[[อีกกระทู้สำหรับรีวิวหนังTHOR RAGNAROK]] - คุณค่าอาจไม่ค่อยมี แต่ก็ควรค่าแก่การดู เพราะความสนุกปนฮามาเต็ม
เนื้อหาโดย [S]UPERMAN
รีวิว Thor Ragnarok
เนื้อหาโดย: [S]UPERMAN
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
VOTED: แสร์, หญิงแท้แก๊แก่, zerotype, [S]UPERMAN, ซาอิ, guffy
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
ช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
ทหารเขมร อดอยาก ถึงขั้นขุดมัน ของชาวบ้านมากิน
เขมรขู่ไทย! ขอเงินเยียวยาทหารดับรายละ 5 แสน..ไม่ให้จะฟ้องศาลโลก อ้างโดนรุกราน
สื่อต่างประเทศระบุ แรงงานต่างชาติที่ถูกกักขังโดยไม่เต็มใจในกัมพูชา ตามศูนย์สแกมออนไลน์ทั้งหลาย ถูกบีบบังคับให้ยังคงทำงานหาเงินต่อไป
"เจนนี่ BLACKPINK–จางวอนยอง IVE" กับดราม่า "รุ่นพี่-รุ่นน้อง"..กลายเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียลทั่วเอเซีย
กัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุม
เลขเด่นงวดต้นปี: เจาะลึกคำชะโนดและสำนักดัง 2/1/69Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เขมรขู่ไทย! ขอเงินเยียวยาทหารดับรายละ 5 แสน..ไม่ให้จะฟ้องศาลโลก อ้างโดนรุกราน
สื่อต่างประเทศระบุ แรงงานต่างชาติที่ถูกกักขังโดยไม่เต็มใจในกัมพูชา ตามศูนย์สแกมออนไลน์ทั้งหลาย ถูกบีบบังคับให้ยังคงทำงานหาเงินต่อไป
ชายอเมริกันปลูกแครอทหนัก 20.3 กิโลกรัม ทำลายสถิติโลก!
เซตเมนูอาหารเช้า เติมพลังสมอง ช่วยให้มีสมาธิ



สำหรับธอร์ภาคนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นภาคที่จัดความบันเทิง ความสนุกเฮฮา ให้กับได้อย่างดีเยี่ยมที่สุด
แต่ถ้าถามถึงในแง่ของคุณภาพของตัวหนัง ถ้าวัดจากตัวเนื้อเรื่อง ตัวบท หรือองค์ประกอบในความเป็น Cinematic คิดว่ายังคงไม่สามารถเทียบได้กับ ธอร์ ภาคแรก ซึ่งในภาคนั้น ผมยกให้เป็นธอร์ภาคที่สมบูรณ์ที่สุด แม้ว่าจะมีหลายคนค่อนแคะภาคนั้นว่าดูลิเก ดูเล่นใหญ่รัชดาลัย แต่ในความเห็นผม ธอร์ มันไม่ใช่คนปกติอยู่แล้ว ในความเป็นเทพเจ้า มันต้องมาพร้อมกับความขลัง ความโออ่า ดูเยอะๆ มีลูกเล่น และดูแกรนด์ๆ อาจเหมือนละครเวทีนิดนึง แต่มันดูแล้วเข้ากับบริบทของธอร์มากๆ
นอกจากนี้ ทั้งนักแสดง และตัวเนื้อเรื่อง ยังมีการเล่าออกมาได้อย่างลงตัว พร้อมๆกับการถ่ายภาพ การจัดโทนสีและองค์ประกอบ ไปจนถึงการตัดต่อ เรียกได้ว่าภาคแรก งานเนี๊ยบมาก แต่ถ้าจะกล่าวถึงภาคแรกมากกว่านี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า จะหาว่าเรามารีวิวหนังภาคแรกอีก ไม่ก็คนที่คิดในแง่ร้ายหน่อย อาจรู้สึกได้ว่า เรากำลังหยิบยกคุณงามความดีของภาคแรกมาทับถมภาคนี้
ซึ่งจริงๆแล้ว เราไม่ได้จะทำอย่างนั้น
แต่กำลังจะบอกว่า
สำหรับธอร์ภาคนี้ ความขลังที่สะสมมาทั้งสองภาค ถูกพังทลายผ่านมุขตลกสุดแสนเลอะเทอะตลอดเรื่อง
ถ้ามองในแง่ดี ในความเลอะเทอะนี้ เราก็จะได้เห็นโลกใหม่ มิติใหม่ของธอร์
อาจจะไม่ใช่แค่ ธอร์ ชวนชื่น หรือ พี่ฮัล์ค เชิญยิ้ม
แต่ในแง่ของการดำเนินเรื่อง ก็ต้องยอมรับว่าภาคนี้มันสามารถทำให้ความดราม่าหนักหน่วงมากมาย
ดูแล้วยังหัวเราะออกมาได้ แล้วยังมีช่วงที่ผมชอบอย่างที่ ซาคาร์ อาณาจักรดวงดาวอันไกลโพ้น
ที่ในความไม่สมเหตุสมผล มันสนุก ล้ำ เร้าใจ เหมือนหนังภาคนี้ทั้งเรื่อง ที่ให้ความสำคัญกับแก๊กหรือมุขย่อยๆ มากกว่าตัวเรื่องหลักๆ
สิ่งที่เสียดายคือ จั่วหัวมาว่าศึกอวสานเทพเจ้า ขุ่นแม่เคต แบลนเชล์ต แม้จะเป็นถึงเทพธิดาแห่งความตาย
ก็อาจต้องมีเก้อ เพราะบทส่งมาไม่ค่อยเยอะนัก คนดูอย่างเราเลยรู้สึกกับการเอาใจเชียร์ธอร์กับฮัล์คสู้กันไปจนถึงภารกิจในซาคาร์แทน
ยังไม่หมดเท่านี้ ใครอยากต่อก็ติดตามรีวิวต่อได้ใน Live นะครับ