วิมานพาหนะขับเคลื่อนบนท้องฟ้า ในมหากาพย์ภารตะ กับ รามายณะ ของชาวอินเดียโบราณ..ที่ "ฮิตเลอร์" เชื่อว่าเคยมีอยู่จริง!!!

Vimana : วิมานพาหนะขับเคลื่อนบนท้องฟ้า ในมหากาพย์ภารตะ กับ รามายณะ ของชาวอินเดียโบราณ..ที่ "ฮิตเลอร์" เชื่อว่าเคยมีอยู่จริง!!!

เมื่อไม่นานมาแล้ว ชาวจีนได้ค้นพบแท่งหินอักขระจารึกภาษาสันสกฤตในเมืองลาศา ในทิเบต และส่งแท่นหินเหล่านี้ไปศึกษาค้นคว้าที่มหาลับชานดริการ์

ดร.รูท เรย์นา อาจารย์ประจำมหาลัยกล่าวว่า แท่งหินอักขระพวกนี้บ่งบอกถึงวิธีการสร้างยานอวกาศที่สามารถเดินทางไป มาระหว่างดวงดาวได้!!

ซึ่งเป็นยานที่สามารถต่อต้านแรงดึงดูดของโลก และมีหลักฐานที่เกี่ยวกับ เทคโนโลยีชนิดนี้ว่ามีใช้กันในอินเดียสมัยโบราณ

หรือในสมัยที่ยังมีอาณาจักรของพระรามอยู่ อาณาจักรนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอินเดียและปากีสถาน ได้ก่อตั้งมานาน 15,000 ปีแล้ว

ในทวีปอินเดียซึ่งตอนนั้น ยังแยกออกมาจากทวีปเอเซียอยู่และดำรงมาควบ คู่กับอาณาจักรแอตแลนติสที่อยู่กลางมหาสมุทรแอนแลนติกมาก่อน..

ตามหลักฐานของชาวอินเดียโบราณ ผู้คนในสมัยนั้นใช้ยวดยานพาหนะที่สามารถบินได้ชื่อ วิมาน(Vimanas)
แท่งอักขระ ได้บรรยายรูปร่างลักษณะของยานวิมานว่า

“มันเป็นยานที่มีสองชั้น รูปร่างค่อนข้างกลม มีท่อไอเสียอยู่ด้านล่าง และในห้องผู้โดยสารด้านบนมีรูปร่างคล้ายโดม ยานวิมานบินด้วยความเร็วที่ยิ่งกว่าสายลม ”

ในปี ค.ศ.1875 มีการค้นพบหลักฐานเกี่ยวกับยานชนิดนี้ในวัดแห่งหนึ่งในอินเดีย เป็นหลักฐานที่มีอายุอยู่ในช่วงศตวรรษที่สี่ก่อนคริสต์ศักราช

ในหลักฐานนั้นบ่บอกถึงวิธีการควบคุมยานวิมาน รวมถึงการบังคับเลี้ยว การระมัดระวังในการเดินทาง การป้องกันยานจากพายุและสายฟ้า และยังบอกวิธีการขับเคลื่อนโดยการใช้แสงอาทิตย์ที่คล้ายๆ กับ “แรงต่อต้านแรงโน้นถ่วง”

นอกจากนี้ หลักฐานชิ้นนี้ยังบอกวิธีการสร้างยานวิมานอย่างละเอียดถึงชิ้นส่วนของยาน 31 ชิ้น และวัสดุที่ใช้สร้างอีก 16 อย่าง

ซึ่งวัสดุพวกนี้มีคุณสมบัติที่ดูดซับแสงและความร้อนได้ และนี่คงเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างยานที่สามารถขับเคลื่อนไปบนฟ้าได้

ในด้านพลังงานที่ใช้ขับเคลื่อนนั้น หลักฐานกล่าวไว้ว่า ยานวิมานใช้ของเหลวสีขาวอมเหลือง เป็น สารประกอบที่คล้ายกัยปรอท ดูเหมือนว่าบางทีของเหลวสีขาวอมเหลืองนี้อาจเป็นสารที่คล้ายๆ กับน้ำมันเชื้อเพลิง

ในช่วงปี ค.ศ.1930 พรรคนาซีของฮิตเลอร์เคยส่งนักวิทยาศาสตร์ และนักโบราณคดีไปยังอินเดีย เพื่อเก็บเรื่องราวลึกลับ และวิทยาการในสมัยโบราณ ..

ที่พวกเขาเชื่อว่าเคยมีอยู่จริง พวกเขาเชื่อว่าอารยธรรมในอดีตนั้นมียานบินต่างๆ และรวมไปถึงอาวุธทำลายล้างที่พวกเขาเคยใช้ในอดีต

นักโบราณคดีเยอรมันได้ถอดความสันสกฤตโบราณ และอักขระโบราณเหล่านี้ว่า มีการบรรยายถึงเหตุการณ์ที่มียานบินผ่านอยู่บนฟ้า

โดยมีผู้สังเกตการณ์อยู่ในทวีปอเมริกาใต้, อาฟริกา, แถบแปซิฟิก และอื่นๆ เกือบทั่วโลก และเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ยังคงได้ศึกษาวิจัยต่อจากประเทศอเมริกาและโซเวียตให้ การสนับสนุน...

นอกจากนี้ยังมีทีมงานของจีน ก็เคยทำการสืบค้นอักขระภาษาสันสกฤตทั้งในทิเบต และ อินเดียเหมือนกัน และทางจีนเคยยืนยันแล้วว่า ข้อมูลจากแหล่งโบราณเหล่านี้ ได้ถูกนำมาใช้ในโครงการสำรวจอวกาศของพวกเขาเช่นกัน

นักวิทยาศาสตร์ชาว โซเวียตได้ค้นพบสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า

“เครื่องมือในยุคโบราณ ที่ใช้ระบบนำร่องของยาน”

ในถ้ำแห่งหนึ่งของประเทศตุรกี และในทะเลทรายโกบี มันเป็น อุปกรณ์ ที่เป้นรูปทรงครึ่งวงกลม ที่ทำมาจากแก้วเหมือนถ้วยชาม โดยส่วนปลายสุดจะเรียวเล็กลง เป็นรูปกรวยและมีสารปรอทอยู่ภายในด้วย ..

เป็นหลักฐานชี้ว่าชาวอินเดียในสมัยโบราณ เคยใช้พาหนะนี้บินผ่านทั่วเอเชียมาแล้ว และอาจจะเคยบินผ่านทวีปแอตแลนตีสมาแล้วด้วย..

นักโบราณคดีเยอรมันได้ถอดความสันสกฤตโบราณ และอักขระโบราณเหล่านี้ ว่ามีการบรรยายถึงเหตุการณ์ที่มียานบินผ่านอยู่บนฟ้า

โดยมีผู้สังเกตการณ์อยู่ในทวีปอเมริกาใต้, อาฟริกา, แถบแปซิฟิก และอื่นๆ เกือบทั่วโลก