ศาลแพ่งสั่งโรงพยาบาลกรุงเทพคืนสิทธิรักษาตลอดชีพโครงการไลฟ์พริวิเลจแก่สมาชิกผู้ฟ้อง

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2560 เวลา 09.00 น. ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ได้อ่านคำพิพากษาคดีนางจุฑาทิพย์ สนิทพันธ์ กับพวกสมาชิกโครงการไลฟ์พริวิเลจ รวม 6คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กรณีโรงพยาบาลกรุงเทพ ผิดสัญญาสิทธิการรักษาพยาบาลตลอดชีพของสมาชิก เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2560 เนื่องจากคลับได้ทำการปิดลง โดยขอให้จำเลยเปิดดำเนินโครงการไลฟ์ พริวิเลจ คลับให้แก่โจทก์ในพื้นที่ชั้น 15 ของอาคาร D โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้จำเลยจัดพยาบาลประจำโครงการไลฟ์ พริวิเลจ คลับสำหรับดูแลโจทก์ เพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับให้บริการโจทก์ภายใต้โครงการต่อไปตามเดิมและอื่นๆ

โดยศาลแพ่งได้พิพากษาว่า ให้จำเลยปฏิบัติต่อโจทก์ทั้งหมดตามข้อตกลงในโครงการเอกสิทธิ์ของคุณภาพชีวิต และเปิดสโมสรไลฟ์ พริวิเลจ คลับ กับปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของสโมสรดังกล่าวตามแผ่นพับโฆษณา และให้จำเลยชำระเงิน 69,859.50 บาท แก่โจทก์ที่ 5 และจำนวน 46,909 บาท แก่โจทก์ที่ 6 พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 19,469.85 และ 7,216 บาท ตามลำดับ นับแต่วันฟ้อง (9 มิถุนายน 2560) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้ง6และค่าฤชาธรรมเนียมในส่วนที่โจทก์ทั้ง6ได้รับการยกเว้นต่อศาลในนามของโจทก์ทั้ง6โดยกำหนดค่าทนายความให้คนละ 20,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีคนละ 5,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

จุดเริ่มต้นคดีเกิดขึ้นหลังจากสมาชิกโครงการไลฟ์พริวิเลจ Life Privilege Club โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้รับหนังสือจากบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) ชี้แจงข้อเท็จจริงและแจ้งปิดโครงการไลฟ์พริวิเลจคลับเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2560 ว่า

“ตามที่บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน)ได้แจ้งให้ท่านสมาชิกทราบว่าการดำเนินโครงการไลฟ์พริวิเลจคลับ(Life Privilege Club) (“โครงการ”) ถือเป็นการประกอบธุรกิจประกันภัย ทำให้บริษัทฯไม่สามารถดำเนินโครงการฯต่อไปได้ จึงมีความจำเป็นต้องยุติโครงการฯและยกเลิกการให้สิทธิประโยชน์ภายใต้โครงการฯแก่ท่านสมาชิก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2560

ทั้งนี้เพื่อแสดงเจตนาอันดีของบริษัทฯ บริษัทฯได้เสนอคืนเงินค่าสมาชิกแรกเข้าพร้อมทั้งจ่ายเงินค่าชดเชยในอัตราร้อยละ 10(สิบ)ต่อปีของจำนวนเงินดังกล่าว นับตั้งแต่วันที่ได้รับเงินค่าสมาชิกแรกเข้าจากท่านสมาชิกจนถึงวันที่ยุติโครงการฯและให้ส่วนลดค่ารักษาพยาบาลเป็นกรณีพิเศษแก่ท่านสมาชิกตลอดชีพในอัตราร้อยละ 50(ห้าสิบ) โดยขอให้ท่านสมาชิกติดต่อนัดหมายเวลาเพื่อรับเงินและส่วนลดได้ที่แผนกไลฟ์พริวิเลจคลับตั้งแต่วันที่ 23 มกราคา 2560”

นอกจากนี้จดหมายที่บริษัทฯส่งถือสมาชิกอ้างถึงสำนักงานก.ล.ต.ว่า บริษัทฯต้องปิดโครงการ เนื่องจากจะต้องตั้งสำรองค่าใช้จ่ายตามมาตรฐานบัญชีใหม่   เกี่ยวกับสัญญาประกันภัย    และที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทฯให้ความเห็นว่าข้อตกลงที่บริษัทฯทำไว้กับสมาชิกเข้าลักษณะเป็นสัญญาประกันภัย หากทำต่อไปจะถือว่ามีเจตนาที่จะกระทำผิดกฎหมาย

ผลกระทบจากการยกเลิกโครงการนี้  ทำให้สมาชิกโครงการ ไลฟ์ พริวิเลจคลับร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ ถือว่าเป็นการผิดสัญญากับสมาชิก เพราะตอนที่ซื้อฐานะสมาชิกโครงการนี้เมื่อปี 2544 บริษัทฯสัญญาว่าจะดูแลสุขภาพของสมาชิกไปตลอดชีวิต โดยจ่ายค่ารักษาครั้งละ 100 บาทแลกกับการจ่ายค่าสมาชิกเท่ากับราคาทองคำหนัก 200 บาทขณะนั้น หรือค่าสมาชิกคนละประมาณ 1 ล้านบาท

“พวกเราต้องการให้บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการดูแลสุขภาพไปตลอดชีวิตตามข้อตกลงเดิม  หากไม่ยินยอมก็จะต้องไปฟ้องศาลแพ่ง   กรณีผิดสัญญาที่ให้ไว้กับสมาชิก    บริษัทฯอย่าเอาเรื่องเงินมาแลกกับชีวิตของคน  พวกเราลงทุนเป็นสมาชิก เพราะไม่ต้องการเป็นภาระของลูกหลาน   และมีการยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิต  เวลาที่ผ่านมา 14ปี มาถึงตอนนี้ ทุกคนก็มีอายุมากแล้ว หลายคนก็ป่วย  เป็นมะเร็งต้องผ่าตัดแต่บริษัทฯกลับปิดโครงการทันที ทำให้สมาชิกได้รับความเดือดร้อนมาก” นายประเสริฐ เอื้อกมลสุโข สมาชิกไลฟ์พริวิเลจ กล่าวขณะนำสมาชิก 95 คนจากจำนวนสมาชิก 284 รายยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ก.ล.ต. (คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์)ขอให้ตรวจสอบบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 

นางจุฑาทิพย์ สนิทพันธ์ ผู้ชนะคดีได้กล่าวขอบคุณศาลและหน่วยงานอื่นๆที่มองเห็นความเดือดร้อนของสมาชิกไลฟ์พริวิเลจ  อยากให้กรณีนี้เป็นบรรทัดฐานต่อสังคม เป็นตัวอย่างแก่โรงพยาบาลอื่น โดยส่วนตัวสมัครเป็นสมาชิกตั้งแต่ปี 2545 เสียค่าสมาชิก 1 ล้านบาท ทางโรงพยาบาลสัญญาว่าจะให้การบริการอย่างดี ทั้งห้องพักผู้ป่วย การรักษาพยาบาล แต่เมื่อมายกเลิก จึงส่งผลกระทบ เนื่องจากปัจจุบันค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้นกว่าเดิม จึงมีคำสั่งให้โรงพยาบาลกรุงเทพกลับไปเปิดคลับ และให้สิทธิ์การรักษาพยาบาลคืนแก่สมาชิกตามเดิม ซึ่งคาดว่ามีผลบังคับเลย