โอ้มายก๊อด!!! "สนามบินสุวรรณภูมิ" ฐานรูปปั้นยักษ์ เป็นที่กราบไหว้บูชา ถวายน้ำแดง
แม้ใจบอกว่าไม่ แต่ลึกๆคนในนี้ก็ยังกราบไหว้ผีและศาสนาอื่น!?! ปล่อยให้เลอะเทอะมานาน! เมืองไทยวันนี้ไปกันใหญ่แล้ว ถ้าเจ้าหน้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่รีบเก็บ ไม่รีบเคลียร์บรรดาขวดน้ำแดง อีกสักพักคงวุ่นแน่ ต้องมีแผงขายดอกไม้ธูปเทียน ซุ้มนางรำแก้บน บูธขายม้าลาย ตลาดนัดขายเครื่องรางของขลังเต็มสนามบินแน่
แม้จะเป็นเพียงแค่รูปปั้นที่ไร้ชีวิต แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าประติมากรรมรูปยักษ์ทั้ง 12 ตน ที่ยืนเรียงรายอยู่บริเวณทางเดินภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิชั้น 2 จะมีอิทธิพลสร้างความรู้สึกหลากหลายให้กับผู้ที่พบเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องทำงานอยู่ภายในสนามบินแห่งนั้นทุกวัน
ตามตำนานของไทยเชื่อว่า ยักษ์คือตัวแทนของฝ่ายอสูรที่อยู่ตรงข้ามกับเทพบนสวรรค์ ในวรรณคดีหลายเรื่องก็มักจะปรากฏการต่อสู้ระหว่างฝ่ายยักษ์กับเทวดาเสมอ เมื่อเส้นบางๆ ระหว่างความเชื่อและศิลปกรรมดั้งเดิมของไทยเกี่ยวพันกันจนแทบจะแยกไม่ออก ฉะนั้นเราจึงได้เห็นพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบวงสรวงบูชาเทพเทวา รวมทั้งเทพฝ่ายอสูรอย่างยักษ์ด้วย
ยักษ์ทั้ง 12 ตน
ทศกัณฐ์ ยักษ์ตนนี้ คนไทยจะรู้จักกันดีว่าคือ ยักษ์นนทุกบนสวรรค์ที่จุติมาเป็นโอรสของท้าวลัสเตียน และพระนางรัชดามเหสี มีสิบเศียร ยี่สิบกร และมีอิทธิฤทธิ์มาก เกิดมาใหม่เพื่อมาต่อสู้กับพระรามหรือนารายณ์อวตาร เป็นเจ้าเมืองนครลงกา มีนางอัคคี และนางมณโฑ เป็นเมียเอก นอกจากนี้ยังมีนางสนมอีกจำนวนมาก
ท้าวสหัสสเดชะ เป็นเจ้านครปางตาล มีลักษณะพิเศษ คือ มีกายใหญ่โตสีขาว มีถึง 1,000 พักตร์ 2,000 กร ตาสีแดงดังดวงอาทิตย์ ได้พรจากพระพรหมให้มีตะบองวิเศษที่ชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็น และเมื่อรบกับผู้ใดก็ให้กองทัพอื่นแตกกระจายไป
ท้าวจักรวรรดิ เป็นสหายของทศกัณฐ์ ครองกรุงมลิวัน มีสี่พักตร์ แปดกร
อัศกรรณมารา เป็นเจ้าครองกรุงดุรัม เป็นสหายของทศกัณฐ์ มีกายสีม่วง มี 7 พักตร์ 2 กร
อินทรชิต เดิมมีชื่อว่า รณพักตร์ เป็นโอรสของทศกัณฐ์กับนางมณโฑ มีมเหสีชื่อว่า นางสุวรรณกันยุมา มีบุตรชื่อยามลิวัน กับกันยุเวก ได้บำเพ็ญตบะแก่กล้าจนได้พรจากพระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม
ทศคีรีธรและทศคีรีวัน เป็นโอรสของ ทศกัณฐ์ กับนางคชสาร (ช้าง) จึงมีหน้าเป็นช้างเหมือนแม่ แต่ตัวเป็นยักษ์เหมือนทศกัณฐ์ผู้พ่อ อัศกรรณมาราได้ขอไปเป็นบุตรบุญธรรม ครั้นเดินทางมาเยี่ยมพ่อ ได้รับทราบถึงการศึกกับพระราม จึงอาสาช่วยรบ แต่ทั้งคู่ก็ต้องตายด้วยศรของ พระลักษมณ์
มังกรกัณฐ์ เป็นโอรสของพระยาขร กับนางรัชฏาสูร แห่งนครโรมคัล (พระยาขรเป็นหนึ่งในโอรสท้าวลัสเตียนพ่อทศกัณฐ์) มังกรกัณฐ์ ชาติก่อนคือทรพี ควายป่าที่วัดรอยเท้าและฆ่าพ่อคือทรพาตาย และเมื่อฆ่าพ่อแล้วยังเหิมเกริมเที่ยวท้ารบไปทั่ว จนในที่สุดก็ถูกพาลี (พญาลิงเจ้าเมืองขีดขิน-น้าหนุมาน) ฆ่าตาย และยังถูกพระอิศวรสาปซ้ำให้ต้องตายด้วยศรพระนารายณ์อีกครั้ง
มัยราพณ์ เป็นโอรสของมหายมยักษ์ กับนางจันทรประภา เมื่อมหายมยักษ์ผู้พ่อตายก็ได้ครองเมืองบาดาลสืบมา
สุริยาภพ เป็นโอรสของท้าวจักรวรรดิ และนางวัชนีสูร มีหอกเมฆพัทเป็นอาวุธวิเศษ
วิรุญจำบัง เป็นโอรสพญาทูษณ์ครองเมืองจารึกต่อจากพ่อ (พญาทูษณ์เป็นโอรสอีกองค์ของท้าวลัสเตียนพ่อทศกัณฐ์ แต่ต่างมารดากัน)
วิรุฬหก เป็นยักษ์ที่มีวิมานอยู่ใต้แผ่นดินชื่อว่าเมืองบาดาล หรือบางแห่งว่าเมืองมหาอันธการนคร ในปีหนึ่งๆจะเดินทางไปเฝ้าพระอิศวร 7 ครั้ง
จนท.การท่ากำลังงงกันยกใหญ่ หลังมีคนซื้อน้ำแดงมาไหว้ยักษ์กลางสนามบินสุวรรณภูมิ...
— Prajya Aura-ek Phil (@Phil_Prajya) December 4, 2017
//ผมจองที่เปิดแผงขายของขลังยทท.จีนหนึ่งแผงครับ pic.twitter.com/v0kmhaXIX2