แอลพีเอ็น ขึ้นราคาบ้าน สะเทือนถึงดวงดาว
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้เปิดเผยว่าการที่บ้านราคาถูกไม่มีแล้วเพราะกำลังซื้อไม่มี ด้วยเหตุเพราะเศรษฐกิจตกต่ำ ไม่ได้ดีเช่น ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี อ้างแต่อย่างใด
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ บมจ.แอลพีเอ็น ดีเวลลอปเมนท์ เมื่อปี 2558 ยังเสนอขายห้องชุดใหม่ในราคา 1.119 ล้านบาท ปี 2559 เสนอขายราคาใกล้เคียงกันคือ 1.127 ล้านบาท แต่พอมาปี 2560 ราคาเฉลี่ยเพิ่มชัดเจนเป็น 2.602 ล้านบาท นี่ถือเป็นการปรับกลยุทธ์ครั้งสำคัญของ บมจ. แห่งนี้จาก ‘ขวัญใจคนจน’ ขึ้นไปสู่กลุ่มคนชั้นกลางนั่นเอง
กรณีนี้ยังชี้ให้เห็นว่าผู้มีรายได้น้อยไม่มีกำลังซื้อ บมจ.แอลพีเอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จึงไม่สามารถสร้างบ้านราคาถูกได้อีกต่อไป ต้องหันไปขายบ้านให้คนระดับกลางที่ยังได้รับผลกระทบน้อยกว่า หรือระดับสูงที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ กรณียังนี้ชี้ว่าเศรษฐกิจไม่ดี ราคาสินค้าเกษตรกรรมทั้งข้างและยางพารายังตกต่ำต่อเนื่อง ทำให้กำลังซื้อทั่วประเทศลดลงอย่างเด่นชัด
กรณีนี้ในแง่หนึ่งอาจทำให้ ดร.สมคิดและคณะเห็นว่าสินค้าระดับล่างเป็นช่องงว่างที่รัฐบาลควรเข้าไปช่วยเหลือ แต่ในเมื่อในตลาดเปิดทั่วไปทำไม่ได้ หากรัฐบาลเข้าไปแทรกแซงก็คงทำให้ตลาดบิดเบือน และช่วยเหลืออย่างไม่มีประสิทธิภาพ เป็นแค่ผักชีโรยหน้า เป็นเพียงการเข้าไปช่วยได้เล็กน้อย ไร้ประสิทธิผล
อย่างเช่นเมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าว “. . .ครม.ทุ่ม 4 พันล้านผุดบ้านคนจน เซ้งยาว 30 ปีจ่าย 3.5 แสนบาท” (http://bit.ly/2Dr5Bbm) ต้นทุนที่ 5,000 ล้านบาท สามารถสร้างที่อยู่อาศัยได้เพียง 2,757 หน่วย หรือเป็นเงินหน่วยละ 1.814 ล้านบาท ถ้ารวมต้นทุนที่ดินด้วยแล้ว อาจมีมูลค่าถึง 3 ล้านบาท เงินจำนวนนี้หากผ่อนชำระ ณ อัตราดอกเบี้ย 6% ก็จะเป็นเงินปีละ 180,000 บาทหรือเดือนละ 15,000 บาท การขายราคาต่ำกว่าทุนก็เท่ากับทำได้แค่จำนวนน้อยนิด คนที่ได้ไปก็คือพวกที่ได้เปรียบในสังคม (คงเน้นให้พวกข้าราชการก่อน)
การสร้างขึ้นมาก็จึงเป็นเพียงเพื่อให้เห็นว่าได้ทำอะไรบางอย่างเพื่อคนจนแต่ไร้ประสิทธิผลเพราะทำได้จำนวนน้อยนิด อันที่จริง หากนำเงิน 5,000 ล้านบาท (ยังไม่รวมค่าที่ดิน) ที่คิดจะลงทุนผิดๆ เช่นนี้ ไปฝากธนาคารไว้ ณ อัตราดอกเบี้ย 3% ก็จะได้ดอกผลเป็นเงินปีละ 150 ล้านบาท จะช่วยสนับสนุนคนจนจริงๆ ที่ไม่ใช่ข้าราชการเป็นเงินเดือนละ 2,500 บาทเป็นค่าเช่าบ้านโดยให้ไปเช่าในตลาดเปิด ก็จะสามารถสนับสนุนได้ถึง 5,000 หน่วยในหนึ่งปี มากกว่าที่ ดร.สมคิดคิดสร้างใหม่เกือบเท่าตัว
ถ้าเราเข้าใจผิด ก็ย่อมทำให้การวิเคราะห์ตลาดผิดพลาด นำไปสู่การคิดค้นมาตรการที่ผิดเพี้ยน ดังที่ ดร.สมคิด กำลังทำอยู่
ที่มา: https://goo.gl/atjQeu