พระพุทธรูปทองคำ
ที่มาของ พระพุทธรูปทองคำวัดไตรมิตร
“ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร “
กินเนสบุ้คได้บันทึกไว้ใน พ.ศ.2533 ว่า.....
เป็นพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตีราคาทองคำไว้ 28.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,700 ล้านบาท เมื่อ ปี 2533)
วัดที่ต้องยุบแล้วให้ฝรั่งเช่าที่วัดไปทั้งหมดก็คือ วัดโชติการาม หรือ วัดพระยาไกร ที่ถนนตก
ซึ่งสร้างมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๓ พอสมัยรัชกาลที่ ๕ ย่านบางคอแหลมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นทำเลที่บริษัทฝรั่งเข้ามาทำท่าเรือกันมาก
วัดพระยาไกรเลยถูกบุกรุกแคบลงทุกทีจนกลายเป็นวัดร้าง
บริษัท อีสต์เอเชียติก จำกัด ได้ขอเช่าจากพระคลังเจ้าที่ และรื้อถอนเสนาสนะสงฆ์จนหมด ส่วนพระพุทธรูปขนาดย่อมมีวัดต่าง ๆ อัญเชิญไป
เหลือแต่พระพุทธรูปปูนปั้นและพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ในพระอุโบสถ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ เท่ากัน ๒ องค์ ยากต่อการขนย้าย
ในปี ๒๔๗๘ ทางคณะสงฆ์จึงมีบัญชาให้วัดไตรมิตรวิทยารามกับวัดไผ่เงิน อัญเชิญไปรักษาไว้ทางวัดไผ่เงิน ไปถึงก่อน จึงเลือกพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ไป
วัดไผ่เงิน เดิมชื่อ วัดเงิน สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ ต่อมาในปี ๒๔๘๒ ทางราชการได้เวนคืนที่ดินวัดเพื่อสร้างท่าเรือกรุงเทพฯ วัดเงินเลยต้องรื้อส่วนที่รื้อย้ายได้ไปรวมกับวัดไผ่ล้อม ที่ถนนจันทน์ เขตบางคอแหลมแล้วเปลี่ยนชื่อเป็น วัดไผ่เงิน พอได้หลวงพ่อสัมฤทธิ์ที่มาจากวัดพระยาไกร เลยเปลี่ยนชื่ออีกครั้ง เป็น วัดไผ่เงินโชตนาราม อนุสรณ์ ๓ วัดรวมกันส่วนวัดไตรมิตร รับภาระอัญเชิญพระพุทธรูปปูนปั้นที่ไม่มีใครต้องการ มาเก็บไว้ในเพิงสังกะสี บอกบุญว่าวัดไหนอยากได้ก็มาขนเอาไป แต่ไม่มีใครเอา
เพราะนอกจากขนย้ายลำบากแล้วยังเทอะทะไม่สวยจนในปี ๒๔๙๘ มีการเตรียมงานฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษในปี ๒๕๐๐
วัดไตรมิตรสงสารพระพุทธรูปที่ไม่มีใครเหลียวแล จึงสร้างวิหารให้เป็นที่ประดิษฐาน แต่ขณะขนย้ายเข้าวิหารในวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๔๙๘ เชือกที่สอดใต้องค์พระขึ้นเกี่ยวกับกว้านยก ทานน้ำหนักไม่ได้เกิดขาด ทำให้องค์พระหล่นลงกระแทกพื้นคอนกรีตปูนที่พอกกะเทาะออก เห็นเนื้อในเป็นทองคำสุกปลั่ง จึงจัดการกะเทาะออกทั้งองค์ พบว่าไม่มีรอยบุบสลาย
นั่นก็คือที่มาของพระพุทธรูปทองคำวัดไตรมิตร
ซึ่งมีนามเป็นทางการว่า “ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร “ และกินเนสบุ๊คได้บันทึกไว้ในพ.ศ. ๒๕๓๓ ว่า เป็นพระพุทธรูปทองคำใหญ่ที่สุดในโลก ตีราคาไว้ ๒๘.๕ ล้านปอนด์ ปัจจุบันคงต้องเปลี่ยนตัวเลขนี้ตามราคาทองคำอีกมากเลย
แฟนเพจ Khongdee Thailand