“ถังเบียร์” เกือบไม่ได้รับเล่นละคร เหตุเจอบทครั้งแรกถึงกับถอดใจ
ชิมลางเล่นละครเป็นครั้งแรก ในเรื่องชาติลำชี ของค่ายโคลี่เซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด โดย พรพิมล มั่นฤทัย ทางช่อง 7 HD นักร้องหนุ่ม ถังเบียร์ เอเอฟ 10 หรือ ภูริวัชร์ ธีระชาติ ในบทบาทของเอกพงษ์ แฟนเก่าของนางเอก ยอมรับตอนแรกแค่เห็นบทละครก็เกิดอาการท้อ จนเกือบจะไม่รับเล่นซะแล้ว แต่หลังจากได้ทำงานไปสักพักกับติดใจอยากเล่นเรื่องต่อไปอีก
“เล่นละครเรื่องแรกเกร็งมากครับ ต้องบอกว่าเราไม่ได้เรียนการแสดงเลย เรียนแค่ตอนที่อยู่ในบ้านเอเอฟ แต่พอได้มาเล่นละครจริงๆ ก็เกร็งมาก และก็กลัวมากว่าเราจะไปทำให้นักแสดงท่านอื่นเขาเสียเวลาหรือเปล่า เพราะนักแสดงที่เข้าบทกับเราล้วนแล้วแต่เป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์มาแล้วทั้งสิ้น ทุกคนเก่งหมดเลย ซีนแรกๆ นี่ต้องบอกว่าแข็งเป็นไม้กระดานจริงๆ แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ มันก็เริ่มดีขึ้น แต่ด้วยความที่เป็นเรื่องแรกด้วย ก็หวังว่าเรื่องต่อไปผู้ใหญ่จะเมตตาให้เราได้มีโอกาสพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ครับ
จริงๆ เราเจอพี่ทับทิมเราก็เกร็งอยู่แล้ว คือเราต้องอินกับบท เราต้องทำให้เขาเสียใจ เพราะเราเป็นแฟนเก่าเขาที่ทิ้งเขาไป คือเราเล่นเรายังเกลียดตัวเองเลย ต้องขอบคุณอารัณ ที่ให้โอกาสมาทดลองเล่นละครเรื่องนี้ ขอบคุณพี่โจ้ ผู้กำกับด้วย ที่สอนตั้งแต่เทคนิคมุมกล้องต่างๆ เพราะผมเคยชินกับการคุยกันตรงๆ แต่เวลาเราเล่นละครเราทำแบบนั้นไม่ได้ เราต้องคุยผ่านไหล่เพื่อให้กล้องด้านหลังคนที่เราคุยด้วยเขาจับหน้าเราได้ ซึ่งงงมาก ยากมากตอนแรก เราก็เรียนรู้อะไรเพิ่มมากขึ้นครับ
ตอนแรกที่ได้บทมาร้องไห้เลย เพราะบทมันมาเยอะมาก เป็นตั้งๆ เลยครับ ตอนนั้นจะไม่เอาแล้ว ไม่อยากเล่นแล้ว ขอร้องเพลงอย่างเดียว แต่อารัณบอกว่ามันไม่ได้จำทั้งหมด แค่อ่านทั้งหมดให้รู้ว่าเรื่องมันเป็นไปยังไงเท่านั้น แล้วทำความเข้าใจแค่บทของเรา จำแค่บทตัวละครของเรา ก็เลยโล่งขึ้นหน่อย สบายใจ ตอนละครออนแอร์วันแรกผมไม่ดูเลย ไม่กล้าดู มาดูย้อนหลังเอา โรคจิตเบาๆ ไม่กล้าดูเท่าไหร่ หลายคนอินเวลาเห็นเราในละครเขาก็เข้ามาด่า อีหมอ อีหมอนี่มาอีกแล้ว เราก็ตอบกลับไปว่าขอโทษจริงๆ นะครับ เรารักหมอสาลินีนะแต่เราไม่ได้ตั้งใจ มันพลาดไปแล้ว คิดไปคิดมาก็เหมือนเราอินจริงๆ นี่นา สนุกมากครับ
ตอนนี้ติดใจงานแสดงครับ ชอบแล้ว เราได้เรียนรู้ศาสตร์ใหม่ๆ นอกจากการ้องกับเต้น เพราะเรื่องร้องเรื่องเต้นเราถนัด คือถ้าบอกวันนี้ว่าพรุ่งนี้ให้คิดโชว์ เราก็ทำได้เลย เพราะมันทำมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่การแสดงมันเป็นเรื่องที่เราไม่เคยทำและมันก็ท้าทาย สำหรับผม ณ ตอนนั้นๆ ที่ถ่ายละครผมทำดีที่สุดแล้วในเวลานั้น แต่ถ้ามาทำตอนนี้ก็คงดีกว่านั้น เพราะว่าถ้าเทียบกับคนอื่นเราคงอยู่ในระดับแย่เลย ก็ขอให้ทุกคนเข้าใจผมด้วยครับ ผมก็พยายามเต็มที่แล้ว
แฟนๆ มีเรียกร้องเรื่องต่อไปมาเหมือนกันครับ แฟนๆ อยากให้เล่นละครบู๊ ก็ไหวนะจริงๆผมชอบบู๊เพราะเรียนมวยมาตั้งแต่เด็ก เรียนยูโดตั้งแต่เด็ก แล้วก็เป็นนักกีฬายิมนาสติกด้วย ชอบต่อสู้ ยิงปืน ชกมวยแบบนี้อยู่แล้วตั้งแต่เด็ก แล้วเราก็ไม่ได้กลัวอันตรายอะไรอยู่แล้วครับ ยิ่งมาเริ่มกับค่ายโคลีเซี่ยมด้วย ค่ายนี้มาสายบู๊อยู่แล้ว ยิ่งพี่รัณนี่เรื่องระเบิดภูเขาเผากระท่อมต้องยกให้เลย หวังว่าเรื่องหน้าผู้ใหญ่ที่โคลีเซี่ยมจะเรียกใช้บริหารอีกนะครับ”