หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องจริงของแม่เลี้ยงเดี่ยว จากดารานักแสดง

โพสท์โดย skino uzagi

“แม่เลี้ยงเดี่ยว”

คุณแม่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ได้ตัดสินใจเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เมื่อตอนลูกน้อยอายุได้เกือบ 3 ขวบ อันเนื่องมาจากปัญหาชีวิตคู่ ที่พอหลังจากแต่งงานกันแล้วอยู่บ้านเดียวกันก็ไม่เหมือนได้อยู่ด้วยกัน เนื่องจากสามีเป็นคนสังคมจัด ทำให้ไม่มีเวลากับลูกและครอบครัว

“ตอนที่ตัดสินใจขอแยกทางแรกๆ ก็รู้สึกแย่เหมือนกัน เพราะลูกยังเล็ก และรู้สึกสงสารลูกมาก ไม่รู้ว่าถ้าเค้ารู้เรื่องมากกว่านี้เราจะบอกหรือตอบคำถามลูกยังไง ทำไมลูกถึงไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นๆ”

การเลือกเป็น “แม่เลี้ยงเดี่ยว” ของคนเป็นแม่ จึงไม่ใช่เรื่องที่ตัดสินใจได้ง่ายๆ เพราะต้องคำนึงถึงผลกระทบที่ตามมาหลายด้าน ทั้งปัญหาและความกังวลกับการที่ต้องใช้ชีวิตสองคนแม่ลูก และต้องเลี้ยงลูกคนเดียว กลายมาเป็นผู้นำครอบครัวเพียงลำพัง

“แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นความโชคดีของเราหลายๆ อย่างคือ เราอาศัยรายได้จากค่าเช่าที่ดินที่มีอยู่ เลี้ยงลูกอย่างเดียว และเลี้ยงลูกคนเดียวได้มาจนถึง 6 ปีแล้ว ตอนนี้น้องโตขึ้นมาก ทำให้เราแม่ลูกคุยกันรู้เรื่องและลูกเข้าใจมากกว่าที่เราคิดเสียอีก ความจริงแล้วการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่มีอะไรน่ากลัวหรือต้องกังวลเลย เพียงแต่เราสอนและอธิบายให้ลูกเข้าใจ พ่อของลูกก็มีมาหาบ้างตามโอกาส เพราะเราไม่ได้ปิดกั้นอะไร ตอนนี้ลูกก็โตพอที่จะรับรู้ว่า พ่อแม่เลิกกัน ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันแล้ว เคยถามลูกว่า อยากให้พ่อกลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิมไหม เค้าตอบว่าไม่เราอยู่กัน 2 คนดีพอแล้ว”


วิธีทำความเข้าใจกับลูกเมื่อต้องเลี้ยงลูกคนเดียวสำหรับเรา คือ
คอยให้เวลากับลูก แม่ลูกติดกันอย่างกับปาท่องโก๋ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด
พยายามสอนให้ลูกช่วยเหลือตัวเองและทำอะไรได้ด้วยตัวเองให้มากที่สุด
การมีบทบาทเป็นทั้งพ่อและแม่ ที่เราต้องปรับตัวและคิดให้รอบด้านขึ้น จนสามารถทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
ปัจจุบันสถานการณ์ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวมีแนวโน้มที่สูงขึ้น ไม่ใช่มีแต่ซิงเกิ้ลมัมอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีซิงเกิ้ลแด๊ดเกิดขึ้นไม่น้อย ซึ่งสาเหตุอันดับหนึ่งเกิดจากปัญหาการหย่าร้าง รองลงมาคือการถึงแก่กรรมของคู่สมรส

แน่นอนว่าชีวิตของแม่เลี้ยงเดี่ยวอีกหลายคนอาจจะเผชิญภาวะที่ยากลำบากกว่านี้ ทั้งท้อแท้หมดหวัง ทั้งอับอาย และกังวลถึงอนาคตของลูก ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตไปหมด แต่ปัญหาทุกสิ่งจะผ่านพ้นไปได้ หากคุณแม่มีความเข้มแข็ง และใช้สัญชาตญาณของความแม่ที่ยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อลูก ข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ อย่างที่คุณแม่ก็คาดไม่ถึงเช่นกัน

 

มาฟังทัศนคติและชีวิตของคุณแม่ดาราที่เลี้ยงลูกคนเดียวกันบ้าง เผื่อจะได้นำทัศนคติดีดีไปใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ

และนี่ก็คือ 

ต้นแบบ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว นักสู้ นักสร้างผู้ยิ่งใหญ่

ถ้าจะมีภาพยนตร์สักเรื่องที่ผู้ชมจะลุกขึ้นปรบมือโดยพร้อมเพรียงกัน ทั้ง ๆ ที่หนังยังฉายไปไม่จบเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนั้นน่าจะเป็นเรื่องราวของชีวิตคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แม้ว่าการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือ Single Mom จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่กลับมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันจนกลายเป็นรูปแบบเฉพาะของครอบครัวลักษณะหนึ่งที่ผู้หญิงสามารถรับบทบาทสำคัญของครอบครัวเป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับลูกน้อย
หนึ่งในยอดคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวของประเทศไทยที่มีลูกสาวเป็น “อภิชาตบุตร” คงต้องยกให้กับ Single Mom ที่ชื่อน้อย โพธิ์งาม

ชีวิตสมรสของคุณแม่น้อยสิ้นสุดลงเพราะสามีไม่เข้าใจลักษณะงานอาชีพตลก ทำให้เกิดปัญหาทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง และสุดท้ายก็จบลงด้วยการหย่าร้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้คุณน้อยทดท้อ ตรงกันข้ามเธอเลือกทุ่มเทสิ่งดี ๆ ให้กับลูกของเธอ หรือ หญิง รฐา โพธิ์งาม ความรักความเอาใจใส่ของคุณแม่น้อยได้รับการบอกเล่าโดยคุณยายของหญิงว่า รักและหวงชนิดที่ไม่ให้ใครได้อุ้มหญิงบ้างเลย หรือตอนที่หญิงถึงวัยเข้าโรงเรียนก็มักจะเสาะหาและเลือกโรงเรียนที่ดีที่สุดในละแวกนั้น ถ้าระดับกลาง ๆ พอใช้ได้ คุณแม่น้อยจะไม่เลือกเลย นอกจากนี้ เมื่อสังเกตและรู้ว่าหญิงชอบการเต้น ก็ส่งเสริมให้เรียนร้องเพลง เรียนเต้น สร้างทักษะที่ดีให้ตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งกลายเป็นรากฐานสำคัญให้หญิงได้รับโอกาสออกอัลบั้มเพลงกับบริษัทแกรมมี่ และได้ก้าวสู่วงการภาพยนตร์ระดับอินเตอร์ในลำดับต่อมา ความกตัญญูของนักแสดงสาว ญาญ่า หญิง ที่ทุ่มเทกำลังและมานะเก็บออมเงินจนสามารถปลดหนี้ 9 ล้านบาทให้กับแม่เลี้ยงเดี่ยวคนนี้ได้ในเวลาเพียง 9 ปี คือบทพิสูจน์ว่าคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวก็สามารถให้ความรักและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกได้จริง ๆ

 

ตอนนี้น้องมะลิกลายเป็นขวัญใจของใครหลายคนไปแล้ว เรามีวิธีสอนให้น้องปรับตัวยังไง ?
“จริงๆ โบว์เป็นคนที่ไม่ได้สปอยลูกอยู่แล้วนะคะตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว และตั้งแต่วันแรกที่นักข่าวได้เจอน้องวันแรกที่โรงพยาบาล น้องจะไม่ได้รู้สึกเคอะเขินอะไรเพราะได้เจอพี่สื่อมวลชนทุกวัน เจอผู้คนทุกวัน ได้เติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ จนวันหนึ่งพี่ปอจากไปก็ยังมีคนรักมากขึ้น ได้ไปงานโน้นงานนี้ ได้ไปอีเว้นต์ ได้เจอหลายๆ คน"

"เอาจริงๆ ใจเราเองก็ห่วงว่าน้องจะยังไง จะรู้สึกว่ามีแต่คนรัก มีแต่คนให้ และกลายเป็นว่าตัวเองจะทำอะไรก็ได้หรือเปล่า โบว์พยายามสอนเขาว่าทุกวันนี้ที่มีคนรักน้อง เพราะคุณพ่อของน้องทำความดีนะ เขาถึงส่งความรักนี้มาให้น้อง"

"และอีกอย่างถ้าน้องเป็นเด็กดี พี่จ๋าก็จะรักน้องตลอดไป แต่ถ้าวันไหนน้องก้าวร้าว เป็นเด็กไม่ดี ทุกคนก็จะไม่อยู่กับน้อง และโบว์ก็จะสอนลูกให้เหมือนทุกคนเวลาสอนปกติ จะไม่สอนให้เขารู้ว่าเขาเป็นเด็กที่ต้องได้ก่อน เขามีสิทธิ์พิเศษ อันนั้นจะไม่มี ทุกอย่างปกติเหมือนมนุษย์ทั่วไปค่ะ ไม่อะไรพิเศษสำหรับชีวิตเขา"

น้องมะลิเข้าใจสิ่งที่เราอธิบายใช่ไหม ?
“เขาก็เริ่ม เราก็ค่อยๆ สอนไปค่ะ จะเข้าใจไม่เข้าใจเดี๋ยววันหนึ่งเขาก็คงเริ่มทำความเข้าใจได้ แต่ทุกวันนี้เขาก็โอเคค่ะ อยากจะไปไหนยังไง ถ้าเขายังไม่เข้าใจคำพูดเรา เราก็จะปฏิบัติให้เขาเห็น อย่างเวลาจะไปซื้อของเราก็ต้องบอกว่าน้องต้องไปต่อคิว หรือจะไปเล่นของเล่น น้องก็ต้องไปต่อคิว ใครทำอะไรให้น้องต้องขอบคุณค่ะ”

 

คุณแม่มือใหม่ไฟแรงกับดาราเด็กน้อยที่สุดในหัวข้อที่เราพูดถึงเลยก็ว่าได้ คุณโอ แม่น้องฮามิต(นักแสดงเด็กน้อยน่ารักวัยแค่1ขวบ ที่น่าจับตามอง)

ได้เปิดเผยความเคล็ดลับการเลี้ยงลูกกับเรา

ความเหน็ดเหนื่อยในการดูแลลูก?

เหนื่อยใหม โอก็มีบ้าง เพราะโอทำงาน8โมงเช้า-6โมงเย็น เสร็จแล้วก็ต้องนั่งรถส่วนตัว บางวันก็taxi หรือวินมอไซต์ รีบหน่อยก็นั่งเรือ เพื่อไปรับลูกที่บ้านแม่ของโอ ซึ่งคุณทุกวันเราจะต้องเอาน้องไปฝากกับคุณแม่และเราก็มาทำงานประจำแถวอโศกซึ่งก็ใกลพอสมควร โอเองจะมีวันหยุดแค่วันเดียวคือวันอาทิตย์ แต่โอก็ต้องไปเรียน บางครั้งก็เอาลูกไปที่เรียนด้วยอยู่ฝั่งธนค่ะ
ความเหน็ดเหนื่อยก็มีบ้าง แต่ทุกครั้งที่เราเหนื่อยๆเครียดๆกลับมา เราได้เห็นรอยยิ้ม ความสดใส เราก็หายเหนื่อยเลยค่ะ เพราะฮามิตเป็นคนเลี้ยงง่ายไม่ซน จะร่าเริงตลอดเวลา มีบ้างที่ง่วงๆและงอแง ร่างกายค่อนข้างแข็งแรงเลยทีเดียวค่ะ

เข้าวงการได้ยังไง อายุยังน้อยอยู่เลย?

โอเริ่มจากพาลูกไปถ่ายแบบแบรนด์เสื้อผ้าค่ะ และมีโมเดลลิ่งเอเจนซี่เห็นแวว เพราะน้องน่ารักตาโตและไม่งอแง ใครอุ้มก็ได้ พาไปแคสงานซีรี่ย์ค่ะ ด้วยคาแรกเตอร์ที่ตรงและไม่ซนไม่งอแง เลยผ่านค่ะ ก็เป็นโอกาศที่ดีของน้องค่ะ

ทั้งงานประจำ ใหนจะเรียนของคุณแม่ แล้วแบ่งเวลาให้คุณลูกยังไง

ปรกติ ถ้ามีงานนอกแบบนี้ ก็จะไปหลังเลิกงานค่ะ คือโอเลิกงาน6โมงเย็น เสร็จแล้วต้องไปรับลูก และพาไปงานต่อเลย ถ้างานสำคัญจริงๆ โอก็จะขอลาหยุดงานเป็นวันๆไป ถ้าหยุดไม่ได้ ไม่มีใครมาแทน ก็จะให้พี่สาวหรือพี่ที่เอเจนซี่ ดูแลให้ค่ะ ก็วุ่นวายนิดนึง แต่ก็แก้ปัญหาได้ค่ะ 

ตั้งแต่ลูกเกิดมาทำให้เราเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ใหน?

เปลี่ยนเยอะมาก จากที่เคยจะรักแค่ตัวเราเอง ต้องรักอีก1คน นั่นก็คือน้องฮามิต ไม่รู้สึกว่าวุ่นวายอะไรเลย มีความสุขทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันค่ะ ทำให้เราแกร่งขึ้นอดทน และทำให้เรารู้ว่ายังมีอีกหนึ่งชีวิต ที่เป็นกำลังใจและเป็นความรักที่ดีให้กับเรา และเราเองก็อยากจะดูการเติบโตของเค้าไปตลอดเลยค่ะ โอเองก็อยากฝากให้กำลังใจกับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทุกท่านเลยค่ะ อย่าคิดว่าเป็นปมด้อย เป็นความเหน็ดเหนื่อย  ถ้าเรามองให้ลึก เราจะรู้ว่าเค้ามีค่าที่สุดในชีวิตของเราเลยแหละค่ะ





นอกจากนี้ หมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ ก็นับเป็นอีกหนึ่งยอดคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ทั้งชีวิตทุ่มให้ลูกชายจนได้ดีสมใจหวัง

เพราะน้องนาย ณภัทร ลูกชายวัย 19 ปี สามารถสอบเทียบวุฒิ 2 ปีจึงได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยมหิดลภาคอินเตอร์ เท่ากับว่าเรียนเร็วกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะน้องนายต้องการช่วยแม่ประหยัดค่าเทอมจึงตั้งใจจะรีบเรียนให้จบโดยเร็ว ในเดือนสิ่งหาคมที่ผ่านมาคุณหมูได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในหนังสือขวัญเรือนถึงเรื่องการเลี้ยงลูกซึ่งเธอเชื่อเสมอว่า คุณแม่หลาย ๆ คนที่ลำบากกว่าเธอก็มีแต่ยังสามารถเลี้ยงลูก 3 – 4 คนจนประสบความสำเร็จได้ทั้งนั้น ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเลี้ยงเดี่ยว หรือ เลี้ยงคู่ก็ตาม ถ้าได้เลี้ยงลูกด้วยความรักแล้วล้วนจะภาคภูมิใจทุกคน นั่นเพราะผู้หญิงคือเพศที่แข็งแรงมาก ถ้าเราคิดว่าได้ อะไรก็ย่อมได้ ขึ้นอยู่กับวิธีคิดของเรา เคล็ดลับการเลี้ยงลูกที่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนนี้ยึดมาตลอดก็คือ เมื่อมีเวลาเท่าไรให้เขาทั้งหมดและเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้เขาฟัง แม้ว่าเขาจะไม่รู้เรื่อง แต่การสื่อสารจะช่วยสร้างความเคยชินในการพูดคุยระหว่างแม่และลูก วันหนึ่งพอลูกโตขึ้นเขาก็จะเล่าให้เราฟังทุกอย่างเช่น กัน

 

เช่นเดียวกับนักแสดงสาวคนนี้ แวร์ โซว หรือ ณิชาภา แซ่โซว เธอกลายเป็นซิงเกิลมัมตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองตั้งท้องด้วยซ้ำไป หลังจากเลิกรากับแฟนหนุ่ม แต่พอรู้ว่าตัวเองท้องเธอก็พร้อมที่จะทำความเข้าใจและยอมรับสภาพของการเป็นซิงเกิลมัมโดยไม่มีคำว่าท้อแท้สิ้นหวังที่ต้องทำหน้าที่เลี้ยงดูลูกสาวคือ "น้องคนดี" ด.ญ.ภริตพร แซ่โซว ทำให้หลายคนอาจจะมองว่าเธอเป็นผู้หญิงเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว

 

"เชื่อไหมมีคนถามแวร์เยอะมากทำไมแวร์เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวจังเลย จริง ๆ แล้วเราไม่ได้เข้มแข็งหรอก แต่วิธีคิดของเราถ้าเราอยู่ในโลกของความเป็นจริงและเข้าใจรูปแบบการใช้ชีวิตว่าเราเลิกกับแฟนมาและรู้ตัวเองท้องนะ ทำไง ก็เลี้ยงลูกสิ ก็เป็นไปตามสเต็ปขั้นตอนของมัน แต่คนส่วนมากพอรู้ตัวเองท้องจะฟูมฟายทำไงดี แต่ถามว่าแวร์คิดมากไหม คิดตรงที่เราจะทำอะไรที่มั่นคงยังไง และเราจะมีภูมิความรู้เลี้ยงลูกให้ดีได้ไหมอันนั้นคิด แต่มาตระหนกตกใจคิดว่าฉันท้องฉันไม่ได้แต่งงานใครจะหาเลี้ยง ทำไมเขาไม่มาส่งเสียเลี้ยงดูเราและลูก แวร์ไม่คิด เพราะเราทำงานเราอายุ 30 ก็โตแล้ว และมีบางคนชอบบอกว่าเราคิดต่าง เราบอกไม่ได้คิดต่างแต่เราคิดทุกอย่างตามความเป็นจริงของมนุษย์ ของการอยู่บนโลกใบนี้ แต่คนส่วนมากชอบคิดตามจินตนาการความฝัน แต่พอไม่เป็นอย่างนั้นเราก็ต้องยอมรับความเป็นจริง แต่คนส่วนมากรับไม่ได้"

แวร์ โซว น้องคนดี

ไม่ท้อเมื่อมีลูกแต่ท้อกับเรื่องสภาพแวดล้อมของคนรอบข้าง

"เรื่องสภาพแวดล้อมของคนรอบข้างและวิธีคิดหรือสังคมสมัยนี้ เพราะการเลี้ยงเด็กสมัยก่อนเรื่องเทคโนโลยีสิ่งล่อแหลมสิ่งยั่วยุหรือมากระตุ้นให้เด็กมีปัญหาในสังคมหรือใจแตกแหลกเหลวกับชีวิตน้อยกว่าสมัยนี้ สมัยนี้เด็กไม่ถึงขวบจิ้มแท็บเล็ตได้แล้ว แล้วสังคมเมื่อก่อนเราเดินไปไหนเพื่อนบ้านคนรู้จักช่วยกันดูแลอย่าไปเล่นไหนไกล แต่สมัยนี้เพื่อนบ้านนี่แหละลากไปทำอะไรก็ไม่รู้ มันน่ากลัว และวิธีการคิดของคนอย่างเราสอนลูกว่าเรามีกันสองคนแม่ลูก คนดี ต้องเชื่อฟังแม่เวลาบอกอะไร หรือใครเอาอะไรมาให้กินหรือชวนไปไหนต้องมาบอกแม่ก่อน นี่คือเราสอนลูก ซึ่งเราไม่ได้หวงลูกแต่นี่คือวิธีการดูแลและป้องกันตัวเองให้เกิดความเสี่ยงน้อยที่สุด เราป้องกันไว้ก่อนมันดี แต่กลายเป็นว่าบางทีเราไปทำงานอยู่บนเวทีหรือสัมภาษณ์อยู่มีคนเอาอะไรไม่รู้มาส่งให้ลูกเรากิน พอลูกเราบอกว่าขอถามแม่ก่อน คนนั้นบอกว่าแม่จะคุยเสร็จอีกนานกินไปเลยแม่ไม่รู้หรอก ไม่ให้ลูกบอกความจริงกับเรายังสอนให้ลูกเราโกหกอีก โดยที่คุณไม่รู้หรอกสิ่งที่คุณกำลังทำกำลังปลูกฝังให้เด็กได้รับอันตรายโดยไม่รู้ตัว พอเขาได้กินได้เล่นกับคนอื่นก็ไม่เป็นไร ไม่เห็นอันตรายเลยแล้วแม่บอกอันตรายตรงไหน ทีนี้คำพูดของแม่ก็จะไม่มีความหมายเขาก็จะไม่ฟังเรา เราก็เลยพยายามคุยกับลูกเยอะ ๆ บอกคนดีคนที่หวังดีและรักลูกที่สุดในชีวิตคือแม่นะ คนอื่นเขาเอ็นดูหนูเพราะหนูน่ารักหรืออยากช่วยเหลือ แต่ลืมไปว่าสิ่งที่เขาทำกับหนูจะเป็นผลที่ไม่ดีกับหนูในอนาคต แวร์จะพูดกับเขาเสมอ"

น้องคนดีเป็นเด็กฉลาดและเรียนรู้ได้เร็วจึงเข้าใจในสิ่งที่แม่สอน แต่จะเกิดอาการต่อต้านเพราะสภาพแวดล้อม

"เราว่าลูกเข้าใจแต่เขาต่อต้าน เพราะพอลูกเราไปโรงเรียนตั้งแต่ขวบครึ่งไปได้ไม่เกิน 4 วัน จากเด็กมีน้ำใจและน่ารักกลายเป็นเด็กก้าวร้าว แวร์เลยไปถามครูทำไมน้องมาโรงเรียนแล้วก้าวร้าวขึ้น ครูบอกเพราะในชั้นเรียนมีเด็กผู้ชายเยอะเลยเกเรตามพฤติกรรมเลียนแบบ เราเลยเอาลูกออกจากโรงเรียน รอจนเขาอายุ 2 ขวบกว่าก็ไปเข้าเตรียมอนุบาล ปกติลูกเราสามารถถือแก้วน้ำได้และมีน้ำใจถามแม่ขาดื่มน้ำไหม แม่ขามีอะไรให้หนูช่วยทำไหมคะ น่ารักอ่ะ แต่พอไปโรงเรียนกลับมาเราสังเกตระยะหนึ่งลูกกลายเป็นเด็กขี้เกียจ อยากกินขนม อยากกินน้ำ แต่ไม่ยอมไปหยิบเอง เราก็ทำไมลูกเป็นแบบนี้ ก่อนไปลูกเรามีความอยากเรียนรู้และมีแรงจูงใจ แต่พอไปแล้วไม่เอาอะไรเลยและขี้เกียจ

แล้วแวร์ไม่เข้าใจสังคมไทยเป็นยังไง เด็กที่มีความสามารถทำอะไรได้เองมักจะถูกเมินเฉย แต่เด็กที่ทำอะไรไม่ได้งอแงคนจะไปรุมเอาใจประคบประหงม ลูกเราก็เลยมีความรู้สึกอยากให้คนสนใจก็เลยไม่ทำบ้างดีกว่า โดยการไม่ฟัง และไม่สังเกต ไม่เรียนรู้ ไม่พัฒนาตัวเอง อะไรที่ทำได้ก็แกล้งทำไม่ได้ เราก็ไปหาครูถามทำไมน้องเป็นแบบนี้ ครูก็บอกคุณแม่ใจเย็น ๆ น้องยังเด็ก เชื่อไหมแวร์เบื่อคำนี้มากเลย ก็เลยรอให้ลูกเรียนจบเทอมหนึ่ง พอเทอมสองเอาออก คือแวร์มีความเชื่อมั่นและศรัทธากับสถาบันการศึกษานะพี่ ก่อนเอาลูกไปโรงเรียนก็คุยกับครูก่อนว่าเราสอนลูกมาแบบนี้ลูกเราทำอะไรได้บ้าง เราบอกเขาหมด ซึ่งเรามั่นใจว่าที่นี่ต้องดูแลลูกเราได้ดี แต่พอเรามาสังเกตพฤติกรรมแต่ละวัน แรก ๆ เราคิดมากไปหรือเปล่าแต่ก็ไม่ใช่ ถ้ามาโรงเรียนแล้วเด็กไม่มีการพัฒนาก็อย่ามา ลูกเราเป็นเด็กมั่นใจไม่กลัวคนเพราะเราพาเขาไปไหนมาไหนแต่เด็กและเป็นเด็กกิจกรรม แต่พอมาโรงเรียนกลายเป็นลูกไม่เชื่อฟังเราแต่เชื่อครูมากกว่า และมีเถียงเราด้วย เคยโกหก แถมยังปลอมลายเซ็นเราด้วย

ตอนอายุ 5 ขวบ ต่อหน้าแม่ก็ค่ะ ๆ ๆ แต่ลับหลังแสบทรวงมาก พอรู้แวร์ร้องไห้เลย เสียใจมาก เพราะในบ้านเราห้ามโกหก แล้วอย่างลูกถ้านั่งนับหนึ่งถึงร้อยได้ โอเค.ลูกเก่ง แต่พอเราถามนี่เลขอะไร ตอบไม่ได้ ท่องได้ แต่อ่านไม่ได้ไปเรียนทำไม และมีครั้งหนึ่งให้ลูกไปทิ้งขยะ เชื่อไหม ลูกยืนหน้าถังขยะแต่ไม่ยอมทิ้ง ถือขยะอยู่ในมือเราถามน้องคนดีทำอะไร เขาบอกรอให้แม่มาเปิดฝาถังขยะให้ เชาวน์ปัญญาไม่มีแล้วทั้งที่อยู่บ้านเขาเคยทำได้ มีช่วงหนึ่งลูกเราบ้าแต่งหน้ามากเพราะต้องแต่งหน้าขึ้นโชว์บนเวที ครูก็ชมคนแต่งหน้าแล้วสวยมาก โดยไม่ได้บอกว่าจะแต่งหน้าได้เฉพาะตอนแสดงโชว์เท่านั้น ปรากฏว่าตั้งแต่วันนั้นคนดีบ้าแต่งหน้ามาก อยากแต่งหน้าตลอดเวลา ตื่นเช้ามาบอกแม่แต่งหน้าพอจะนอนก็แม่แต่งหน้า"

แวร์ โซว น้องคนดี

คุณแม่กลุ้มใจเมื่อพฤติกรรมของลูกสาวเปลี่ยนไปหลังจากเข้าโรงเรียน

"ไม่มีความสุขเลย น้องคนดีจากเด็กน่ารักกลายเป็นเด็กก้าวร้าวเกเรเจ้าเล่ห์และขี้เกียจ ไม่พยายามเรียนรู้ ไม่มีการสังเกต ไม่กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้หรือพัฒนาศักยภาพตัวเอง เอาง่าย ๆ ลูกแวร์เรียน ป.1 ก.กา ยังอ่านไม่ได้ เลขหลักหน่วยหลักสิบหลักร้อยอ่านไม่ได้ พอมันเป็นแบบนี้มากขึ้นสุดท้ายแวร์ตัดสินใจว่าไม่ได้แล้ว เราเลี้ยงลูกเราต้องพัฒนาเขาทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์เรื่องของคุณภาพจิตใจหรือศักยภาพความฉลาด ความรู้ หรือความสามารถต่าง ๆ แต่ถ้าเขายังอยู่ในสังคมมีสภาพแวดล้อมเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จะทำให้เขากลายเป็นคนที่ด้อยศักยภาพ คิดเองก็ไม่เป็น กระตือรือร้นก็ไม่มี ความสามารถก็ไม่มีอะไร มักง่าย ฉาบฉวย เจ้าเล่ห์ไปวัน ๆ เป็นคนลักษณะเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้เอาตัวเองเป็นหลักเราก็เลยมานั่งคิดถ้าเราอยากให้ลูกมีวิชาการความรู้ มีวุฒิการศึกษาเหมือนคนทั่วไปที่สังคมกำหนดเอาไว้ สิ่งที่แวร์ได้คือลูกมีวุฒิการศึกษาและจบมหาวิทยาลัย แต่ถามว่าจบออกมาแล้วเป็นคนเต็มคนไหม ก็ไม่ สามารถมีการงานที่ดีทำไหม ก็ไม่ สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นคนดี และมีความสุขไหม ก็ไม่ เพราะฉะนั้นเรามาคิดดูเราต้องการอะไร เราต้องการให้ลูกเราเป็นคนดี และมีคุณธรรม ดูแลตัวเองและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข พอเราถามและตอบโจทย์ได้ ก็เลยเอาลูกออกจากโรงเรียนมาทำโฮมสคูลเอง หลังลูกเรียนจบ ป.1 เทอม 1"

แวร์เข้มงวดกับลูกมากเกินไปหรือเปล่า

"สิ่งที่แวร์สอนมันคือมารยาทสังคม บางคนบอกเขายังเด็กอยู่ สมมติตอนนี้ลูกตบหัวแวร์ ถ้าแวร์บอกไม่เป็นไร ๆ ตบไป พอวันหนึ่งเขาโตขึ้นเราบอกคนดีตบหัวแม่ไม่ได้เขาไม่ฟัง เพราะตอนเล็กเคยตบได้ และทีนี้ไม่ได้ตบแค่แม่จะไปตบคนอื่นได้ เรามีมุมมองและคิดเสมอว่าข้อมูลแรกในชีวิตของเด็กที่เด็กควรจะรู้ที่สุดคือข้อมูลที่ถูกต้อง เช่นลูกเรากินข้าวจะบอกลูกเลยว่าการเคี้ยวข้าวที่ถูกต้องอย่าเคี้ยวข้าวเสียงดัง อย่าอ้าปากเวลาเคี้ยวข้าว อย่าคุยกันเวลาทานอาหารนี่คือข้อมูลที่ถูกต้อง และเราโตมากับการที่เวลาเดินผ่านผู้ใหญ่ต้องเดินอ้อมหลังและขอโทษ จะมาเดินปึงปัง ๆ ไม่ได้นะ หรือบางทีผู้ใหญ่เดินสวนมาแล้วทางมันแคบไปไม่ได้เราต้องให้ผู้ใหญ่ไปก่อน นี่คือมารยาทพื้นฐานทางสังคมที่คนควรรู้ แต่คนไม่รักษาเอาไว้ คนละเลยกันหมด"

แวร์ โซว น้องคนดี

เป็นคุณแม่ที่ใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอนของลูก

"มันปล่อยวางไม่ได้และเรายอมเหนื่อยตอนนี้เพื่ออะไร เพราะเขาจะอยู่กับเราแรกเกิดจน ป.4 หลังจากนี้เขาไม่อยู่กับเราแล้วนะ เรายอมเหนื่อยตอนนี้พอ 11-12 ขวบ เขาไม่ฟังเราแล้ว ในเมื่อเราอยู่กับเขาเราควรให้ข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องกับเขา หลังจากนั้นเขารู้แล้วเขาจะทำหรือไม่ทำเรื่องของเขา จะไปเป็นอะไรเรื่องของเขาถือว่าเราสอนแล้ว ดีกว่าวันหนึ่งแก่ไปแล้วเรามานั่งพูดกับตัวเองทำไมวันนั้นเราไม่สอนเขาแบบนี้มานั่งเสียใจ เราพูดเลยวันหนึ่งถ้าเขาโตขึ้นเราไม่ได้บอกลูกเราเป็นคนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าเขาจะเลวเราก็ไม่เสียใจเพราะเราทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว สุดท้ายเลยเอาลูกออกจากโรงเรียนดีกว่า พอเขาเรียนจบ ป.1 เทอม 2 เชื่อไหม ลูกแวร์อยู่โรงเรียนตั้งแต่ 2 ขวบครึ่งจน 6 ขวบ 5 ปีที่ลูกไปโรงเรียนแวร์จะทะเลาะกับลูกทุกวัน ชีวิตไม่มีความสุข แวร์ไม่ได้เลี้ยงเขาแบบไข่ในหิน แต่เราไม่รู้ว่าลูกเราไปเจอใคร และใครพูดอะไรกับเขาบ้าง และการที่เราโพรเทคต์ลูกเราแต่กลายเป็นมาหาว่าเราเป็นดาราเรื่องมากหวงลูก แต่ตอนหลังแวร์ไม่แคร์เพราะเราเป็นแม่ เรามีสิทธิ์ที่จะดูแลสอดส่องพฤติกรรมของทุกคนที่เข้ามาหาลูกเรา"

สุดท้ายแวร์ให้ลูกออกจากโรงเรียนแล้วมาทำโฮมสคูลเองที่บ้าน

"แวร์มาสอนหนังสือลูกเองที่บ้าน ทำบ้านเรียนซึ่งเขามีมา 20-30 ปีแล้ว และมีหลายครอบครัวที่ทำแบบนี้คือสอนกันเอง สมัยก่อนสังคมไทยที่บ้านอาจจะไม่ได้มีอะไรเปิดปัญญาเด็ก เขาถึงบอกให้เด็กไปโรงเรียน เพราะครูมีความรู้มีจรรยาบรรณ แล้วให้เด็กไปเข้าสังคมไปพัฒนา ไปเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ แต่กับสมัยนี้ไม่ได้ เพราะตอนนี้ไปโรงเรียนครูทำอะไร นั่งแต่งหน้าพูดจาก็...กูอันนี้เราเคยได้ยินมาแล้วจะไปเพื่ออะไร เราอยากจะว่าการสอนหนังสือลูกเอง การทำโฮมสคูลมันเหนื่อยนะ ถ้าสิ่งที่ลูกเรียนมันดีอยู่แล้วไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากเอาออกมาหรอก เราเชื่อและศรัทธาในสถาบันการศึกษา แต่เราไม่เชื่อมั่นครูที่สอน คือหลักการของโรงเรียนกับผู้อำนวยการดีมากแต่เขาไม่ได้มาสอนเอง ถ้าลูกเรายังอยู่ในระบบสังคมแบบนี้ต่อไป แวร์สามารถตัดหางปล่อยวัดลูกได้ ฉันกับเธอตัดขาดกันเลยนะ โอเค.ลูกเรามีวุฒิการศึกษา ลูกเราได้เรียนจบมหาวิทยาลัย ได้รับการยอมรับในสังคม แต่ความเป็นมนุษย์ไม่มี เราก็ต้องเลือกสิ เราเป็นคนหนึ่งที่เลือกจะมีชีวิตตามรูปแบบของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ถ้าเราอยากจะอยู่ในกระแสสังคม อย่างบางคนมาถามลูกแวร์เรียนโรงเรียนอะไร พอแวร์ตอบชื่อโรงเรียนไป เขาไม่รู้ เขาไม่คุยกับแวร์ต่อนะ แต่ถ้าตอบเรียนสาธิตเกษตรค่ะเขาจะคุยต่อ

แวร์อยากจะบอกทุกสังคมทุกโรงเรียนครูดีก็มีอยู่ที่เราเจอหรือไม่เจอ เพื่อนดี ๆ ก็มีอยู่ที่เราเจอหรือไม่เจอ การทำโฮมสคูลเราต้องจัดการเองทั้งหมด ตอนนี้มีสมาคมบ้านเรียนไทยในเฟซบุ๊ก เราได้คำแนะนำมาก็ลองไปคุยดู เราเลยไปถาม เขาแนะนำว่าเราเป็นยังไง เราต้องการอะไร เขียนออกมาเป็นแผนการเรียนของลูก เรารู้ธรรมชาติของลูกชอบอะไร ถนัดอะไร เราจะสอนอะไรเขา เราก็ร่างเป็นแผนการเรียนการสอนแล้วให้ผู้ใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญช่วยดูให้ เขาก็จะช่วยหาคำที่เป็นวิชาการมาปรับปรุงให้เรา"

แวร์ โซว น้องคนดี

การทำโฮมสคูลต้องมีหลักการยังไงและวิชาที่สอนมีอะไรบ้าง

"ก็มีแบบสอนไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องสนใจวุฒิการศึกษา เพราะการเรียนรู้ทั้งชีวิตไม่มีวันจบหรอก และมีโรงเรียนที่รับกลุ่มบ้านเรียนโดยเอาเด็กไปเข้าชื่อไว้และมีประเมินไปเรื่อย ๆ โดยเราเก็บผลงานเก็บแบบฝึกหัดของเขาไว้ และไปยื่นที่เขตเขาจะมีเขตดุสิตที่รับกลุ่มครอบครัวบ้านเรียนอะไรแบบนี้ หรือจ้างครูพิเศษเฉพาะทางมาสอนแต่ละวิชา พอโตขึ้นอายุถึงก็ไปสอบ กศน. ก็จะมีทางเลือกหลากหลาย เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องยาก และอย่างที่แวร์ดูแล้ว น้องคนดีตอนไปโรงเรียนเขามีปัญหาการนั่งเรียนเขียนอ่าน เขาเป็นเด็กอยู่นิ่งมากไม่ได้ เขาไม่ได้ไฮเปอร์แต่เป็นเด็กชอบเคลื่อนไหว ถ้านั่งเรียนเขียนอ่านเขาจะเบื่อ หรือวิชาไหนที่เขาชอบจะเรียนรู้เรื่อง เขาชอบประวัติศาสตร์ ตอน ป.1 เขาเรียนพระพุทธเจ้า เรียนพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์ เขาจะชอบ เขาตอบได้หมด แต่วิชาอื่นไม่ชอบไม่รู้ นอกจากนั้น เมื่อเด็กไม่ได้เรียนโรงเรียนปกติเราก็ต้องหากิจกรรมเสริมให้เขา บางครอบครัวเป็นชาวไร่ชาวนาก็สอนเด็กในเรื่องธรรมชาติการปลูกพืชปลูกผัก ใช้ปุ๋ยอะไรปรับสภาพดินยังไง การทำบ้านเรียนคือการจัดการแผนการเรียนการสอนตามอัธยาศัยของแต่ละครอบครัว

ส่วนเบสิควิชาหลัก ๆ ที่ต้องเรียนก็มีภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เลข สังคม วิทยาศาสตร์ แต่เราไม่ต้องเซ็ตเหมือนโรงเรียนทั่วไป มา 8 โมงเช้าเคารพธงชาติวิชาแรกสอนอะไร เราใช้ง่าย ๆ วันนี้แม่กินก๋วยเตี๋ยว 2 ชาม ชามละ 30 บาท รวมได้เท่าไหร่ แต่เขาต้องรู้การบวกลบเลขให้เป็นด้วยนะ เราสอนเขาตอน ป.1 เทอมหนึ่งตอนนี้เรียน ป.2 เทอมหนึ่ง ไม่ถึงปีลูกรู้จักหลักสิบหลักร้อยและบวกเลขได้อย่างมั่นใจ ทุกวันนี้สามารถบวกเลขในใจได้ การทำโฮมสคูลเราสามารถใช้ชีวิตประจำวันในการเรียนการสอนได้ เราก็ตั้งตารางทุกวันลูกตื่นขึ้นมาต้องทำแบบฝึกหัดวิชาละครึ่งชั่วโมง เสร็จแล้วไปวิ่งเล่น คือ 5 วิชาหลักให้อ่านหรือเขียนก็ได้วันละครึ่งชั่วโมง แต่ถึงเวลาจริง ๆ เขาไม่ทำเขาไม่ชอบมานั่งเรียนเขียนอ่าน ตอนหลังเราเลยใช้วิธีอ่านให้ฟังเรื่อย ๆ เขาก็เริ่มฟังมากขึ้น แต่บางอย่างต้องบังคับ เช่น เลข และภาษาไทย เราเริ่มสอนให้ลูกท่อง ก.-ฮ. ให้ชัดเจน สระก็ให้ชัดเจน จำวรรณยุกต์ให้ได้ เมื่อคุณรู้พื้นฐานเบสิคหลักก็จะผสมคำได้ ภาษาอังกฤษก็เหมือนกัน"

แวร์จะสอนลูกถึงเมื่อไหร่

"ตอนนี้มีความคิดว่าถ้าจะสอนพื้นฐานเด็กตอนนี้ ป.1 ถึง ป.3 เขายังไม่ต้องเรียนอะไรมากหรอก เอาแค่อ่านออกเขียนได้พื้นฐานหลัก ๆ แล้วมาดูอีกทีตอน ป.4 วิชาหลัก ๆ เริ่มเยอะก็ดูก่อน ถ้าสอนแล้วมีแนวโน้มที่ดีก็จะสอนไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าดูแล้วเราได้แค่นี้ไม่สามารถต่อยอดพัฒนาความรู้ต่าง ๆ ได้ ค่อยไปเข้าโรงเรียนปกติ ซึ่งเขาก็ปรับสภาพได้ ทุกวันนี้เขาอยากไปโรงเรียนแต่อยากไปเล่นไม่ได้อยากไปเรียน"

แวร์ โซว น้องคนดี

น้องคนดีเป็นเด็กที่ชอบทำกิจกรรมเยอะมาก

"เขาเป็นเด็กไม่ชอบนั่งเรียนเขียนอ่านแต่เขาสนุกกับการชอบเคลื่อนไหว เขาชอบทำกิจกรรม ตอนนี้ก็มีไปเรียนไอซ์สเก็ต เปียโน ร้องเพลง เทควันโด บัลเลต์ เรียนเต้น ตอนนี้คุยเอาไว้จะให้เรียนรำ ซึ่งสิ่งที่เขาเรียนทั้งหมดเขาขอเอง ถ้าเขาขอเราก็พาไปลองถ้าเขาสนุกก็เรียน แต่เราจะบอกเขาก่อนอย่างแรกทำอะไรต้องตั้งใจทำก่อน พยายามก่อน ถ้าไม่ได้จริง ๆ เราค่อยว่ากัน ซึ่งเขาทำแล้วมีความสุขก็ให้เขาทำไป แล้วก็ดีขึ้นเยอะเลย ถ้าให้เรียนเรามีแต่ความเครียด เคยคิดเอาลูกไปอยู่โรงเรียนประจำเลยนะเหมือนเป็นการตัดหางปล่อยวัดเลยนะ แต่ก่อนจะทำเราพยายามทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ก่อนให้ดี แวร์จะพูดเสมอหน้าที่ของแม่คืออะไร คือเลี้ยงดูให้หนูเติบโตขึ้นมา หาอาหาร ของใช้ เสื้อผ้า สอนสิ่งที่ดี ฝึกฝนสิ่งดี ๆ ให้กับหนู คอยดูแลหนูให้ดีที่สุด หน้าที่ของลูกคืออะไร เชื่อฟังพ่อแม่ ทำตามสิ่งดี ๆ ที่พ่อแม่สอน ขยันเรียนหนังสือ เราต้องแบ่งหน้าที่กันและเข้าใจในหน้าที่ของตัวเองให้ได้"

เข้มงวดและใส่ใจลูกมากขนาดนี้ สิ่งที่แวร์คาดหวังหรืออยากเห็นเขาเป็นอะไรในอนาคต

"แวร์ไม่ได้คาดหวังเขาอยากเป็นอะไรก็ได้เป็นไปเลย แต่สิ่งที่แวร์อยากเห็นหรืออยากให้เขาเป็นคืออย่านำความเดือดร้อนมาใส่ตัวเองและครอบครัว อย่าเป็นคนเลว เป็นคนดีในสังคม เอาตัวเองให้รอด แต่ในมุมมองที่ดีนะไม่ได้ขี้โกงเจ้าเล่ห์ เป็นคนที่มองและมีชีวิตอยู่ในความเป็นจริง ไม่ได้อยู่กับความเพ้อฝันหรือตะเกียกตะกาย ฟูมฟาย เหมือนที่สังคมทุกวันนี้หล่อหลอมให้คนที่มีเงินเท่านั้นคือพระเจ้า มีเงินทำอะไรก็ถูก ซึ่งมันไม่ใช่ เราแค่อยากให้เขาเป็นคนพอมีพอกิน พอใช้พอเก็บ พอแบ่งปัน มีความสุขได้โดยไม่เบียดเบียนใคร ทำตัวให้ดี โดยไม่ไปสร้างปัญหาหรือเอาเปรียบใคร พื้นฐานของมนุษย์ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"

 

หันมาทางฝั่งตะวันตกกันบ้าง J.K. Rowling เจ้าของบทประพันธ์มหากาพย์แฟนตาซี แฮรี่พอตเตอร์


ที่กว่าจะมีวันนี้ชีวิตสมรสของเธอกับสามีเก่าเป็นช่วงเวลาที่ เจ.เค. ถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งในขณะนั้นเธอมีบุตรสาวกับเขาหนึ่งคน การเผชิญหน้ากับชีวิตครอบครัวที่แตกร้าวและยังไม่มีงานทำ ส่งผลต่อสภาพจิตใจของเธอและทำให้เธอเป็นโรคซึมเศร้า แต่ด้วยความรักที่มีต่อลูก เธอจึงแปลงความเศร้า สิ้นหวังออกมาเป็นแรงบันดาลใจของตัวละครในแฮรี่ พอตเตอร์ ซึ่งก็คือ ผู้คุมวิญญาณ นั่นเอง การเล่านิทานให้ลูกฟังทำให้เธอเกิดจินตนาการโลดแล่นเป็นตัวหนังสือขึ้นมา จนวันนี้ เจเค ขึ้นแท่นติดอันดับหนึ่งในผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในโลก และเริ่มต้นชีวิตครอบครัวกับสามีคนปัจจุบันอย่างอบอุ่น แต่ถ้าถามเธอถึงความภูมิใจกับชีวิตที่ผ่านมา เธอบอกว่าภูมิใจที่ได้เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมากกว่าช่วงเวลาแห่งความสำเร็จใด ๆ ในชีวิต ปัจจุบัน เจเคดำรงตำแหน่งเป็นประธานองค์กรเพื่อการกุศล Gingerbread ซึ่งอำนวยความอนุเคราะห์ต่าง ๆ ให้กับบรรดาคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวและยังเป็นนักพูดคนสำคัญที่ให้กำลังใจ Single Mom และ Single Dad อีกด้วย ครั้งหนึ่งเจเคได้บอกเล่าประสบการณ์ Single Mom ของเธอผ่านเว็บไซด์ Gingerbread ว่า เธอต้องทำงานในโบสถ์และเคยถูกผู้หญิงคนหนึ่งเรียกเธอว่า “แม่ที่ไม่ได้แต่งงาน” หรือกระทั่งการที่สังคมสงเคราะห์ตัดค่าสวัสดิการของเธอออก เพราะเหตุว่าเธอมีรายได้เข้ามาบ้างแล้ว ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริง เงินจากการทำงานในโบสถ์ไม่ได้มากพอให้เธอเลี้ยงลูกได้ แต่นั่นกลับเป็นแรงขับแรงกระตุ้นสำคัญให้เธอสามารถพลิกอุปสรรคและก้าวข้ามคำพูดของคนภายนอกมาเป็นความพยายามทุกวิถีทางให้ลูกได้มีทุกอย่างเช่น วันนี้

ทั้งนี้ จากตัวอย่างของยอดหญิงคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีชื่อเสียงหลาย ๆ ท่านทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ แต่ละคนสามารถดูแลและให้ความรักกับลูกได้อย่างเต็มที่ จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันและบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า คุณภาพของการดูแลลูกน้อยไม่ได้อยู่ที่ความสมบูรณ์พร้อมของสมาชิกในครอบครัว แต่ในความเป็นจริง สิ่งสำคัญที่หล่อเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เป็นคนมีคุณภาพของสังคม ย่อมมาจากความรักความใส่ใจมากกว่าสิ่งอื่นใด

โพสท์โดย: ทาทาลืมทานยา
teenfamily magazine
เดลินิวส์
internet
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
skino uzagi's profile


โพสท์โดย: skino uzagi
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
28 VOTES (4/5 จาก 7 คน)
VOTED: Itsgonnabeok, ken 7, zerotype, นางงูพิษ, ทาทาลืมทานยา, ไปเซเว่นเอาอะไรไหม๊
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หลุดมาอีกแล้ว AI บอกครบทั้ง6ตัว งวด 2 พฤษภาคม 2567เจ้าของสวนโพสต์ "ทุเรียนเป็นฮีทสโตก"..เหตุเพราะอากาศร้อน30 แคปชั่นวันแรงงาน กวนๆ ฮาๆ 2567 แคปชั่นหยุดวันแรงงาน แคปชั่นทำงานวันแรงงานแอตแลนติส มีจริง หรือ แค่สิ่งที่" เพลโตเพ้อฝัน "ประเทศไทยร้อนนักใช่มั๊ย แห่โดราเอม่อน...ขอฝนซะเลยอุจจาระที่แพงที่สุดในโลกเกินไปมั๊ย! มานั่งชิลที่ร้านกาแฟ..แต่ดันจับปลาคาร์ฟในบ่อให้ลูกเล่นชายดวงซวยเกือบตๅย เพราะทำรากฟันเทียมดีเจสาวปล่อยให้แฟนคลับซั่มกลางบาร์
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เกินไปมั๊ย! มานั่งชิลที่ร้านกาแฟ..แต่ดันจับปลาคาร์ฟในบ่อให้ลูกเล่นดราม่า! ดาว TikTok ลาว ทำคอนเท้นต์ลองใจคนไร้บ้านในไทย ใครรับเงิน 1,000 เห็นแก่ตัว? ใครไม่รับจะได้ 3 หมื่นสงครามสมรส...เรตติ้งยืน 1 ทุบละครทุกเรื่องหลุดมาอีกแล้ว AI บอกครบทั้ง6ตัว งวด 2 พฤษภาคม 2567
กระทู้อื่นๆในบอร์ด บันเทิง ดารา
สงครามสมรส...เรตติ้งยืน 1 ทุบละครทุกเรื่องฟ่านปิงปิง สวยเกินต้าน แปลงโฉมงามอย่างสาวตะวันออกกลาง"อีเจี๊ยบ เลียบด่วน" แซว "หนุ่ม กรรชัย" อย่างฮา..ลาบูบู้ หรือจะสู้ลาไปขึ้นศาล!มีดาราสาวคนไหน แต่งหนุ่มแต่งชายได้หล่อเท่มากๆ กันบ้าง?
ตั้งกระทู้ใหม่