#หนังหน้าไม่ได้ บุรีรัมย์-หนุ่มใหญ่อ้างเป็น พ.ต.ท ช่วยเคลียร์คดียาเสพติดเรียก 5 หมื่น ตำรวจตามรวบถึงบ้าน
บุรีรัมย์-หนุ่มใหญ่อ้างเป็น พ.ต.ท ช่วยเคลียร์คดียาเสพติดเรียก 5 หมื่น ตำรวจตามรวบถึงบ้าน
หนุ่มวัย 35 ปีชาวโคราช อ่านข่าวยาเสพติด ก่อนหาข้อมูลญาติผู้ต้องหาทางโชเชียลแล้วโทรติดต่ออ้างเป็น รองสยาม ชุดปราบยาเสพติดบุรีรัมย์ จะช่วยเรื่องคดีเรียก 5 หมื่น ญาติโอน 3 หมื่นเหลือ 2 หมื่นตามมามอบให้รองสยามถึงโรงพัก สุดท้ายความแตกตามล่ารวบตัวสารภาพอยากได้เงินใช้ทำมาเพียงครั้งเดียว ไม่ปักใจเชื่อ
วันนี้ 28 เม.ย. /พ.ต.ท.ไชยา แก้วยก สารวัตร(สอบสวน)สภ.เมืองบุรีรัมย์ นำตัวนายชนะกันต์ ดาวสันเทียะ อายุ 35 ปี ชาว ต.บ้านกอก อ.เมือง จ.นครราชสีมา มาสอบสวนในคดี”ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่า จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”หลังจากตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดบุรีรัมย์ ตามจับกุมได้ที่บ้านพัก จ.นครราชสีมา
โดย พ.ต.ท.สมยศ พื้นชัยภูมิ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ได้ติดตามกลุ่มนักค้ายาเสพติด ที่นำยาบ้ามาส่งในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และสามารถจับกุมคนร้ายและขยายผลไปล่อซื้อ หลายจังหวัดในเขตภาคอีสาน ได้ของกลางในแต่ละพื้นที่เป็นจำนวนมาก
ต่อมาได้มีญาติผู้ต้องหายาเสพติด มาติดต่อขอพบ พ.ต.ท.สยาม เกียรติบรรจง ชุดขยายผลปราบปรามยาเสพติดภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมกับนำเงินสดมามอบให้จำนวนเงิน 20,000 บาท สร้างความมึนงงให้กับชุดจับกุมเป็นอย่างมาก
จึงนำตัวมาสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้ได้โอนเงินให้บุคคลคนหนึ่งไปจำนวนเงิน 30,000 บาท เนื่องจากมีคนโทรศัพท์ไปหาอ้างว่าเป็น”รองหยาม”คือ พ.ต.ท.สยาม เกียรติบรรจง ว่าจะสามารถช่วยเหลือคดียาเสพติดได้ แต่มีค่าใช้จ่าย 50,000 บาท ตกลงจ่ายก่อน 30,000 บาท ที่เหลือให้มาจ่ายอีกที่บุรีรัมย์ จึงนำเงินมาจ่ายให้ตามสัญญา
โดยต่อมา พล.ต.ต.ชัยยุทธ เจียรศิริกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ทราบเรื่องได้สั่งการให้ติดตามคนหลอกให้โอนเงินมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการตำรวจ กระทั่งสามารถสืบสวนจากข้อมูลจนจับกุมตัวมาได้
ขณะที่นายชนะกันต์ ดาวสันเทียะ ผู้ต้องหาให้การสารภาพว่าเป็นคนโทรศัพท์แอบอ้างเป็นตำรวจจริง พร้อมให้การว่าตนเองเล่นอินเตอร์เน็ตกับโทรศัพท์ ได้เห็นเพจ”แจ้งข่าวชาวบุรีรัมย์”เด้งขึ้นมาเมื่อเข้าไปดูพบมีข่าวสารมากมาย และไปพบว่ามีการจับกุมยาเสพติด
จึงเอาชื่อคนร้ายไปค้นหาข้อมูลญาติผู้ต้องหาและตำรวจทางกูเกิล จนกระทั่งรู้เบอร์โทรศัพท์ของญาติผู้ต้องหา ก่อนจะโทรแอบอ้างว่าเป็นรองหยาม”ว่าสามารถช่วยเหลือทางคดีได้ โดยใช้บัญชีธนาคารของเพื่อนน้องสาว ที่ฝากไว้ให้น้องสาวมานานแล้ว แต่ไม่เคยทำมาก่อนครั้งนี้เป็นครั้งแรก ส่วนเงินที่ได้รับโอนได้เอามามอบให้ตำรวจไว้แล้ว 10,000 บาท ที่เหลือจะใช้คืนให้จนครบจำนวน 50,000 บาทต่อไป ตำรวจคาดเคยทำมาก่อน
อย่างไรก็ตามด้านคดีความตำรวจจะต้องดำเนินไปตามข้อกฎหมาย ตามมาตรา 269/5 “ผู้ใดใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่า จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะทำการสอบสวนแล้วฝากขังต่อไป โดยตำรวจไม่ได้คัดค้านการประกันตัวแต่อย่างใด
แหล่งที่มา: https://www.facebook.com/teambigkren/photos/pcb.406564503148812/406564309815498/?type=3&theater