หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เศรษฐีกับยมทูต “เมื่อผมตายไปแล้ว ผมจะได้ขึ้นสวรรค์หรือตกนรกครับ?”

โพสท์โดย K A R A R A T E E

 

เศรษฐีกับยมทูต

เศรษฐีคนหนึ่งกำลังจะสิ้นใจตาย ยมทูตได้ปรากฏกาย
เพื่อมารับวิญญาณของเขา
เขาได้ถามยมทูตว่า
“เมื่อผมตายไปแล้ว ผมจะได้ขึ้นสวรรค์หรือตกนรกครับ?”
“ตกนรก!” 
ยมทูตกล่าว
เศรษฐีเมื่อได้ฟังก็รู้สึกโมโหเป็นอย่างยิ่ง จึงถามยมทูต
ขึ้นว่า
“ทำไมผมต้องตกนรก! ในเมื่อผมนำเงินสร้างวัดสร้าง
โบสถ์สร้างโรงเรียนไว้มากมาย อีกทั้งบริจาคเงินให้แก่
องค์กรสังคมสงเคราะห์ต่างๆ ทำไมผมยังต้องตกนรก 
ผมไม่ยอม!”
“หากเจ้ารู้สึกไม่พอใจ ข้าจะให้เวลาเจ้าอีกหนึ่งอาทิตย์ 
ภายในหนึ่งอาทิตย์นี้ หากเจ้าได้รอยยิ้มจากความจริง
ใจเพียงสามครั้ง เจ้าก็สามารถขึ้นสวรรค์ได้!”
เศรษฐีได้ฟังรู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่ง เขาคิดในใจ
“กะอีแค่รอยยิ้มจากใจเพียงแค่สามครั้ง มันจะไปยาก
อะไร!”

เมื่อยมทูตหายไป เขานิ่งคิดว่าใครเป็นคนแรกที่จะมอบ
รอยยิ้มจากความจริงใจให้กับเขาเป็นคนแรก ใบหน้า
ของภรรยาก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพ เขาและเธอแต่ง
งานกันมาสี่สิบกว่าปี เธอนี่แหละที่จะมอบรอยยิ้มจาก
ใจให้เขาเป็นคนแรก เขาจึงใช้เงินเป็นจำนวนมากซื้อ
เครื่องเพชรชุดใหญ่มอบให้แก่ภรรยาของเขา เมื่อภรร
ยาได้รับของขวัญเป็นเพชรชุดใหญ่ก็ดีใจและประหลาด
ใจเป็นอย่างยิ่ง

แต่ยมทูตบอกกับเขาว่า
“นี่ไม่ใช่รอยยิ้มจากความจริงใจ เธอเพียงแค่ดีใจที่ได้
เครื่องเพชรชุดใหญ่ก็เท่านั้นเอง”

เศรษฐีรู้สึกประหลาดใจกับคำบอกของยมทูตเขาจึงซื้อ
รถซื้อบ้าน อีกทั้งสิ่งที่คิดว่าภรรยาจะต้องชอบให้แก่เธอ 
แต่เป็นที่น่าประหลาด ภรรยาของเขาดีใจและรอยยิ้มที่
เธอมอบให้เขานั้น ยังไม่ใช่รอยยิ้มจากใจจริงที่ยมทูต
ต้องการ

เวลาผ่านไปเป็นวันที่สามแล้ว เศรษฐียิ่งรู้สึกกระวนกระ
วายใจ เพราะเขาเหลือเวลาอีกเพียงแค่สี่วันเท่านั้น คน
ที่เขาคิดว่าจะได้รอยยิ้มจากใจเป็นคนแรก กลับไม่ง่าย
ดังที่เขาคิดไว้

เช้าวันที่สี่เขาลุกจากที่นอนตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อคิดว่าตน
เองจะต้องตายในอีกสามวันข้างหน้า สิ่งที่เขาควรมอบ
ให้แก่ภรรยาก็ได้ทำไปหมดแล้ว เขาเดินคิดไปจนเข้า
มาในครัว เขาหยิบกระทะขึ้นมาทอดไข่และไส้กรอก
จากนั้นก็ทำการปิ้งขนมปัง เขาลงมือทำอาหารเช้าที่
ไม่ได้ทำมาเป็นเวลานาน

เมื่อภรรยาของเขาลงมาจากชั้นบน เห็นสามีอันเป็นที่
รักเข้าครัวทำอาหารเช้า ก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่าง
ยิ่ง เพราะเธอมีแม่บ้านอยู่หลายคน ที่คอยเตรียมสิ่ง
เหล่านี้ ให้โดยไม่ต้องลำบากให้สามีของเธอลงมือทำ
เอง

เศรษฐีนำอาหารเช้าวางไว้บนโต๊ะและเชิญภรรยาทาน
อาหารเช้าที่เขาเป็นคนเตรียมให้ เมื่อเธอตักอาหารคำ
แรกเข้าปาก เธอก็นำตาร่วงและยิ้มออกมาให้กับเขา
“ที่รักคะ คุณยังจำตอนที่เราเริ่มสร้างครอบครัวได้ไหม 
ตอนนั้นเรายังยากจน คุณทำอาหารเช้าง่ายๆแบบนี้ให้
ฉันทานทุกเช้าเลย ฉันดีใจที่เช้านี้ได้ทานอาหารฝีมือ
ของคุณอีกครั้งค่ะ”

ในขณะนั้น เศรษฐีสัมผัสได้ว่า รอยยิ้มของภรรยาเป็น
รอยยิ้มที่แสนสวยงามเป็นพิเศษ แม้เธอยังไม่ได้แต่ง
หน้าทำผม แต่รอยยิ้มของเธอ ช่างดูบริสุทธิ์จริงใจ 
เศรษฐีเข้าใจในทันทีว่า หลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคย
ได้ใช้ชีวิตทานอาหารเช้ากับภรรยาเลย จึงลืมไปแล้ว
ว่า สิ่งที่เธอต้องการจากเขาจริงๆในตอนนี้ก็คือความ
ใส่ใจนั่นเอง และในเช้านั้น ยมทูตก็ได้บอกกับเขาว่า
“เจ้าได้รอยยิ้มจากใจแล้วหนึ่งครั้ง!”

สายของวันนั้น เขาเข้าบริษัทและหวังว่าจะได้รอยยิ้ม
จากใจเป็นครั้งที่สองจากลูกน้องคนสนิท เขาเรียก
ลูกน้องคนสนิทเข้ามาพบที่ห้อง
“ผมตัดสินใจเลื่อนตำแหน่งให้คุณเป็นรองกรรมการผู้
จัดการใหญ่และมอบหุ้นของบริษัทส่วนหนึ่งให้แก่คุณ ”
ลูกน้องคนสนิทดีใจเป็นอย่างยิ่ง ใบหน้าของเขาตอน
นี้เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ได้แต่ยืนโค้งคำนับ กล่าวคำ
ขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เศรษฐีกลับรู้สึกว่ารอย
ยิ้มของลูกน้องคนสนิทยังมีความทุกข์ใจปนอยู่

เศรษฐีได้แต่งตั้งลูกน้องคนสนิทให้ดำรงตำแหน่งรอง
กรรมการผู้จัดการใหญ่ และมอบหุ้นของบริษัทจำนวน
หนึ่งให้แก่เขา แต่เศรษฐีก็ยังไม่ได้รอยยิ้มจากใจของ
ลูกน้องคนนี้เลย

เช้าวันที่เจ็ด เศรษฐีเรียกลูกน้องคนสนิทเข้ามาพบ 
เศรษฐีแจ้งให้ลูกน้องคนสนิททราบว่า ได้เซ็นอนุมัติ
ให้เขาลาพัก พร้อมตั๋วเครื่องบินไปกลับห้าใบสำหรับ
เขาและลูกเมีย

“คุณทำงานเหมือนขายชีวิตให้ผมมานาน ผมไม่เคย
ให้คุณได้พักผ่อนอยู่กับลูกเมียเลย ผมให้คุณพักอยู่
กับลูกเมียเป็นเวลาหนึ่งเดือน พร้อมตั๋วเครื่องบินไป
ฮาวายห้าใบ พาลูกเมียไปพักผ่อนนะ”
ลูกน้องคนสนิทรู้สึกเซอร์ไพรส์มากจากสีหน้าที่เคร่ง
ขรึมเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่อ่อนโอนและอบอุ่นขึ้นในทัน
ที เขายิ้มออกมาด้วยสีหน้าผ่อนคลายมันเป็นรอยยิ้ม
ที่เขาไม่เคยเห็นจากลูกน้องคนนี้มาก่อน ทำให้เขาก็
รู้สึกสบายใจไปด้วย

“ขอบพระคุณท่านมากครับ ผมไม่ได้พาลูกเมียไปพัก
ผ่อนนานแล้วสินะ พวกเขาคงคิดว่าหัวใจของผมทำ
ด้วยเหล็กที่แทบไม่มีความรู้สึกเหมือนพ่อคนอื่นๆ ผม
จะทำตามที่ท่านเมตตาครับ ขอบพระคุณท่านอีกครั้ง
ครับ!”
สิ้นเสียงของลูกน้องคนสนิท ยมทูตก็ได้กระซิบบอก
เขาว่า
“เจ้าได้รอยยิ้มจากใจเป็นครั้งที่สองแล้ว”

เศรษฐี เพิ่งได้รอยยิ้มแห่งความจริงใจเพียงแค่สอง
ครั้ง แต่ทว่าเวลาของเขาก็เหลือไม่ถึงวันแล้ว เศรษฐี
ได้แต่ทอดถอนหายใจ

“เราคงต้องยอมรับความจริงแล้วสินะ!” 
เศรษฐีเอ่ยกับตัวเอง
เพราะทั้งภรรยาและลูกน้องคนสนิท เขาต้องใช้เวลา
ไปตั้งเจ็ดวันถึงจะได้รอยยิ้มจากความจริงใจของเธอ
และเขา หากเป็นเช่นนี้เขาคงต้องยอมรับที่จะต้องตก
นรกอย่างไม่มีทางเลือกอื่น เมื่อเขานึกถึงนรกจิตใจก็
หดหู่เศร้าสร้อย เขาตัดสินใจถอดสูทที่สวมอยู่ออก 
จากนั้นก็เดินออกจากบริษัทเพื่อนั่งรถเมล์ไปเที่ยวยัง
ที่ต่างๆ

เขารู้สึกถึงบรรยากาศเก่าๆสมัยสร้างเนื้อสร้างตัวร่วม
กับภรรยา บรรยากาศแบบนี้ เขาไม่ได้สัมผัสมาเป็น
เวลานานแล้ว เพราะโดยปกติ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน 
ก็จะมีรถยนต์คันหรูพร้อมคนขับ อีกทั้งเอกสารที่จะ
ต้องเซ็นอนุมัติมากมาย เขาแทบจะหาเวลาว่างเดิน
ทอดน่องเพียงลำพัง ในตรอกซอกซอยอย่างนี้ไม่ได้ 
เขาคิดว่า ไหนๆอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ก็ต้องถูกยม
ทูตพาไปนรกแล้ว ก็เสพสุขช่วงเวลาที่เหลือนี้ให้
เพียงพอก็แล้วกัน ณ ขณะนั้น จิตใจเขาปลอดโปล่ง
โล่งสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เขาเดินอยู่บนถนนที่มีผู้คนสัญจรไปมามากมาย แล้ว
เขาก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งร้องไห้อยู่บนฟุตบาท 
ไม่มีใครสนใจเด็กหญิงคนนี้เลย เพราะต่างคนต่างก็
รีบเร่งกันทั้งนั้น
“ไหนๆก็จะตายแล้ว เราลองถามเด็กคนนี้ก็แล้วกัน ว่า
เธอร้องไห้ทำไม?” 
คิดแล้วก็เดินเข้าไปหาเด็กหญิงคนนั้น เด็กน้อยพลัด
หลงกับพ่อแม่ จึงตกใจร้องไห้ เมื่อเขารู้ความจริงก็
พาเธอไปที่สถานีตำรวจ และแจ้งว่ามีเด็กพลัดหลง
กับพ่อแม่ที่ตลาด ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดต่อประสาน
งานกับพ่อแม่

เศรษฐีนั่งรอพ่อแม่ของเด็กน้อยให้มารับ ด้วยจิตใจ
จดจ่อ เขาเพ่งมองไปที่นาฬิกา เวลาของเขาใกล้จะ
หมดแล้วสินะ เมื่อพ่อแม่ของเด็กน้อยเดินขึ้นมาที่
โรงพัก สามคนพ่อแม่ลูกวิ่งเข้ามากอดกันกลมและ
ร้องไห้ดังสนั่นโรงพัก

เขามองภาพนั้นด้วยความรู้สึกปิติ และอิ่มเอิบในหัว
ใจ
“โธ่เอ๊ย การได้ช่วยเหลือคนอื่นมันเป็นความสุขอย่าง
นี้นี่เอง!” 
เขาอุทานขึ้นมาเบาๆ
แต่เขาก็ต้องหุบยิ้มนั้นทันทีเพราะยมทูตได้ปรากฏตัว
อยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
เขายื่นมือให้กับยมทูต แต่ทว่า ยมทูตกลับส่ายหัวให้
กับเขา
“เจ้าไม่ต้องลงนรกกับข้า เพราะเจ้ามีคุณสมบัติขึ้น
สวรรค์แล้ว!” 
ยมทูตกล่าวขึ้น
เขาเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ฟัง
“ท่านว่าอะไรนะ?” 
เขาถามอย่างลนลาน
“รอยยิ้มที่เกิดจากความจริงใจครั้งที่สามครบแล้ว”
ยมทูตยื่นกระจกเงาให้เขามองใบหน้าของตนเอง 
พลางพูดว่า
“ที่จริงมันเกิดได้เมื่อสักครู่หนึ่งแล้ว!”

เศรษฐีมองตัวเองในกระจกเงา จากใบหน้าอันเคร่ง
ขรึมเศร้าหมองไร้ราศี บัดนี้เปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอิบ 
และมีรอยยิ้มอยู่ที่มุมปาก มันไม่ใช่ใบหน้าของกรรม
การผู้จัดการใหญ่ใจยักษ์แต่มันเป็นใบหน้าของคุณลุง
คนหนึ่ง ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา เขาเห็นรอยยิ้ม
แห่งความจริงใจนั้นบนใบหน้าของตนเอง

“ใจของเจ้าเปลี่ยนไปแล้ว ไม่มีเหตุผลใดที่ข้าจะต้อง
พาเจ้าไปยังนรก แต่ทว่าเทวทูตยังไม่มารับเจ้า นั่น
แปลว่าเจ้ายังพอมีเวลาที่จะสร้างความดีในโลกนี้ได้
อีก” 
พูดจบ ยมทูตก็หายวับไปกับตา
“ที่แท้ รอยยิ้มที่สามอยู่ที่ตัวข้าเองหรือนี่?” 
เศรษฐีกวาดสายตามองออกไปนอกสถานีตำรวจด้วย
ความอิ่มเอิบใจ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
K A R A R A T E E's profile


โพสท์โดย: K A R A R A T E E
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
28 VOTES (4/5 จาก 7 คน)
VOTED: doctorsopon, แมวอเวจี, มาราธอน
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สิ้นแล้ว! "ทวี ไกรคุปต์" บิดาของ "เอ๋ ปารีณา"iPhone รุ่นประหยัดมาแล้ว!ไปซื้อน้ำแข็งแต่สิ่งที่ได้มาด้วยคือเจ้าตัวนี้วันนี้ที่รอคอย! กอดทั้งน้ำตา..หนุ่มตามหาแม่แท้ๆ นานกว่า 29 ปีจนเจอชาวมุสลิมตันหยงมัสปลื้มใจบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ไม่แบ่งแยกศาสนาสหภาพยุโรปคว่ำบาตร กลุ่มหัวรุนแรงอิสราเอล"คีอานู รีฟส์" รู้สึกเซอร์ไพรส์..หลังแบคทีเรียสายพันธุ์ใหม่เป็นชื่อตนเองเกมพลิก!! เมื่อหนุ่ม ๆ เเอบเเม่ไปหาปลา เกือบโดนด่า เเต่พอเห็นลูกได้ปลาตัวใหญ่กลับบ้าน เสียงเปลี่ยนทันทีเลยนะเเม่5 อันดับคณะที่เรียนยากที่สุด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ไปซื้อน้ำแข็งแต่สิ่งที่ได้มาด้วยคือเจ้าตัวนี้สิ้นแล้ว! "ทวี ไกรคุปต์" บิดาของ "เอ๋ ปารีณา""คีอานู รีฟส์" รู้สึกเซอร์ไพรส์..หลังแบคทีเรียสายพันธุ์ใหม่เป็นชื่อตนเอง
ตั้งกระทู้ใหม่