มาดูเพจเกี่ยวกับรถไฟเขาอธิบายเรื่องการถอดเก้าอี้ออก ตปท. ก็มีเป็นเรื่องปรกติ

การเอาที่นั่งออก นี่ทำให้ BEM ได้กำไรมากขึ้นยังไง? คนจะฮือฮาน้ำตาไหลแห่มาใช้บริการมากกว่าปกติเพราะเอาเก้าอี้ออก? นี่เป็นแรงจูงใจให้คนมาใช้บริการมากขึ้นหรือเปล่า?
.
เนื่องจากเราพอมีข้อมูลอยู่บ้าง เลยขอนำมาแลกเปลี่ยนกันครับ
-------------

1. การถอดที่นั่งเป็นการทดลอง ถ้าทดลองแล้วไม่โอเค คนไม่ชอบ หรือมันช่วยได้ไม่คุ้มเสีย ก็เลิก ไม่ใช่ถอดแล้วจะถอดตลอดไป

2. การที่ BEM ทำแบบนี้ เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งในระยะยาวจะมีการเพิ่มจำนวนขบวนรถ (สั่งไปแล้ว รอของมาส่งปี 61-62) แต่ทำไมถึงสั่งช้ารอให้แน่นก่อน อันนั้นก็อยู่ที่การบริหารงานของ BEM ละครับ

3. ที่นั่งที่ถูกถอดออกมีแค่ที่นั่งแถวกลาง (14 ที่นั่ง ระหว่างประตู 2-3) คนที่กังวลว่าคนแก่คนพิการจะไม่มีที่นั่ง ไม่ต้องห่วงนะครับ ยังมีที่นั่งอยู่อีกตู้ละ 28 ที่ ไม่ได้นำออกไปทั้งหมดครับ

4. ไม่ใช่ว่าไทยทำที่แรก รถไฟฟ้าต่างประเทศเขาก็ทำ ที่สิงคโปร์ญี่ปุ่นเขาก็มีตู้ที่เป็นที่โล่งให้ยืน ซึ่งเขาทดลองกันมาหลายปีแล้ว พบว่าในกรณีรถหนาแน่น มันช่วยให้คนขยับชิดในได้ง่ายกว่า และเบียดตัวลงมาจากรถได้เร็วกว่า ตามภาพประกอบเป็นรูปที่เพจเพื่อนบ้านเราถ่ายมาตอนที่ไปสิงคโปร์สัปดาห์ก่อนครับ

5. ARL Express ของเราก่อนจะเอาไปเปลี่ยนเป็นแบบสองแถว ก็เคยทดลองถอดเบาะออกบางส่วนให้เป็นที่ยืน ซึ่งก็ได้ผลดี จุผู้โดยสารได้มากขึ้น รวมถึงรถไฟฟ้าที่สั่งใหม่ของ BTS ก็มีบางส่วนของตู้รถไฟที่ไม่มีที่นั่ง คราวนี้ไม่ใช่ "ถอดออก" แต่เป็นการ "ไม่ได้ติดที่นั่ง" มาตั้งแต่ต้นเลย

6. ขบวนรถไฟชุดใหม่ของ BEM อีก 35 ขบวน (ของเดิม 19 ขบวน) จะทยอยมาถึงในปี 2561-62 ช่วงนั้นคนเดินทางด้วย MRT ก็คงจะสบายขึ้นเป็นระยะสั้นๆ ครับ เพราะหลังจากเปิดส่วนต่อขยายเต็มระบบแล้ว จำนวนรถที่มาเพิ่มก็จะถูกกระจายไปตามเส้นทางจนความถี่ไม่ได้เยอะมากอยู่ดี ถึงวันนั้นก็อาจจะต้องมีการเพิ่มตู้-เพิ่มขบวนกันอีกรอบครับ

.
คนที่เคยใช้บริการ MRT ช่วงเช้าๆ ก็คงจะเห็นและรู้ว่ามันลำบากยังไง เท่าที่เห็นคือคนใช้บริการจริงๆ ยินดีที่เห็นการพยายามแก้ปัญหาและไม่ได้บ่นสักเท่าไหร่ มีแต่คนที่ไม่เคยได้ใช้บริการช่วงเร่งด่วนเป็นประจำ กับคนด่าไปตามกระแส