โลกออนไลน์ชื่นชม! "ไอซ์ หนุ่มตาบอด" ที่ก้าวข้ามข้อจำกัดของการมองเห็น จนสามารถบรรจุเป็นครูได้..

โลกออนไลน์แชร์เรื่องจริงของครูตาบอดคนหนึ่ง ที่อุตสาหะก้าวข้ามขีดจำกัดทางร่างกาย จนสอบบรรจุเป็นครูได้ โดยบทความดีๆนี้มาจาก  The guidelight ได้โพสท์เล่าเรื่องราวระบุว่า 

#คุณครูตาบอด

“เรามีความสุขทุกครั้งเวลาได้อธิบายเนื้อหาที่ยากๆให้คนอื่น ๆ เข้าใจ ครั้งแรกที่เราได้ลองสอนภาษาอังกฤษให้กับน้องตาบอดด้วยกัน จนเขาสามารถเข้าใจเนื้อหาที่ยากได้นั้น ทำให้เรารู้สึกดีมาก มันทำให้เรารู้ว่าเราอยากที่จะเป็นครู”

นี่คือสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้ ดำเกิง มุ่งธัญญา หรือไอซ์ก้าวข้ามข้อจำกัดทางด้านร่างกายจนสามารถสอบบรรจุเข้าเป็นข้าราชการครูที่โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยได้ในปัจจุบัน

ไอซ์เป็นผู้พิการทางสายตาตั้งแต่แรกเกิด เนื่องจากความผิดพลาดในระหว่างเข้าตู้อบ ทำให้ศูนย์เสียการมองเห็น ปัจจุบันไอซ์สามารถมองเห็นเป็นเพียงแสงและเงารางราง แต่นั่นก็ไม่เป็นอุปสรรคในการเรียนและการทำงานของไอซ์แต่อย่างใด ไอซ์เข้าศึกษาในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพฯ ซึ่งมีการเรียนการสอนเช่นเดียวกับหลักสูตรของคนทั่วไป เพียงแค่สื่อการเรียนการสอนที่ใช้เป็นอักษรเบรลล์ และการส่งการบ้านก็ใช้อักษรเบรลล์เช่นกัน หลังจากจบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพฯ ไอซ์เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเซนต์คาร์เบรียล ไอซ์เล่าว่า ชีวิตการเรียนเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเริ่มเรียนมัธยม โดยที่การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ การที่ไอซ์ต้องส่งการบ้านเป็นตัวอักษรปกติ

“ถ้าเป็นวิชาที่ต้องเขียนลงสมุดส่งครู ไอซ์จะเอากลับมาบ้านให้แม่ช่วยเขียนให้ ส่วนถ้าเป็นรายงานที่ต้องพิมพ์ในคอมพิวเตอร์ ไอซ์สามารถทำเองได้โดยอาศัยโปรแกรมอ่านจอภาพ จะมีต้องให้คนอื่นช่วยบ้าง ก็ตอนจัดรูปภาพ”

แม้จะมีข้อจำกัดในการเรียน แต่ผลการเรียนของไอซ์ก็อยู่ในระดับดีมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่น้อยกว่า 3.50 ขึ้นไปยิ่งไปกว่านั้น ไอซ์ยังสามารถแอดมิชชั่นเข้าเรียนในคณะ ครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้

“ชีวิตการเรียนในมหาวิทยาลัย เราต้องช่วยตัวเองมากขึ้น งานที่ต้องส่งอาจารย์เราสามารถพิมพ์ในคอมพิวเตอร์ได้ทั้งหมด ช่วงนี้เทคโนโลยีช่วยเราได้มาก เอกสารหรือเนื้อหาบางอย่างที่ต้องใช้ประกอบการเรียน เราสามารถค้นหาจากอินเตอร์เน็ตได้”
อย่างไรก็ตามไอซ์ก็ยังคงต้องพบกับข้อจำกัดสำคัญในการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย

“เราต้องอ่านหนังสือเยอะในทุกทุกวิชา แต่หนังสือเหล่านั้นเราต้องหาคนช่วยอ่าน ไอซ์โชคดีที่มีเพื่อนช่วยหลายคน แม้บางวิชาอาจจะช้าไปบ้าง ไอซ์ก็ใช้วิธีหาความรู้เพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ต”

อ่านถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่า ไอซ์ใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตได้อย่างไร สำหรับผู้พิการทางสายตา สิ่งที่จะช่วยให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ก็คือ โปรแกรมอ่านหน้าจอภาพ ซึ่งจะสามารถอ่านข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอออกมาเป็นเสียงให้ฟังได้ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์จากไมโครซอฟต์เวิร์ดหรือข้อความบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ดังนั้นหากมีไฟล์ text ของหนังสือทุกเล่ม ไอซ์และผู้พิการทางสายตาคนอื่น ๆ ก็จะไม่ต้องรอให้คนอื่นมาอ่านหนังสือให้ฟัง

ความท้าทายสำคัญอีกประการต่อชีวิตการเรียนและการทำงานของไอซ์คือการฝึกสอน ไอซ์ไปฝึกสอนที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯและโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ซึ่งเป็นโรงเรียนของคนปกติ

“อย่างแรกเลยที่เจอคือเรื่องหนังสือที่ใช้ในการเรียนการสอนที่โรงเรียนไม่มีไฟล์ที่ไอซ์จะอ่านได้ ตรงนี้อาจารย์ได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการให้รุ่นน้องเอกการศึกษาพิเศษมาช่วยพิมพ์หนังสือเล่มนั้นให้ และไอซ์ก็อ่านก่อนที่จะเริ่มสอน”

แล้วจะสอนยังไงละ? เขียนบนกระดานให้ดูก็ไม่ได้

“ไอซ์ทำพาวเวอร์พอยท์เป็นหลัก เนื้อหาส่วนใหญ่ เราพิมพ์เองได้ อาจจะต้องให้คนอื่นช่วยบ้างก็ตรงการจัดหน้าและรูปภาพประกอบ ใส่วิดีโอที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องเข้าไป วิดีโอนี่เราไม่ต้องให้คนอื่นช่วย เราฟังและเลือกได้ว่าอันไหนมีเนื้อหาสอดคล้องกับที่จะต้องสอน เวลาเขียนบนกระดานให้เด็กดู ก็พิมพ์ลงในพาวเวอร์พอยท์ที่เตรียมนั่นแหละ”

ด้วยความพยายามและความตั้งใจอันมั่นคงที่ต้องการเป็นครู ไอซ์สามารถสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย ด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง ภายหลังสำเร็จการศึกษา ไอซ์ได้พยายามสอบบรรจุเข้าเป็นข้าราชการครู และแม้ว่าจะมีความลำบากในขั้นตอนของการสอบเขาก็ยังสามารถสอบผ่านได้ในอันดับที่สี่ของจำนวนทั้งหมด

“ไอซ์เลือกที่จะกลับมาสอนที่โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย เพราะไอซ์ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก คุณครูในหมวดคุ้นเคยกันดี นักเรียนหลายคนที่เคยสอนและประทับใจการเรียนกับครูไอซ์ก็ยังอยู่ สภาพแวดล้อมในโรงเรียนที่คุ้นเคยทำให้สามารถมาสอนได้”

#อุปสรรคในการทำงานของไอซ์

“เริ่มแรกเลยมีความกังวลจากทางผู้ใหญ่ว่า ไอซ์จะไม่สามารถคุมห้องเรียนได้ นักเรียนอาจจะไม่ตั้งใจเรียนทำกิจกรรมอื่นขณะเรียน โดยที่ไอซ์ไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ไอซ์เชื่อมั่นว่าไอซ์ทำได้ มันอาจจะไม่ได้ 100 % แต่ไอซ์ก็มีวิธี ยกตัวอย่าง ถ้าเด็กแอบเล่นมือถือในห้อง ไอซ์ก็จะไม่รู้ ดังนั้นไอซ์จึงใช้วิธี ให้นักเรียนที่คิดว่าจะควบคุมตัวไม่ให้เล่นมือถือในห้องไม่ได้ เอามือถือมาฝากไว้ก่อน หรือถ้าเด็กคุยกันในห้องอันนี้ไอซ์ได้ยินสามารถควบคุมได้ ไอซ์พยายามจำเสียงนักเรียนให้ได้ พอเวลานานไปก็เริ่มจำได้มากขึ้น อาจจะไม่ทุกคน แต่ก็พอจำได้ นอกจากนี้ไอซ์ยังใช้วิธีเดินไปทั่วห้องเรียน เพื่อให้เด็กตื่นตัวอยู่เสมอ”

#แล้วตรวจการบ้านยังไง

“ส่วนใหญ่จะให้นักเรียนส่งการบ้านทาง Facebook หรือ Google form เป็นหลัก ซึ่งอันนี้เราสามารถตรวจเองได้ แต่ก็มีข้อจำกัดเวลาเป็นข้อสอบอัตนัย อันนี้ต้องให้ครูท่านอื่นช่วยตรวจ เพราะนักเรียนเขียนลงกระดาษ”

ดูเหมือนการเป็นครูของไอซ์จะมีความท้าทายหลายอย่าง แล้วอะไรเป็นความสุขหรือกำลังใจให้ไอซ์ยังคงทำหน้าที่ครูต่อไป ความสุขของการเป็นครูไม่ได้มีเพียงการสอนหนังสือแล้วเด็กเข้าใจ แต่มันทำให้ไอซ์รู้สึกว่าเรามีค่า เวลาที่เราได้ให้คำปรึกษากับนักเรียนที่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องความรัก ครอบครัว มันมีความสุขเสมอที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้คนเหล่านั้นผ่านเรื่องยากๆนี้ไปได้”

“ความสุขมันอยู่กับเด็ก ๆ เจอปัญหาหรือเรื่องยากลำบากแค่ไหน แต่เวลาเรามองย้อนกลับมาว่าเราทำทุกอย่างนี้เพื่อใคร อ่อเราทำไปเพื่อเด็ก ๆ นะ เราก็จะมีกำลังใจต่อสู้กับเรื่องยากยากต่อไปเสมอ”

#ความคาดหวังในอีกสิบปีข้างหน้า ไอซ์มองอนาคตตัวเองอย่างไรบ้าง

“ไอซ์คิดว่าในอนาคตอีกสิบปี เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มันก้าวหน้า จะช่วยให้เราสามารถสอนหนังสือได้ดีขึ้น ทำอะไรหลายหลายอย่างด้วยตัวเองได้มากขึ้น เพื่อให้การเรียนการสอนของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น เด็ก ๆ ที่เรียนกับเราสามารถเข้าใจเนื้อหาที่เราสอนได้ดีขึ้น และที่สำคัญ อยากเห็นนักเรียนของเราที่วันนี้เป็นนักเรียนตัวเล็ก ๆ ในอีกสิบปี เรียนจบปริญญาตรีมีงานดีดีทำ นั่นคือเป้าหมายสำคัญที่เราอยากเห็นในอีกสิบปีข้างหน้า “

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก - The guidelight