ความรุนแรง การลอบสังหารและการฆ่า ในคำสอนของอิสลาม
อิสลามคือศาสนาที่ได้นำเสรีภาพและความสงบสุขมาเป็นของขวัญสำหรับมนุษยชาติ และต่อสู้อย่างจริงจังกับการใช้ความรุนแรง การลอบสังหารและการเข่นฆ่า ศาสนาอิสลามคือศาสนาที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงแนะนำศาสนทูตของพระองค์ว่าเป็นศาสดาแห่งความเมตตาและความเอื้ออาทร โดยตรัสว่า :
وَ ما أَرْسَلْناكَ إِلَّا رَحْمَةً لِلْعالَمِینَ
"และเรามิได้แต่งตั้งเจ้ามา (เพื่ออื่นใด) นอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่สากลโลก" [1]
และมุสลิมก็คือผู้ที่บุคคลอื่นจะปลอดภัยจากการรุกรานและการล่วงละเมิดของเขา ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) กล่าวว่า :
الْمُسْلِمُ مَنْ سَلِمَ الْمُسْلِمُونَ مِنْ لِسَانِهِ وَيَدِهِ،وَالْمُؤْمِنُ مَنْ أَمِنَهُ النَّاسُ عَلَى دِمَائِهِمْ وَأَمْوَالِهِمْ
“มุสลิมนั้นคือผู้ที่บรรดามุสลิมจะปลอดภัยจากลิ้นและมือของเขา และมุอ์มิน (ผู้ศรัทธา) คือผู้ที่ประชาชนจะได้รับการคุ้มครองจากเขาต่อเลือดและทรัพย์สินของพวกเขา" [2]
ตรงข้ามกับสิ่งที่วันนี้ บรรดาศัตรูของอิสลามกำลังพยายามสร้างความเคลือบแคลงสงสัย เพื่อแสดงภาพลักษณ์ของอิสลามให้เห็นว่านิยมความรุนแรงและน่าเกลียดน่ากลัว ประวัติศาสตร์อิสลามในยุคของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่รักสันติและส่งเสริมสันติภาพกับผู้ปฏิบัติตามศาสนาอื่นๆ เสมอมา แม้กระทั่งกับบรรดาศัตรูอิสลามก็แสดงออกเช่นนี้ ยกตัวอย่างเช่น สงครามทั้งหมดของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) คือการทำสงครามเพื่อป้องตนเอง และอิสลามไม่เคยเริ่มต้นสงครามใดๆ ก่อน จนกระทั่งเหตุการณ์การพิชิตนครมักกะฮ์ ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้นิรโทษกรรมชาวมุชริกีน (ผู้ตั้งภาคี) ทั้งหมด
แต่เป็นที่น่าเศร้าใจที่วันนี้สำนักคิดวะฮ์ฮาบี ด้วยกับพฤติกรรมที่ไร้มนุษยธรรมซึ่งแม้แต่สัตว์เดรัจฉานยังไม่แสดงพฤติกรรมในลักษณะเช่นนี้ พวกเขาได้กลายเป็นสาเหตุทำให้บรรดาศัตรูทำการแนะนำให้เห็นภาพลักษณ์ของอิสลามในรูปที่ป่าเถื่อน ชอบความรุนแรงและไร้ตรรกะ โดยผ่านช่องทางเว็บไซต์ เครือข่ายโทรทัศน์ต่างๆ ที่ต่อต้านอิสลาม และการสร้างกระแสต่างๆ โดยการมาของ "มุฮัมมัด บินอับดุลวะฮ์ฮาบ" และบรรดาผู้สนับสนุนของพวกเขา และการปรากฏขึ้นของแนวคิดวะฮ์ฮาบี และด้วยกับการออกฟัตวา (คำวินิจฉัยปัญหาศาสนา) เกี่ยวกับการฆ่าโดยบรรดามุฟตีของพวกเขา ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากจากประชาชาติมุสลิมต้องถูกฆ่าสังหาร
ไม่เพียงแต่ประชาคมมุสลิมเท่านั้นที่โจมตีและถูกคุกคาม ทว่าทุกวันเราจะเห็นการปฏิบัติตามคำสั่งต่างๆ ที่สร้างวิกฤติการณ์ที่เลวร้าย (ฟิตนะฮ์) และการบ่อนทำลายเหล่านี้ ซึ่งผลพวงของมันก็คือ สถานการณ์ที่กำลังพบเห็นอยู่ในซีเรีย เยเมน อิรัก อัฟกานิสถาน ปากีสถานและที่อื่นๆ โดยที่สตรี เด็กและคนชราได้ตกเป็นเป้าโจมตีและการล่วงละเมิด ความไร้ซึ่งความสงบสุขและการฆ่าสังหารทั้งหมดเหล่านี้ เป็นผลมาจากคำฟัตวาต่างๆ ที่ชาววะฮ์ฮาบีได้ฟัตวาออกด้วยแนวคิดที่รุนแรง สุดโต่งและป่าเถื่อนของตน และการออกคำตัดสิน (ฮุกม์) ให้ผู้ที่คิดต่างเป็นกาฟิร (ผู้ปฏิเสธ) ศรัทธา และการฆ่าสังหารฝ่ายตรงข้าม
จำเป็นต้องถามชาววะฮ์ฮาบีว่า ในเมื่อคัมภีร์อัลกุรอานไม่อนุญาตให้ทำสงครามแม้แต่กับศัตรูที่อันตรายที่สุด หมายถึงบรรดามุนาฟิกีน (ผู้หน้าซื่อใจคด) ที่ไม่มีเจตนาจะก่อสงครามและสร้างฟิตนะฮ์ (วิกฤตการณ์ที่เลวร้าย) แล้วไฉนพวกเขาจึงออกฟัตวาให้ทำสงครามและเข่นฆ่าชาวมุสลิมอื่นๆ ในขณะที่คัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวว่า :
فَإِنِ اعْتَزَلُوکُمْ فَلَمْ یُقاتِلُوکُمْ وَ أَلْقَوْا إِلَیْکُمُ السَّلَمَ فَما جَعَلَ اللَّهُ لَکُمْ عَلَیْهِمْ سَبیلاً
“แต่ถ้าพวกเขาถอนตัวออกไปจากพวกเจ้า โดยที่มิได้ทำการสู้รบกับพวกเจ้า และได้เสนอการประนีประนอมต่อพวกเจ้าแล้ว อัลลอฮ์ก็ไม่ทรงเปิดทางใดแก่พวกเจ้าที่จะล่วงละเมิดต่อพวกเขาได้อีก” [3]
และเมื่อคัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวว่า :
وَإِنْ جَنَحُوا لِلسَّلْمِ فَاجْنَحْ لَهَا وَتَوَكَّلْ عَلَى اللَّهِ إِنَّهُ هُوَ السَّمِیعُ الْعَلِیمُ
“และหากพวกเขาโอนอ่อนสู่การประนีประนอมแล้ว เจ้าก็จงโอนอ่อนตามเพื่อการนั้นเถิด และจงมอบหมายต่ออัลลอฮ์ แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงได้ยิน อีกทั้งทรงรอบรู้ยิ่ง” [4]
แล้วไฉน ด้วยหลักฐานอ้างอิงใดๆ เล่าที่ชาววะฮ์ฮาบีจึงได้ฆ่าสังหาร ตัดศีรษะประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ไม่ได้แสดงตนเป็นศัตรูต่ออัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์อย่างเหี้ยมโหดที่สุด ในเมื่อคัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวว่า :
لا تَسُبُّوا الَّذِینَ یَدْعُونَ مِنْ دُونِ اللهِ فَیَسُبُّوا اللهَ عَدْواً بِغَیْرِ عِلْمٍ
"และพวกเจ้าจงอย่าด่าประณามบรรดาผู้ที่วิงวอนขอสิ่งอื่นจากอัลลอฮ์ แล้วพวกเขาก็จะด่าประณามอัลลอฮ์ เป็นการละเมิดโดยปราศจากความรู้” [5]
ตามโองการนี้คัมภีร์อัลกุรอานได้ใช้ให้เราเคารพต่อคำสอนของศาสนาอื่นๆ และห้ามปรามเราจากการด่าทอและประณามหยามเหยียดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาเหล่านั้น แล้วไฉนชาววะฮ์ฮาบีจึงอนุญาตตนเองให้ทำลายเกียรติและล่วงละเมิดต่อสตรีและลูกๆ ของชาวมุสลิมอื่นๆ
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า พฤติกรรมและแนวคิดของชาววะฮ์ฮาบีและกลุ่มดาอิช (ISIS) ซึ่งตรงข้ามและขัดแย้งกับคำสอนต่างๆ ของอิสลาม ศาสนาอิสลามมิใช่ศาสนาที่สนับสนุนความรุนแรง การก่อการร้ายและการฆ่าสังหารอย่างแน่นอน คำสอนของอิสลามและคัมภีร์อัลกุรอานนั้นประณามพฤติกรรมและการกระทำในลักษณะเช่นนี้ และจำเป็นจะต้องรับรู้ไว้ด้วยว่า พฤติกรรมเช่นนี้ของชาววะฮ์ฮาบีและกลุ่มดาอิช (ISIS) ไม่มีความสอดคล้องใดๆ กับคำสอนของอิสลามเลย