7 ลุครันเวย์ คอลเลคชั่น แรงบันดาลใจสำหรับปี 2018 มีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ
7 ลุคจากรันเวย์ คอลเลคชั่น Resort 2018 แรงบันดาลใจสำหรับเทรนด์ปีหน้า
แม้เดือนกันยายนจะเป็นช่วงเวลาที่ใบไม้ร่วงโรย แต่วงการแฟชั่นกลับคึกคักผลิบาน เพราะเป็นเดือนแห่งการเปิดฤดูของทุกแบรนด์ที่จะมาประชันผลงานสุดครีเอทของตัวเอง ปกติเรามักจะคุ้นเคยกับคอลเลคชั่นหลักประจำปีอย่าง Spring/Summer และ Autumn/Winter กันใช่มั้ย? แต่เราอยากจะพาคุณไปสอดส่องคอลเลคชั่นพิเศษของแบรนด์ชั้นนำดูบ้าง เพื่อไม่ให้ตกขบวนรถไฟแห่งเทรนด์! อาจไม่ค่อยคุ้นเคยกับคำนี้ เพราะ Resort Collection นั้นเป็นคอลเลคชั่นพิเศษที่จะเกิดในช่วงปลายวินเทอร์ และก่อนเข้าซัมเมอร์ หรือบอกเป็นนัยว่าฤดูหนาวกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วนะ หาแรงบันดาลใจใหม่ๆ มาแต่งให้สนุกเตรียมตัวรับหน้าร้อนดีกว่า! เมื่อเทรนด์มันเป็นอย่างนี้ นี่คือ 7 ลุคจาก รันเวย์ คอลเลคชั่น Resort 2018 ที่คุณควรต้องรู้
Review: เฟนดิไม่ทิ้งซิกเนเจอร์ของตัวเองเพราะยังมีเฟอร์เข้ามาเป็นส่วนประกอบในคอลเลคชั่นนี้ หากแต่งเติมด้วยลายปักดอกไม้เข้ามาเพิ่มความเป็นเฟมินีนมากขึ้น ด้วยภาพจำแห่งแบรนด์แฟชั่นที่ชอบทำอะไรสุดโต่ง ทุกอย่างในคอลเลคชั่นนี้จึงไม่ได้เหนือความคาดหมายอะไรไปมาก ยังคงเป็นความลักชั่วรี่แบบ Joie de Vivre บางตัวจับเอเลเม้นท์บางจุดของเสื้อผ้าผู้ชายมาใช้ พร้อมสีสะท้อนแสง พร้อมบ็อกซี่แจ๊คเก็ต ให้ความรู้สึกเด็กลง สนุกนาน และเพิ่มความมัสคิวลีนได้บางๆ ยังมีบางตัวที่เป็นเดรสสีครีมปักลายดอกไม้สีฟ้าเลื้อยจากล่างไปถึงบนจนถึงขอบคอเสื้อ ตัวนี้ดี เข้ากับเมืองไทยมากๆ
What I like: คอลเลคชั่นนี้เขามีลูกเล่นเป็นริบบิ้นและไข่มุกขนาดใหญ่ เราเลยชอบแจ๊คเก็ตสีน้ำตาล ข้างหลังปักลายคำว่า FENDI มีริบบิ้นรูปโบว์สีดำ และปักไข่มุกเม็ดโตไล่เส้นไปจนเต็ม เก๋มาก
(Get the look: Fendi ชั้น G ห้างสรรพสินค้า The Emporium)
2. Moschino
Review: ต้นปีหน้าเราจะเซ็กซี่แบบทีดีเทลส์ ด้วยผลงานสุดคูลจาก เจเรมี่ สก็อต ดีไซเนอร์ที่ชอบเล่นกับลวดลาย ความแปลกประหลาด และไอเดียสุดบรรเจิดที่คนในวงการแฟชั่นรับงานเขาได้แล้ว! แต่เรากลับแปลกใจกับ Resort Collection จาก Moschino นิดนึงตรงที่ว่า ทุกชิ้นดูใส่ได้จริงและเข้ากับเมืองไทยมากๆ อาจเป็นเพราะแรงบันดาลใจของเขานั้นมาจาก 2 เมืองสุดคึกคักในอเมริกา นั่นก็คือ L.A. และ Las Vegas ผลงานของเขาเลยมีลูกเล่นที่แอบเซ็กซี่ ผสมกลิ่นอายคาวบอยและไบเกอร์แบบอเมริกัน แถมยังเน้นเดนิมเป็นหลักอยู่หลายตัว ส่วนกางเกงขากระดิ่งก็กลับมาอีกแล้วนะ
What I like: เดรสสีฟ้าน่ารักมาก ดูใส่ง่าย ใส่สบาย ไปได้ทุกที่ แถมมีลูกเล่นแพตช์เวิร์กแบบปริ๊นท์ แล้วตัดแปะลงไปบนเดรสอีกที ใส่ไปทะเลได้สบายๆ เลย
3. Chloé
Review: คอลเลคชั่นล่าสุดจาก โคลเอ้ อาจไม่ตู้มต้ามเท่าแบรนด์อื่น เพราะกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และผ่านการออกแบบมาจากหลายคน แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปท์ความเรียบหรูดูดีได้อยู่ สิ่งที่ทำให้เราสนใจ ไม่ใช่เสื้อผ้าแบบโบฮีเมียน หรือการเลือกใช้ Block-Printed มาอยู่ในงาน แต่กลับเป็นสเว็ตแพนท์ผ้านิตหน้าตาธรรมดาหนึ่งตัวที่แปะโลโก้ขนาดใหญ่ไว้ตั้งแต่ไหล่ซ้ายถึงไหล่ขวา คล้ายตัวอักษรที่เขียนด้วยมือไหลไปเรื่อยๆ มีลูกเล่นที่ตัว h กลับหัว อยากสนุกขึ้นมาบ้างแล้วใช่มั้ย?
What I like: คือเสว็ตแพนท์ที่เราเพิ่งพูดถึงไป แต่ถ้าไม่นับตัวนี้ เดรสลายโบฮีเมี่ยนเล่นเลเยอร์ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลย
(Get the look: Chloé ชั้น M ห้างสรรพสินค้า The Emporium)
4. Givenchy
Review: พลังงานของ Givenchy ในคอลเลคชั่นนี้นั้นดีมาก สิ่งที่ต้องยอมศิโรราบและนับถือเขาเลยก็คือโครงสร้างของเสื้อผ้าที่เด่นชัดและทำออกมาได้ดีมากๆ แรงบันดาลใจไม่ใช้ที่ไหนไกล หากแต่เป็น โรม เมืองหลวงของประเทศอิตาลี ต้นกำเนิดของแบรนด์นี้ สำหรับ Resort Collection นี้แบ่งโทนสีออกมาอย่างชัดเจน เด่นสุดเห็นจะเป็น แดง ขาว น้ำเงิน ที่เขาตั้งใจตีความคำว่า Urban ให้ออกมาดูคูลๆ เสริมลวดลายบางจุดคล้ายลายหินอ่อนให้สมกับเป็นแบรนด์อิตาเลียนซะหน่อย
What i like: เราชอบตัวนี้ จั๊มพ์สูทสีน้ำเงินที่มีช่องกระเป๋าอยู่รอบตัว ความสนุกในช่วงหลังฤดูหนาวที่อากาศยังเย็นอยู่ แต่อยากกระโจนไปหน้าร้อนเต็มทีแล้ว ข้อดีของจั๊มพ์สูทคือใส่ได้หลายแบบ จะใส่เต็มตัว หรือใส่แค่ครึ่งล่างแล้วด้านบนเป็นทีเชิ้ตสวยๆ ก็ได้
5. Balmain
Review: อุทานดังมากตั้งแต่เห็นคอลเลคชั่นนี้ครั้งแรก เพราะ บัลแมง ไม่ประนีประนอมเสื้อผ้าเซ็ทนี้เลย แรงบันดาลใจน่ะเหรอ? เหมือนจะหลุดติดมากับโชว์เสื้อผ้าผู้ชาย Spring 2018 ที่เล่นกับความฝรั่งเศสนิยมสุดขั้วจากลวดลายปริ๊นท์ขาวกับดำที่มีอยู่ทั่วตัว รวมไปถึงลายทางขาวสลับดำซึ่งยังมีให้เห็นอยู่ ดีเทลส์ละเอียดยิบพาเราไปไกลกว่าคำจำกัดความไหนๆ ไม่ใช่ทั้งปารีเซียนและอเมริกัน ส่วนดีไซเนอร์ฝากบอกมาว่า นี่เขาออกแบบผลงานตามใจผู้บริโภคเชียวนะ จะซื้อไปใส่กับกางเกงยีนส์ก็เอาเถอะ ไม่โกรธ
What I like: จะว่าง่ายก็ไม่ จะว่ายากก็ไม่เชิง เราเลยเลือกจั๊มพ์สูท (อีกครั้ง!) สีขาว เสริมไล่ คอลึก แต่งกระดุมสีทอง เพิ่มความเปรี้ยวด้วยขาม้า นี่คิดเผื่อการใส่ในเมืองไทยทั้งงานกลางวันและกลางคืนนี้แล้วนะ ถ้าเป็นงานแฟนซีก็อีกเรื่องนึง
6. Miu Miu
Review: โชว์ซึ่งจัดที่ Paris Automobile Club ก็พอจะเป็นคำใบ้ให้เรารู้แล้วสินะว่า มิว มิว จะนำเอเลเม้นท์อะไรมาเล่นใน Resort Collection นี้ เสื้อผ้าที่พาเราย้อนกลับไปช่วงทศวรรษที่ 1940s ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงรถ จับความแข็งแกร่งแบบมัสคิวลีน มาเติมสีและทรงให้ป๊อปขึ้นจนผู้หญิงใส่ได้ พร้อมโยนแอกเซสซอรี่ต่างๆ ลงมา ทั้งสร้อยคอ สร้อยข้อมือ และหมวก เราแอบเชียร์ลุคนี้ในใจเพราะเทรนด์วินเทจยังคงกลับมาเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยมีใครจับเอาแฟชั่นแบบ Oldies ไปเล่นได้สนุกเท่านี้มาก่อน
What I like: เบลาซ์สีน้ำเงินแต่งคริสตัลที่ปกเสื้อและไหล่ ดูสิว่าเวลาเดินผ่านแสงไฟมันจะ บลิง-บลิง ขนาดไหน มากับจั๊มพ์สูทสีดำที่ใส่แค่ครึ่งตัว ที่เหลือผูกเอวไว้ดูทะมัดทะแมง ถ้ากลัวว่าใส่ชุดหมีแล้วไม่รอด ลองจับลุคนี้ดู ยังไงก็รอด
(Get the look: Miu Miu ชั้น M ห้างสรรพสินค้า The EmQuartier)
7. Giorgio Armani
Review: ความน่าสนใจในรันเวย์ของ อาร์มานี่ คือโชว์ที่เด็กลง ด้วยการเล่นสีที่สว่างมากขึ้น เสื้อผ้าพริ้วไหวแลดูมีน้ำหนักเบาลง Resort Collection ของบ้านนี้เลยเป็นเหมือนการสลัดความเทอะทะที่สั่งสมมานานกว่า 40 ปีให้เหลือแต่เลเยอร์ที่จำเป็น สีหลักที่ใช้ก็มี แดงป๊อปปี้ มาเจนต้า และชมพู ที่เอาไว้ตัดสลับสีโทนดำ-เทา รูปทรงยังมีความเป็นเฟมินีนอยู่สูง ใช้การปักลวดลายลงบนผ้าชีฟอง ประดับเม็ดคริสตัล โปร่งสบายเพราะใช้ผ้าไหมและออร์แกนซ่า พวกกับผ้าปริ๊นท์ซึ่งใช้ลายโค้งมาเบรกทรงตรงของเดรส ไม่เรียบ แต่หรูสุด
What I like: เดรสเกาะอกตัวนี้ใช้ประโยชน์จากความเบาบางของเนื้อผ้า ให้แนบไปทรวดทรง สัมผัสสบายเหมือนใส่ชุดนอนออกจากบ้าน อ้อ เรายังชอบลายปริ๊นท์เพราะใช้โมทีฟแบบสีน้ำด้วยนะ สวยดี
(Get the look: Giorgio Armani ที่ Club 21 Services ชั้น M ห้างสรรพสินค้า The EmQuartier)