GDP ดีขึ้น! หนี้ครัวเรือนลดลง
ผู้อำนวยการ สศค.ชี้แจงข้อวิจารณ์การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานรากของรัฐบาล.
นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีสื่อระบุ แม้ว่าเครื่องชี้ด้านเศรษฐกิจมหภาคของไทยจะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังไม่มีการกระจายตัวเท่าที่ควร และมีปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ว่า ในช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 4.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน สูงสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง โดยได้รับผลบวกจากมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการกระจายรายได้และความมั่งคั่งไปสู่ภาคส่วนต่าง ๆ ดังจะเห็นได้จากผลการจัดอันดับของ World Economic Forum (WEF) ด้านการเติบโตอย่างทั่วถึงและการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Inclusive Growth and Development Report 2017) โดยไทยอยู่ที่อันดับสูงที่ 12 จากจำนวน 79 ประเทศ และไทยได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับที่ 1 ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ซึ่งมาตรการสำคัญที่รัฐบาลได้ดำเนินการเพื่อส่งเสริมการกระจายรายได้ประกอบด้วยโครงการต่าง ๆ อาทิ (1) มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (2) โครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ และ (3) มาตรการการเงินการคลังเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร รวมถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ล่าสุด ภาครัฐได้ดำเนินการโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีผู้มีรายได้น้อยได้รับประโยชน์ดังกล่าว 11.4 ล้านคน โดยเป็นการช่วยเหลือในการลดภาระรายจ่ายของผู้มีรายได้น้อยในด้านคมนาคมขนส่งและค่าใช้จ่ายการอุปโภคบริโภคสินค้าและบริการ ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อการกระจายรายได้ของประชาชนและทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนและมีการจ้างงานในพื้นที่ทั่วประเทศอย่างกระจายตัวมากขึ้น
สำหรับประเด็นรายได้เกษตรกรยังขยายตัวไม่มาก ราคาสินค้าเกษตรยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่รัฐบาลก็ไม่มีมาตรการอุดหนุนราคา รวมทั้งผลกระทบจากภัยแล้งปีที่แล้ว ทำให้เกษตรกรมีหนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อในต่างจังหวัด ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวว่า ถึงแม้ว่าปัจจุบันราคาสินค้าเกษตรบางประเภทมีความผันผวน ภาครัฐได้มีมาตรการในการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งครอบคลุมทั้งข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ข้างโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น และได้มีมาตรการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบปัญหาภัยธรรมชาติ นอกจากนี้ สำหรับเกษตรกรที่มีรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อปี ก็จะได้รับความช่วยเหลือผ่านโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มกำลังซื้อให้กับเกษตรกร ดังจะเห็นได้จากข้อมูลภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนตุลาคม ปี 2560 ที่ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจภูมิภาคของไทยขยายตัวต่อเนื่อง และเครื่องชี้ด้านการบริโภคล่าสุดในเดือนตุลาคม ปี 2560 สำหรับภาคตะวันออก กทม. และปริมณฑล ภาคใต้ และภาคเหนือ ที่ขยายตัวร้อยละ 15.9 ร้อยละ 5.5 ร้อยละ 4.4 และร้อยละ 5.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้า
ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หนี้ครัวเรือนไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติล่าสุดของหนี้ครัวเรือนในไตรมาสที่ 2 ปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 78.4 ต่อ GDP ต่ำสุดในรอบ 6 ไตรมาส ทั้งนี้ ตัวเลขหนี้ครัวเรือนของไทยดังกล่าวได้รวมสินเชื่อที่ภาคครัวเรือนกู้ยืมเพื่อประกอบธุรกิจสร้างรายได้ด้วยที่มิใช่สินเชื่อเพื่อการบริโภคเพียงอย่างเดียว ซึ่งหากแยกสินเชื่อธุรกิจส่วนนี้ออก จะทำให้หนี้ครัวเรือนของไทยลดลงอยู่ที่เพียงร้อยละ 64.6 ต่อ GDP นอกจากนี้ ฐานะการเงินของครัวเรือนไทยยังมีความมั่นคง ดังสะท้อนได้จากสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของหนี้ครัวเรือน (NPL) ในไตรมาสที่ 2 ปี 2560 ที่อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 3.2 ของสินเชื่อครัวเรือนรวมเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง NPL ของสินเชื่อการอุปโภคบริโภคอยู่ในระดับต่ำเช่นกัน อาทิ NPL ของสินเชื่อบัตรเครดิตอยู่ที่เพียงร้อยละ 2.5 ของสินเชื่อบัตรเครดิต และในระยะต่อจากนี้ ทิศทางเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้แนวโน้มหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ของไทยน่าจะปรับลดลงในอนาคตด้วย