค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมที่เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีส่วนกำหนดอนาคตของทะเล ปะการัง และโลกใบนี้ด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การใช้ชีวิตและการผลิต ด้วยการหันมาใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนให้มากขึ้นผ่านทางเลือกต่างๆ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนเชื่อมโยงถึงกันทั้งสิ้น และหากเราสามารถอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังกลับมาได้ โลกนี้ก็ยังมีความหวัง โดยได้จับมือกับเครือข่าย Green Cafe Network (กรีน คาเฟ่ เน็ตเวิร์ก) เครือข่ายร้านกาแฟและร้านอาหารหัวใจสีเขียว ร่วมกันรณรงค์งดแจกหลอดพลาสติกในเครื่องดื่ม หรือ โครงการ #ขบวนการงดหลอด (No Plastic Straw) โดยเริ่มมาตั้งแต่ 11 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา เพื่อช่วยแก้ปัญหาวิกฤตขยะพลาสติกในทะเลที่เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งเป้าหมายหลักของโครงการนี้คือการลดจำนวนขยะที่เกิดจากการใช้หลอดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use Plastics)

คำถามสำคัญ

“ลูกค้าก็ปฏิเสธได้นี่?” จริงอยู่ที่ผู้บริโภคส่วนหนึ่งเริ่มตระหนักถึงปัญหา และพยายามบอกปัดการใช้พลาสติกกลมๆ ยาวๆ สำหรับดูด ด้วยการจิบหรือพกแก้วกาแฟมีหลอดดูด หรือหลอดใช้ซ้ำมาเอง ถึงกระนั้นไม่ใช่แค่คุณคนเดียวแน่ที่พบว่าหลอดเจ้ากรรมดันปรากฏอยู่ตรงหน้าทั้งที่ไม่ได้ขอเสียอย่างนั้น เนื่องจากร้านค้าต่างๆ มักเสิร์ฟเครื่องดื่มแถมหลอดดูดน้ำมาให้โดยอัตโนมัติ (แน่นอนว่าเขาไม่ผิด เพราะคุณอาจไม่ได้อยากยกแก้วดื่มเสมอไป จริงไหม)

แคมเปญนี้จึงมุ่งเน้นไปที่การให้ข้อมูลกับทั้งลูกค้าและคนในแวดวงบริการ ร้านอาหาร และร้านกาแฟ ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากหลอดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว โดยหวังจะเปลี่ยนวิธีปฏิบัติแบบเคยชิน (default) ที่ร้านมักเสนอหลอดให้โดยอัตโนมัติ โดยหันมาถามคำถามสำคัญ “รับหลอดด้วยไหมครับ/คะ?” ทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้คิดและตัดสินใจด้วยตัวเองว่า ‘จำเป็นต้องใช้หลอดหรือไม่?’ ขณะเดียวกันก็ช่วยกันสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องถึงความไม่จำเป็นของหลอด และปัญหาใหญ่ที่เราอาจนึกไม่ถึงที่เริ่มต้นจากขยะชิ้นจิ๋วๆ อย่างหลอดพลาสติก ทั้ง ReReef ยังเสนอทางเลือกใหม่ๆ แทนการใช้หลอดพลาสติกอีกด้วย

หลอดดูดอันเดียวเอง จะแย่แค่ไหนกัน?

ข้อมูลจาก ReReef ระบุว่า หลอดพลาสติกเป็น 1 ในขยะพลาสติกที่พบบ่อยที่สุด เนื่องจากมีขนาดเล็ก ทนทาน ยากต่อการจัดเก็บ ทั้งยังแทบไม่มีการนำมารีไซเคิลเพื่อใช้ประโยชน์ต่อ ทำให้หลอดจำนวนมากหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์ทะเลหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นปลาไปจนถึงเต่าทะเล หรือกระทั่งยักษ์ใหญ่อย่างฉลามวาฬ รวมไปถึงสาเหตุต่อไปนี้

เราสามารถช่วยได้อย่างไร?

นอกเหนือจากการตั้งคำถามสำคัญถึงความจำเป็นของการใช้หลอด และการเสนอให้กับลูกค้าและผู้ใช้บริการแล้ว นี่คือสิ่งที่เราสามารถช่วยได้

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรกเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจเขมรมาแปลก! อ้าง "ทหารไทย" ใช้หมาบ้ามาโจมตีทหาร หวั่นมีเชื้อพิษสุนัขบ้าคลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติมหัศจรรย์ "หมอกสีชมพู" เปลี่ยนอังกฤษให้เป็นดินแดนแห่งฝัน วิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามสุดแปลกตาF-16 ไทยถล่มสะพานอูจีก ตัดเส้นทางลำเลียง ของเขมรทหารกัมพูชา ใช้สไนเปอร์ หวังลอบยิง ผบ.ทหารเรือวินาทีชีวิต! ภาพไวรัล "หนูนา" หน้าตาสุดอ้อนวอน ในกรงเล็บนกเหยี่ยวอดีตผู้นำพรรคกู้ชาติเขมรเผย "หากต้องการสันติภาพ ฮุนเซนต้องลงจากอำนาจ!!"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
คลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจไรเดอร์หื่นแอบจับก้นสาวสวยขณะวิ่งออกกำลัง..อ้างทำไปเพื่อประชดแฟนช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรกเห็ดพิษใกล้ตัว รู้ทันก่อนเสี่ยงตายมหัศจรรย์ "หมอกสีชมพู" เปลี่ยนอังกฤษให้เป็นดินแดนแห่งฝัน วิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามสุดแปลกตา
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
🦉 หลับตานิ่งจนโลกมองไม่เห็น! ภาพไวรัล “นกปากกบ” พรางตัวแนบเนียน ราวกับเป็นเสารั้วบ้านเด็กสาวคอโค้ง 90 องศา จากปากีสถาน สู่รอยยิ้มครั้งใหม่หลังการผ่าตัดในอินเดียภาพวาดดินสอดำของเด็กอนุบาล เสียงตะโกนเงียบ ๆ ที่ผู้ใหญ่ต้องฟังให้ได้เพื่อนชิ่งบิล 1,262 หยวน ทิ้งให้ “นายจาง” จ่ายคนเดียว เรื่องจริงที่สอนว่า กินข้าวต้องมีสติ ไม่ใช่แค่สั่งเมนู
ตั้งกระทู้ใหม่